ตลาดหุ้นไทยท้ายภาคเช้ารูดต่อไปเป็นกว่า 20 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศที่ตอบรับปัจจัยลบสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กังวลจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยดัชนีแกว่งตัวผันผวนหลังจากสามารถดีดขึ้นไปในแดนบวก แต่ต้องเผชิญแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากดัชนีรีบาวด์ได้ระดับหนึ่งในช่วงต้นภาคเช้า และมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาด้วย
เมื่อเวลา 12.00 น.ดัขนี SET มาอยู่ที่ 1,615.67 จุด ลดลง 11.73 จุด (-0.68%)
และ ล่าสุด เวลา 12.17 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,605.64 จุด ลดลง 21.06 จุด (-1.29%)
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายภาคเช้าปรับตัวลดลงกว่า 10 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งยังคงมาจากปัจจัยกดดันในเรื่องของรัสเซียและยูเครนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนยังคงเกิดความกังวลมากขึ้นว่าหากสถานกาณ์ยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง และยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถเจรจากันได้โดยเร็ว จะเป็นปัจจัยกดดันให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวจากการเร่งขึ้นมาของอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่ปรับขึ้นสูง
ทั้งนี้ มองว่ายังมีโอกาสที่ดัชนีจะย่อตัวลงไปที่แนวรับสำคัญที่ระดับ 1,600 จุดได้