'ไบเดน' สั่งหน่วยงานรัฐ
ศึกษาผลกระทบคริปโทฯ ขณะเฟดประเมินข้อดีข้อเสีย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมลงนามในสัปดาห์นี้ในคำสั่งฝ่ายบริหารที่เกี่ยวกับกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐทางด้านสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี โดยคาดว่าปธน.ไบเดนจะสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐ ทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมาย รวมทั้งผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติ และทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสกุลเงินดิจิทัล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หลายฝ่ายจับตาท่าทีของทำเนียบขาวว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสกุลเงินคริปโทฯ หลังจากสหรัฐและบรรดาชาติพันธมิตรได้พากันคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าองค์กรต่าง ๆ และประชาชนชาวรัสเซียอาจใช้คริปโทฯ เป็นเครื่องมือในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร
ปธน.ไบเดนกำลังถูกกดดันให้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล โดยบรรดาผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมต่างก็ร้องเรียนว่า กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทฯ ในขณะนี้ยังขาดความชัดเจน
ทั้งนี้ คาดว่าคำสั่งของปธน.ไบเดนจะผลักดันให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐ ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศไปจนถึงกระทรวงพาณิชย์ เข้ามามีบทบาทในการร่างกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโทฯ
นอกจากนี้ คาดว่าคำสั่งของฝ่ายบริหารจะระบุถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) อย่างไรก็ดี คาดว่าคำสั่งดังกล่าวอาจจะไม่ลงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ CBDC เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของ CBDC อยู่ในขณะนี้
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา เฟดได้เปิดเผยรายงานการศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของสกุลเงิน CBDC พร้อมกับเปิดกว้างให้สาธารณชนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดังกล่าวด้วย
เฟดระบุว่า สกุลเงิน CBDC จะช่วยเสริมสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก อีกทั้งจะช่วยให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจได้รับความสะดวกและมีความปลอดภัยสำหรับใช้เป็นทางเลือกด้านการใช้จ่าย ขณะเดียวกันก็จะช่วยให้การชำระบัญชีข้ามประเทศมีความรวดเร็วมากขึ้น และมีค่าธรรมเนียมที่ลดลง
อย่างไรก็ดี เฟดระบุถึงข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างว่า สกุลเงิน CBDC อาจจะทำให้เกิดการไหลออกของเม็ดเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน นอกจากนี้ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการรับมือกับการเงินที่ผิดกฎหมายก็ถือเป็นอีกประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ เฟดกำลังจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับความคิดเห็นของสาธารณชนไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค.ปีนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่หลายประเทศกำลังสำรวจเรื่องสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนและออกโดยธนาคารกลาง ซึ่งรวมถึงจีนที่กำลังผลักดันโครงการนำร่องเพื่อพัฒนาสกุลเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐกังวลว่า สกุลเงินดิจิทัลของจีนอาจจะบั่นทอนสถานะของสกุลเงินดอลลาร์ในท้ายที่สุด