ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้น ขณะจับตาราคาน้ำมันหลังสหรัฐแบนนำเข้าจากรัสเซีย  (อ่าน 463 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • *
  • กระทู้: 1,097
  • Popular Vote : 0
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้น ขณะจับตาราคาน้ำมันหลังสหรัฐแบนนำเข้าจากรัสเซีย

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อหลังตลาดร่วงลงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 24,876.49 จุด เพิ่มขึ้น 85.54 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,820.02 จุด เพิ่มขึ้น 54.15 จุด หรือ +0.26% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,303.71 จุด เพิ่มขึ้น 10.18 จุด หรือ +0.31%

ปธน.ไบเดนออกแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า สหรัฐจะระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยถ้อยแถลงของปธน.ไบเดนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4%

คริส เซนเยค นักวิเคราะห์จากบริษัท Wolfe Research กล่าวว่า นักลงทุนยังคงวิตกกังวลการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้น จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยขณะนี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นเป็นวงกว้าง ตั้งแต่น้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน ไปจนถึงโลหะมีค่าอย่างนิกเกิลและพัลลาเดียม

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังอาจทำให้แผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผชิญกับความไม่แน่นอน โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้เฟดใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากขณะนี้การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-กำลังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่น่าติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของออสเตรเลียจากเวสต์แพค รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ของจีน