ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 24.54 จุด ตอบรับความคาดหวังเจรจารัสเซีย-ยูเครนพรุ่งนี้,จับตา ECB  (อ่าน 232 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 24.54 จุด ตอบรับความคาดหวังเจรจารัสเซีย-ยูเครนพรุ่งนี้,จับตา ECB

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด (+1.52%) มูลค่าการซื้อขาย 115,051.73 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นจากแรงซื้อกลับหลังจากราคาลงไปมากแล้ว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ตลาดฯ เริ่มมีความหวังเชิงบวกต่อการเจรจารอบใหม่ระหว่างรัสเซียและยูเครนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศพรุ่งนี้อาจนำไปสู่ข้อตกลงหยุด และหวังการประชุม ECB จะอัดสภาพคล่องเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากสงคราม แนวโน้มพรุ่งนี้มีโอกาสขึ้นไปต่อ ทดสอบแนวต้าน 1,650-1,655 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,640 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด (+1.52%) มูลค่าการซื้อขาย 115,051.73 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในช่วงเช้าและปรับตัวขึ้นในช่วงบ่าย โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,643.87 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,610.34 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,513 หลักทรัพย์ ลดลง 473 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 413 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทยป กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้หลังจากลงลึกไปถึง 1,570-1,580 จุด กลุ่มที่ถูกเทขายไปก่อนหน้าหนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามามาก อาทิ กลุ่มแบงก์ กลุ่มเกี่ยวข้องชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ เช่น AOT เป็นต้น

นักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจราระหว่างรัสเซียและยูเครนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในวันพรุ่งนี้ หลังจากมีข่าวว่าประธานาธิบดียูเครนประกาศไม่ขอเป็นสมาชิก NATO และที่ผ่านมา NATO ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือยูเครน ทำให้มีความหวังผลการเจรจาจะนำไปสู่การหยุดยิง

นอกจากนั้น วันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต้องติดตามว่า ECB จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบหรือไม่หลังจากยุโรปได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากวิกฤตสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้จึงมองว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยน่าจะสามารถขึ้นมาทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,650-1,655 จุด และให้แนวรับไว้ที่ 1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 7,112.59 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 6,734.34 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 6.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,560.16 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,200.22 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,143.74 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท