ดาวโจนส์ร้อนแรงพุ่งกว่า 600 จุด ขานรับความหวังใกล้ปิดฉากสงคราม
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 600 จุด หลังการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความคืบหน้า ซึ่งจะปูทางให้สงครามในยูเครนยุติลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มปรับตัวมีเสถึยรภาพ หลังจากที่พุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ และสร้างความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ณ เวลา 22.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,236.60 จุด บวก 603.96 จุด หรือ 1.85%
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาด สวนทางหุ้นพลังงานที่ดิ่งลงเพียงกลุ่มเดียวในวันนี้ สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
นักลงทุนคาดหวังว่าสงครามในยูเครนใกล้ยุติลง หลังจากมีข่าวว่ายูเครนได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขณะที่รัสเซียเปิดเผยว่าการเจรจากับยูเครนมีความคืบหน้า
ทั้งนี้ ทางการรัสเซียแถลงในวันนี้ว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งกำลังมีความคืบหน้า และรัสเซียไม่มีความประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน
"การเจรจาประสบความคืบหน้า" นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าว โดยระบุถึงการเจรจาสันติภาพ 3 รอบระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน
นางซาคาโรวากล่าวว่า รัสเซียไม่มีความประสงค์ที่จะยึดครองยูเครน หรือโค่นล้มรัฐบาลยูเครน
"เป้าหมายของกองทัพไม่ได้ต้องการยึดครองยูเครน หรือทำลายความเป็นรัฐของยูเครน หรือคว่ำรัฐบาลยูเครน และไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน" นางซาคาโรวากล่าว
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียต้องการที่จะเจรจาสันติภาพรอบใหม่กับยูเครน ทันทีที่คณะผู้แทนของยูเครนมีความพร้อม
นอกจากนี้ นายเพสคอฟยังกล่าวว่า การเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ในวันพรุ่งนี้ที่ตุรกี ถือว่ามีความสำคัญในกระบวนการหารือเพื่อหาทางออกต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI ร่วงหลุดระดับ 117 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุดระดับ 121 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตรียมระบายน้ำมันออกสู่ตลาดเพื่อสกัดราคาที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%