นายกฯ ยืนยัน
ตรึงราคาดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทจนกว่าจะทำไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยยืนยันว่า รัฐบาลยังคงตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตรจนกว่าจะตรึงไม่ได้ โดยจะพยายามทำให้ที่สุด เพราะต้องยอมรับว่างบประมาณมีอยู่จำกัด และที่ผ่านมาได้ถูกนำไปใช้ในเรื่องของสาธารณสุขค่อนข้างมาก
พร้อมระบุว่าราคาน้ำมันในขณะนี้ยังสูงขึ้น และไม่มีแนวโน้มลดลง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหามาตรการที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ดีเซล รวมถึงผู้ใช้เบนซินในลักษณะเฉพาะกลุ่ม
"จะตรึงราคาน้ำมันจนกว่าจะตรึงไม่ได้ ซึ่งจะตรึงราคาไปถึง 30 บาทจนกว่าที่จะไม่สามารถรับได้ ถ้าเกิน 130 เหรียญจะทำอย่างไร ถ้าเกิน 150 เหรียญจะทำอย่างไร ถ้าเกิน 180 เหรียญจะทำอย่างไร ซึ่งหากเปรียบเทียบในหลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีราคาสูงเช่นเดียวกัน แต่เป็นในระยะสั้น สถานการณ์ไม่ได้ยาวนานเช่นนี้ และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะปรับลดลง เพราะเป็นคนละสถานการณ์กัน การแก้ไขปัญหาวันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน
วันนี้ประเทศไทยมีความเจริญ มีประชากรจำนวนมากและจำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ผลกระทบก็มากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัญหาของเรา คือ งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เพราะมีการนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พอสมควร ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในทุกมิติ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด"
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มีหลายเรื่องที่เป็นปัญหาที่รัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการแก้ไขและลดความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องพลังงานและน้ำมันเพียงอย่างเดียว และน้ำมันก็มีทั้งดีเซล เบนซิน เอ็นจีวี แอลพีจี ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกันหมด ต้องหามาตรการบริหารว่าจะทำอย่างไรที่จะเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดเท่าที่รัฐบาลจะสามารถทำได้ ทั้งมาตรการทางด้านภาษี ทั้งด้านเงินที่จัดหามาทดแทนกองทุนพลังงานที่มีจำกัด ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท หากเกินกว่านั้นจะทำอย่างไร
"ถ้าราคาอยู่ในปัจจุบัน เราจะดูแลได้ถึงระยะเวลาเมื่อไหร่ ถ้าสูงกว่านี้จะทำอย่างไร ถ้าสูงกว่านั้นไปอีก จะทำอย่างไรอีก ถ้าท้ายที่สุด สูงขึ้นไปอีก ก็จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะหลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ราคาน้ำมันของเราหรือราคาแก๊สของเราอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับในอาเซียนทั้งหมด แต่ไม่ได้ต่ำที่สุด เพราะมีประเทศที่มีแหล่งพลังงานอยู่ในประเทศ ตรงนี้ต้องเข้าใจกันด้วย นายกฯ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก พูดไปก็ถูกเอาไปบิดเบือนหมด พูดไปบางทีก็ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ เพราะไปจับแต่ประเด็นที่จะเป็นปัญหาออกไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จะเรียกคณะกรรมการเกี่ยวกับแร่ต่างๆ มาหารือ ว่าประเทศไทยมีแหล่งแร่ที่ใดบ้างที่จะนำมาทำปุ๋ย เพื่อหาวัตถุดิบลดต้นทุน แต่ต้องไม่เกิดความขัดแย้ง ซึ่งถ้ามีก็ไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตปุ๋ยในราคาแพงจากต่างประเทศ แล้วมาโวยวายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา รวมถึงการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งก็ยึดโยงกับภาคพลังงาน