ดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด หลุดแนว 33,000 กังวลเงินเฟ้อพุ่ง,เจรจารัสเซีย-ยูเครนล่ม
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด หลุดระดับ 33,000 จุดในวันนี้ หลังการเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,904 65จุด ลบ 381.60 จุด หรือ 1.15%
การประชุมระหว่างนายลาฟรอฟและนายคูเลบาซึ่งจัดขึ้นที่ตุรกีในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง
ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศแต่อย่างใด
"เราได้หารือกันเกี่ยวกับการหยุดยิงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยการเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก" นายคูเลบากล่าวในการแถลงข่าว
นายคูเลบายังแสดงความผิดหวังต่อการที่นายลาฟรอฟได้เข้าร่วมการเจรจา แต่ไม่มีอำนาจในการทำข้อตกลงหยุดยิง
"ดูเหมือนว่ามีผู้ที่อยู่ในรัสเซียกำลังบงการการตัดสินใจดังกล่าว" เขากล่าว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.8%
นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7%
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2525 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.5% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 217,000 ราย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%