ADD
เข้าลงทุนธุรกิจที่ปรึกษาบัญชี-ประเมินผลกระทบสวล.ต่อยอด Digital Transformation
นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.แอดเทค ฮับ (ADD) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด (7C) จำนวน 9,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท หรือคิดเป็น 46.7337% ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนของ 7C โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 140.20 ล้านบาท
สำหรับ 7C ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี การวางระบบควบคุมภายใน การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ และที่ปรึกษาในการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้แก่บริษัทต่างๆ มากกว่า 30 บริษัท รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่แล้วอีกหลายบริษัท โดยคาดว่าหลังการเข้าทำรายการ 7C จะมีบริษัทย่อยจำนวน 2 บริษัท ดังต่อไปนี้
1 . บริษัท มาย โค๊ดดิ้ง โรแมนซ์ จำกัด (MCR) ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยของ 7C โดยเป็นการร่วมลงทุนกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีและนักลงทุนในธุรกิจไอที เพื่อประกอบกิจการจัดอบรมและจัดให้มีการเรียนการสอนและพัฒนาบุคลากรด้านไอที โดยมี 7C ถือหุ้นในสัดส่วน 51.00% ของหุ้นทั้งหมดของ MCR
2. บริษัท ไท-ไท วิศวกร จำกัด (TTE) ซึ่งปัจจุบัน 7C ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น ในบริษัท ไท-ไท วิศวกร จำกัด (TTE) กับผู้ถือหุ้นเดิมของ TTE เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจองซื้อหุ้นใน TTE จากผู้ถือหุ้นเดิม
TTE เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในสาขาต่าง ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมในการให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาในการดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ TTE มีประสบการณ์ในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ จำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น One Bangkok, Central Embassy, Samyan Mitrtown, Singha Complex และ THE FORESTIAS by MQDC เป็นต้น ซึ่งกระบวนการการเข้าลงทุนใน TTE ของ 7C คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 29 เม.ย.65
ทั้งนี้ ADD ได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อประเมินมูลค่าของ 7C และ TTE เป็นที่เรียบร้อย โดย 7C มีมูลค่ายุติธรรมส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 224.62-335.08 ล้านบาท และ TTE มีมูลค่ายุติธรรมส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 91.73-110.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 316.35-445.63 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาตามสัดส่วนการถือหุ้นของ ADD ที่ 46.7337% จะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 147.84-208.26 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาที่เสนอขาย และโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตแล้ว เชื่อว่าการเข้าลงทุนของ ADD ในครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว
สำหรับการเข้าลงทุนใน 7C ครั้งนี้ เป็นการต่อยอดและสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในเรื่องของผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังสามารถต่อยอดความรู้ด้านเทคโนโลยีของบริษัทในการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัล (Digital Transformation) เข้ามาช่วยในการวางรากฐานระบบการทำงานและการดำเนินธุรกิจ ให้แก่บริษัทที่กำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้การดูแลของ 7C ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเสริมสร้างกันทางธุรกิจ (Synergy) ในระยะยาว นอกจากนี้กระบวนการ Digital Transformation ดังกล่าวยังสามารถเข้ามาช่วยบริษัทต่างๆ ในการลดต้นทุนในการบริหารจัดการ เพื่อให้กำไรจากการประกอบกิจการเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากดีลดังกล่าวในข้างต้นแล้ว บริษัทยังได้เตรียมงบลงทุนไว้อีกกว่า 150 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าไปลงทุน สำหรับเม็ดเงินในการลงทุนนั้น เป็นเม็ดเงินจากการระดมทุน IPO ในปีที่ผ่านมา