ผู้เขียน หัวข้อ: MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2  (อ่าน 451 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • *
  • กระทู้: 1,097
  • Popular Vote : 0
MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2
« เมื่อ: มีนาคม 15, 2022, 08:39:45 pm »
MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 ยางสองรุ่นที่ผลิตขึ้นเพื่อซูเปอร์คาร์ Ferrari 296 GTB โดยเฉพาะ


ยางสองรุ่นนี้ผลิตมาเพื่อการใช้งานสองรูปแบบ สำหรับบนถนนทั่วไปและสนามแข่ง โดยเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ Ferrari 296 GTB
ทุ่มเทพัฒนากว่า 18 เดือนเพื่อนำเสนอสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบควบคู่ไปกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากโครงการที่พัฒนาร่วมกับทีมเฟอร์รารี่ โดยใช้เทคโนโลยีการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง
เฟอร์รารี่วางใจเลือกมิชลินให้เป็นตัวแทนจัดหายางรถยนต์อย่างเป็นทางการสำหรับ Ferrari 296 GTB ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ของเฟอร์รารี่ ซึ่งมิชลินได้ส่งมอบยางยางสมรรถนะสูงพิเศษที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันให้สองรุ่น คือ MICHELIN Pilot Sport 4S K1 สำหรับการขับขี่บนท้องถนนเป็นหลัก และ และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 ยางสำหรับสนามแข่งที่ใช้งานบนถนนทั่วไปได้ (Road Legal Tires) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของรถในสนามประลองความเร็ว

เฟอร์รารี่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของรถให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเสมอในทุกครั้งที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ มิชลินเองก็ยึดถือแนวคิดเดียวกันและทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์รายนี้มายาวนานเพื่อออกแบบและผลิตยางแบบพิเศษให้กับรถเฟอร์รารี่

สมรรถนะ
สำหรับยานยนต์ที่เหนือชั้นเช่นนี้ สมรรถนะของยางมีความสำคัญมากกว่าประโยชน์ใช้สอยทั่วไป โดยในการพัฒนาสมรรถนะให้ถึงขีดสุดนี้จะต้องคำนึงถึงทั้งความปลอดภัย ความแม่นยำ และความเพลิดเพลินในการขับขี่ รวมถึงต้องมีความมีสอดคล้องกลมกลืนกับรูปโฉมของยานพาหนะด้วย

พัฒนาขึ้นตามความต้องการพิเศษ
ยางสำหรับ Ferrari 296 GTB ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษภายใต้ความร่วมมือกับทีมงานของเฟอร์รารี่ และมีความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 'K' ซึ่งปรากฏอยู่ที่แก้มยาง โดยการออกแบบพิเศษตามสั่งนี้เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้ได้สมรรถนะตามเกณฑ์ที่เฟอร์รารี่กำหนด

ทีมงานของมิชลินมีส่วนร่วมกับโครงการนี้ทันทีภายหลังจากที่ได้รับทราบข้อกำหนดต่าง ๆ ในทางเทคนิค โดยกว่าที่จะพัฒนามาเป็นยางที่พร้อมจำหน่ายแบบนี้ได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาถึงสี่รอบ และใช้ระยะเวลาในการออกแบบยางอีก 18 เดือน

การนำซอฟต์แวร์จำลองสถานการณ์เสมือนจริงที่ล้ำสมัยมาใช้ในโครงการนี้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทำให้สามารถลดจำนวนการผลิตยางต้นแบบสำหรับใช้ในการทดสอบลงได้ รวมถึงลดจำนวนครั้งในการทดสอบกับรถจริง และย่นระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนายางนอกจากนี้การจำลองสถานการณ์เสมือนจริงยังช่วยให้สามารถปรับแต่งยางให้เข้ากับรถได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย

โดยในระหว่างที่ทำการทดสอบ ซึ่งบางส่วนจัดขึ้นที่สนามแข่งฟีโอราโน (Fiorano) ในอิตาลี มิชลินได้บันทึกข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มสมรรถนะให้อยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษทั้งในด้านการยึดเกาะถนน ความนุ่มนวล และความแม่นยำในการขับขี่

เออร์เว ชาร์บอเนล วิศวกรพัฒนายางของมิชลิน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ Ferrari 296 GTB ตัวใหม่นี้เอาไว้ว่า "มันเป็นความท้าท้ายและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ความต้องการของทีมวิศวกรจากเฟอร์รารี่ทำให้เราต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการพัฒนายาง MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 และด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการจำลองสถานการณ์เสมือนจริงของมิชลิน เราจึงสามารถเพิ่มขีดจำกัดในการยึดเกาะถนนได้ไม่ยาก ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพหน้ายางแบบใหม่ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำและประสบการณ์การขับขี่ในแบบสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเฟอร์รารี่"

ยางสองรุ่นเพื่อการใช้งานสองรูปแบบ
มิชลินได้พัฒนาส่วนประกอบใหม่สองแบบและนำสองเทคโนโลยีพิเศษมาใช้พัฒนายางรถยนต์สำหรับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยในขั้นตอนเหล่านี้เราปฏิบัติตามแนวทางด้านความยั่งยืนทั้งหมดของเรา ได้แก่ ลดจำนวนวัตถุดิบที่ใช้ ลดแรงต้านการหมุนของล้อ ลดจำนวนการผลิตยางสำหรับทดสอบ และลดจำนวนครั้งที่ทดสอบกับรถจริง

MICHELIN Pilot Sport 4S K1 ยางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ยางรุ่นนี้ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะบนท้องถนนและเหมาะสำหรับการใช้งานในสนามแข่งเป็นครั้งคราว โดยมีคุณสมบัติช่วยให้รถมีความสมดุลในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างที่ต้องการ และมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่พร้อมด้วยอายุการใช้งานที่ยืนยาว หน้ายางผลิตขึ้นจากส่วนประกอบของยางหลายชนิดรวมกัน ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้เป็นการนำส่วนประกอบที่แตกต่างกันสี่อย่างมารวมเข้าด้วยกัน (ในยางล้อหน้าสองชนิดและยางล้อหลังสองชนิด) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูงสุดและมอบการขับขี่ที่แม่นยำในสภาพถนนแห้งควบคู่ไปกับการยึดเกาะอย่างปลอดภัยในสภาพถนนเปียก
ยางสำหรับสนามแข่งที่ใช้งานบนถนนทั่วไปได้ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 เอาใจผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกตื่นเต้นในการขับขี่ด้วยข้อดีของการผสมผสานส่วนประกอบของเนื้อยางในแบบพิเศษที่มี Function Elastomers ช่วยเพิ่มความเป็นอันหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือรองรับแรงเหวี่ยงได้ดีบนถนนแห้งทำให้เข้าโค้งได้เร็ว มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยมแม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสริมประสิทธิภาพให้ความต้านทานการหมุนของล้อ และเพิ่มการยึดเกาะพื้นผิวถนนที่เปียก
ยางทั้งสองรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมที่มิชลินเป็นผู้คิดค้นและพัฒนา:

เข็มขัดรัดหน้ายางแบบไฮบริดที่ประกอบด้วยอะรามิดและไนลอน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมการส่งกำลัง (Hybrid Aramid and Nylon belt)
เทคโนโลยีผสานเนื้อยางสองสูตรในหนึ่งเดียว (Multi compound technology)
เทคโนโลยีนวัตกรรมโครงสร้างภายใน (Wavy Summit)
ตัวเลือกยาง
ยางหน้า: 245/35ZR20 (95Y) XL TL PILOT SPORT 4 S K1
ยางหลัง: 305/35ZR20 (107Y) XL TL PILOT SPORT 4 S K1
หรือ
ยางหน้า: 245/35 ZR20 (95Y) XL TL PILOT SPORT CUP 2 R K2
ยางหลัง: 305/35 ZR20 (107Y) XL TL PILOT SPORT CUP 2 R K2