ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 33.50 อ่อนตามภูมิภาค หลังบอนด์ยีลสหรัฐพุ่ง  (อ่าน 424 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 33.50 อ่อนตามภูมิภาค หลังบอนด์ยีลสหรัฐพุ่ง คาดกรอบ 33.35-33.55

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.40 บาท/ดอลลาร์

โดยเงินบาทเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค เนื่องจากเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ ทำให้เงินบาทอ่อนค่า

ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ของสหรัฐฯ และยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความขัด แย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.35 - 33.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (14 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.44058% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.59565%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.47750 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.36 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 117.83 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0938 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0972 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.422 บาท/
ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 มี.ค.)
ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้า
ปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.พ.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะ
สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ สัญญา
ทองคำยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
เมื่อคืนที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปทะลุระดับ
2.10% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2562 ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการ
ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค.
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่าง
ยูเครนและรัสเซียเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ได้เสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ทั้งสองฝ่ายพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่ม
การเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ (15 มี.ค.)
การประชุมนโยบายการเงินของเฟด ระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2561
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่จะรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ยอดค้าปลีก
เดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย

สัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และยอดขายบ้านมือ

สองเดือนก.พ