ผู้เขียน หัวข้อ: KWI เปิดกองทุนใหม่ SENERGY ลงทุนแบบ Smart เพื่อโลกสะอาด IPO 21-29 มี.ค.  (อ่าน 479 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
KWI เปิดกองทุนใหม่ SENERGY ลงทุนแบบ Smart เพื่อโลกสะอาด IPO 21-29 มี.ค.

บลจ.คิง ไว (เอเชีย) จำกัด (KWI) เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเคดับบลิวไอ สมาร์ท เอนเนอร์จี้ อิควิตี้ เอฟไอเอฟ (KWI SENERGY) เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Smart Energy ทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก Robeco Capital Growth Funds-RobecoSAM Smart Energy Equities Class I USD ที่ได้รับการจัดอันดับกองทุน 5 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.65) และ EU SFDR Article 9

กองทุน KWI SENERGY มี 2 ชนิดหน่วยลงทุนให้เลือก ได้แก่ KWI SENERGY-A (ชนิดสะสมมูลค่า) และ KWI SENERGY-SSF (ชนิดเพื่อการออม) สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนพร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษี โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 21-29 มีนาคม 2565

นายสุเมธา ลิ่วเฉลิมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน กล่าวว่า KWI เห็นว่าการลงทุนในกลุ่ม Smart Energy มีโอกาสเติบโตอย่างมากจากวิกฤติภาวะโลกร้อน ที่ทำให้ทั่วโลกร่วมมือกันและมีการลงทุนรวมกันกว่าปีละ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้นวัตกรรมอัจฉริยะทางเทคโนโลยีในการสร้าง Smart Energy ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน จะส่งผลทำให้ยุโรปและอีกหลายประเทศลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงจากรัสเซียและหันมาเร่งการลงทุนใน Smart Energy และพลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความน่าสนใจในเวลานี้ และในอนาคต

KWI จึงเปิดตัวกองทุนแรกด้วย กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ สมาร์ท เอนเนอร์จี้ อิควิตี้ เอฟไอเอฟ (KWI SENERGY) ที่มีนโยบายการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) โดยเป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Robeco Capital Growth Funds ? RobecoSAM Smart Energy Equities Class I USD (กองทุนหลัก) ซึ่งผ่านการเฟ้นหาอย่างพิถีพิถันจากหลากหลายกองทุน Clean & Smart Energy ของบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำทั่วโลก ด้วยการพิจารณาปัจจัยสำคัญที่ครอบคลุมทุกมิติทั้งในด้านความเชี่ยวชาญของทีมผู้จัดการกองทุนในการลงทุน Smart Energy ผลการดำเนินงานกองทุนที่แข็งแกร่งและโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง กระบวนการลงทุนที่ชัดเจนและมีคุณภาพ โดยคำนึงหลักความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลที่ดี (ESG) ในทุกขั้นตอนการลงทุน เพื่อการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างยั่งยืน"

RobecoSAM Smart Energy Equities บริหารจัดการโดย Robeco Institutional Asset Management B.V. เป็นกองทุนที่จดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศลักเซมเบิร์กตามกฎเกณฑ์ของ UCITS ซึ่งได้รับการจัดอันดับ Morningstar Rating 5 ดาว และ EU?s Sustainable Finance Disclosure Regulation (SFDR) Article 9 ที่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน เน้นลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กองทุนนี้จะลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ 40-80 บริษัท ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากหุ้นกว่า 250 บริษัทที่เข้าเกณฑ์การลงทุนในหลากหลายธุรกิจเกี่ยวกับ Smart Energy ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยกระจายลงทุนใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การผลิตพลังงานทดแทน (Renewable Energies) การกระจายพลังงาน (Energy Distribution) การบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency) ที่จะนำไปสู่การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อโลกสะอาดในอนาคต

นายสุเมธา กล่าวเพิ่มเติมว่า "ครั้งแรกที่กองทุน RobecoSAM Smart Energy Equities จะเสนอขายในไทย เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Smart Energy ทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงแบบครบวงจรผ่านกองทุน KWI SENERGY โดย Robeco เป็นบริษัทจัดการลงทุนที่จัดตั้งขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2472 และเป็นผู้บุกเบิกด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งให้ความสำคัญด้านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อคัดสรรหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพในทุกกลยุทธ์การลงทุน

รวมทั้งนำเอาหลัก ESG มาใช้เป็นปัจจัยสำคัญประกอบการพิจารณาของทุกขั้นตอนการตัดสินใจลงทุน ตลอดจนยึดเป็นแนวทางปฏิบัติในการลงทุนอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ทำให้ Robeco มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ พิสูจน์ได้ด้วยผลการดำเนินงานของกองทุนที่ยาวนานกว่า 18 ปี ผ่านหลากหลายสถานการณ์วิกฤติและภาวะตลาดที่ผันผวน แต่สามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น"

RobecoSAM Smart Energy Equities Class I USD (กองทุนหลัก) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2562-2564) เฉลี่ย 39.05% ต่อปี เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 21.70% และย้อนหลัง 5 ปี (2560-2564) เฉลี่ย 25.11% ต่อปี เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 15.03% ต่อปี