ผู้เขียน หัวข้อ: แม้จะสูงวัยก็ใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย  (อ่าน 456 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ amazonian

  • *
  • กระทู้: 5
  • Popular Vote : 0

ในวัยผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่แค่สุขภาพทางร่างกาย และความแข็งแรงของกระดูกจะลดน้อยลง การขับถ่ายเองก็ถือว่าเป็นปัญหาหลักของผู้สูงอายุจำนวนมาก ยิ่งถ้าผู้สูงอายุ ผู้สูงวัยจะต้องเดินทางไกล นั่งเครื่องบิน หรือรถยนต์ รถประจำทางกว่าหลายชั่วโมง ซึ่งการใช้ห้องน้ำระหว่างทางหรือห้องน้ำสาธารณะนั้น ยากต่อความสะอาดและความสะดวกสบายสำหรับผู้สูงอายุ ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมผู้สูงอายุ อย่างคุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า จึงหลีกเลี่ยงการเดินทางไกลๆ เพราะไม่อยากเป็นตัวสร้างปัญหาระหว่างการเดินทางให้แก่ลูกหลาน แต่ปัญหาเหล่านี้นั้น สามารถป้องกันได้โดยการใช้ pampers ผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับได้อย่างเต็มที่และหมดปัญหากังวลใจในการเข้าห้องน้ำอีกด้วย

นอกจากนี้ สิ่งที่เราควรคำนึงต่อมาคือ อาหารและสารอาหารที่เหมาะสมกับวัย และสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของผู้สูงอายุ ว่าควรได้รับสารอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งเว็บไซต์ brandsworld ได้แชร์ไว้ว่า สมรรถภาพของร่างกายไม่ว่าความแข็งแรงหรือความทนทาน ความว่องไว เป็นต้น จะมีสูงสุดเมื่ออายุประมาณ 30 ปี แล้วจะค่อยลดลงร้อยละ 1 ทุกปี ดังนั้น เมื่ออายุ 60 ปีแล้ว จะมีความแข็งแรงลดลงร้อยละ 30 โดยเฉลี่ย การออกกำลังกายจะสามารถชะลอการลดลงของความแข็งแรงได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น ผู้สูงอายุจำเป็นต้องออกกำลังอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ มีหลักดังต่อไปนี้ ถ้าไม่เคยออกกำลัง จะต้องศึกษาหลักการ ให้ถูกต้องและค่อยๆ ทำ อย่าหักโหม ถ้าหากมีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เลือกชนิดของการออกกำลังให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและถูกกับนิสัย อย่าแข่งขันกับผู้อื่น เพื่อเอาแพ้เอาชนะ แต่จะออกกำลังกายเพื่อกำลังกายของตนเอง ระวังอุบัติเหตุ ทำโดยสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ ๓-๔ ครั้ง เมื่อเกิดอาการผิดปกติอย่างใดควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะถ้ามีอาการหน้ามืดหรือใจสั่นผิดปกติ ควรชะลอการออกกำลังลงและหยุด ควรออกกำลังเป็นหมู่คณะ หรือมีเพื่อนร่วมการออกกำลังชนิดของการออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมีหลายชนิด ทั้งการเดิน เพราะการเดินเป็นวิธีการออกกำลังที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ (ยกเว้นแต่ผู้สูงอายุที่มีความพิการของเท้าและข้อ ทำให้ลำบากในการเดิน) มีข้อที่ต้องปฏิบัติคือต้องเดินเร็วให้เกิดการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น หากเดินเร็วมากไม่ได้ ต้องเพิ่มเวลาการเดินให้มากขึ้น ควรใช้รองเท้าที่เหมาะสม เนื่องจากการเดินเป็นการออกกำลังแต่ส่วนเท้าเป็นส่วนใหญ่ขณะเดินมีการแกว่งแขนและบริหารกล้ามเนื้อคอและหน้าอกบ้าง พยายามเดินบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ปลอด-ภัยจากโจรผู้ร้าย และอุบัติเหตุ พยายามเดินตอนเช้า มีเพื่อนหรือกลุ่มร่วมในการเดิน จะช่วยให้เกิดความสนุกสนานยิ่งขึ้น การวิ่งช้าๆ การวิ่งต่างกับการเดินคือ การเดินจะมีเท้าข้างใดข้างหนึ่งแตะพื้นอยู่เสมอ ส่วนการวิ่งจะมีช่วงใดช่วงหนึ่งที่เท้าไม่แตะพื้น ผู้สูงอายุถ้าสามารถวิ่งได้ก็ไม่มีข้อห้ามที่จะไม่ให้วิ่ง แต่จะต้องมีข้อเข่าและข้อเท้าที่ดี (เพราะการวิ่งจะมีแรงกระแทกที่ข้อโดยเฉพาะที่ข้อต่อที่รับน้ำหนักมากกว่าการเดิน อาจทำให้บาดเจ็บได้) รวมถึงการสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม