ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.26 ทรงตัวจากวานนี้ จับตาประชุมศบค.-ทิศทาง Flow-สถานการณ์ยูเครน  (อ่าน 491 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hs8jai

  • *
  • กระทู้: 769
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.26 ทรงตัวจากวานนี้ จับตาประชุมศบค.-ทิศทาง Flow-สถานการณ์ยูเครน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.26 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกับปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้

"บาททรงตัวในระดับเดียวกับเย็นวานนี้ ปัจจัยกลับมาเป็นเรื่องเดิมๆ หลังการประชุมเฟดผ่านไปแล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.15 - 33.35 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้อง ติดตาม ได้แก่ สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน, สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ และผล ประชุมของ ศบค.ชุดใหญ่

THAI BAHT FIX 3M (17 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.43697% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.54175%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.64 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.58/60 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1105 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1030/32 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.253 บาท/ดอลลาร์
ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ในวันนี้ ลุ้นมติ ศบค.ชุดใหญ่ ปรับมาตรการการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในการเดินทางเข้าประเทศใหม่ โดยเฉพาะการตรวจ RT-PCR ให้
ตรวจก่อนเข้าประเทศ แต่เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศแล้วให้ตรวจแบบ ATK เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศสะดวก
ขึ้น รวมทั้งการพิจารณาปรับสีพื้นที่ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ส.อ.ท. ชงรัฐเปิดประเทศ ผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ คาดว่าจะเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 6 แสนล้านถึง
1 ล้านล้านบาท
20 สมาคมท่องเที่ยวส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอ 5 ประเด็นปรับมาตรการรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศตั้งแต่ 1 เม.
ย.นี้ หวังให้แข่งขันกับประเทศอื่นที่ปรับมาตรการดึงนักท่องเที่ยวได้
กกพ.เคาะปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) โดยจะจัดเก็บที่ 24.77 สต.ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประชาชน
ต้องจ่ายรวมเป็น 4 บาทต่อหน่วย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากเหตุขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนดันราคาพลังงานพุ่ง
"สุพัฒนพงษ์" กางแผนหนุนประเทศไทยก้าวสู่ธุรกิจสีเขียว ลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2045 ภาคครัวเรือน
พลังงาน ขนส่ง ย้ำความจำเป็นหลังเชื้อเพลิงฟอสซิลราคาพุ่ง เพิ่มสัดส่วนใช้พลังงานทดแทน 50% สร้างความมั่นคงพลังงานดัน "อีวี" ตาม
แผน 2030 เร่งลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ 8 Gwh พร้อมเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ในการประชุม
เมื่อวันที่ 15-16 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะปรับขึ้นอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยสหรัฐสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1.75-2% โดยต้องติดตาม
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไร มี 3 ปัจจัย คือ ขึ้นอยู่กับเฟดจะปรับดอกเบี้ยมากขึ้นหรือเร็วขึ้น
หรือไม่, เงินเฟ้อไทยจะสูงไปจนถึงครึ่งปีหลังปีนี้หรือไม่ และมีเงินไหลออกประเทศมีผลต่อเงินบาทให้อ่อนค่าหรือผันผวนหรือไม่อาจทำให้
ธปท.ปรับดอกเบี้ยขึ้นมากกว่าระดับ 0.5% ในปัจจุบัน
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC- หลังมีรายงานว่า
รัสเซียกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการชำระหนี้พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566 และพันธบัตรสกุลเงินยูโร
ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2586
องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน
นั้น กำลังเพิ่มขึ้นทั่วสหภาพยุโรป (EU)
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และถือ
เป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.)
หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มากเท่าที่นักลงทุนเคยวิตกกังวล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับ
ตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-
0.50% ซึ่งไม่มากเท่ากับที่นักลงทุนเคยกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในยุโรปและสหรัฐยัง
เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกทำเนียบ
เครมลิน กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อที่ระบุว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และทั้ง
สองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ คือ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference
Board ของสหรัฐฯ