SINGER ผนึก SGC
ตอกย้ำความเชื่อมั่น ยิ้มรับปรับระดับเครดิตองค์กรขึ้นเป็น 'BBB'
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยถึง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ทำการวิเคราะห์ และทบทวนผลอันดับเครดิต กำหนดอันดับเครดิตองค์กรของ SINGER และ SGC เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 'BBB-' (Triple B Minus) เป็น 'BBB' (Triple B Straight) ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตอยู่ที่ 'Stable' หรือ 'คงที่'
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังจากได้รับการประกาศอันดับเครดิตองค์กรจากทริสเรทติ้ง ซึ่งได้ปรับเพิ่มอันดับเครติดองค์กรของ SINGER จาก 'BBB-' เป็นระดับ 'BBB' ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' โดยการปรับเพิ่มอันดับเครดิตนั้นสะท้อนถึงฐานทุนที่มีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงสถานะทางการตลาด ตลอดจนผลการดำเนินงานและคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า
'นับเป็นความก้าวหน้าขององค์กรจากมุมมองทริสเรทติ้งที่ให้ความเชื่อมั่นในบริษัทฯ จากแผนทางธุรกิจที่มีความชัดเจนต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการที่บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มทุนใหม่จำนวนกว่าหมื่นล้านบาทในปี 2564 ถือเป็นปัจจัยบวกของบริษัทอันนำมาซึ่งการปลดล็อคด้านเงินทุนของบริษัท เปิดโอกาสให้บริษัทมีเม็ดเงินเพียงพอในการขยายพอร์ตลูกค้า รวมถึงการลดต้นทุนทางการเงิน อันจะส่งผลเชิงบวกถึงผลประกอบการ และการทำกำไรของบริษัทฯ การได้รับการปรับเรตติ้งจากทริสเรทติ้ง ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทได้เป็นอย่างดี ในอันที่จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต'
ในด้านของภาระหนี้นั้น บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือเพียง 0.6 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 จาก 2.3 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 อัตราส่วนดังกล่าวต่ำกว่าข้อกำหนดทางการเงินที่บริษัทต้องดำรงหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 3 เท่า รวมถึงการขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินงานของบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีสินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้น 64% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 แม้ต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทายอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากโรคโควิด-19 แต่บริษัทก็สามารถทำการตลาดเชิงรุกได้อย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในด้านของการรักษาคุณภาพลูกหนี้ บริษัทมีอัตราส่วนลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต หรือ NPL ได้ลดลงเหลือเพียง 3.9% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 คุณภาพสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันของบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1% อันมาจากนโยบายในการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวด ตลอดจนมีกระบวนการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองสำหรับผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดอย่างเพียงพอ ทำให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมเอาไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง
ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายขยายพอร์ตสินเชื่อเป็น 15,500 ล้านบาท ตั้งเป้ากำไรเติบโตในระดับ 75% ทำ All Time High อีกครั้ง หลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากนักลงทุนและพาร์ทเนอร์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และการ Synergy ร่วมกับ JMART Group, BTS Group และพันธมิตร ที่เข้ามาเติมเต็ม Ecosystem คาดจะสนับสนุนให้ปีนี้ SINGER มีผลิตภัณฑ์ และการขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก สนับสนุนให้ช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มีโอกาสเติบโตขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC นั้น ในปี 2565 นี้จะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่อีกก้าวหนึ่งเนื่องจากอยู่ในระหว่างแผนการ Spin-Off เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการสร้างฐานทุนของบริษัทฯ ให้มากขึ้น และเปิดโอกาสการเติบโตของบริษัทให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดดในอนาคตเช่นกัน