ภาวะ
ตลาดเงินบาท: ปิด 33.23 แข็งค่าจากช่วงเช้า จับตาประชุม BoE คืนนี้, วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.36 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วง 33.20 - 33.30 บาท/ดอลลาร์ เนื่อง จากในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญมากนัก โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจ เนื่องจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผ่านไป แล้ว ตลาดรอดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกนั้น ก็ยังเป็นปัจจัยเดิมที่ติดตามใน เรื่องปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
"ช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรมาก ผลประชุมเฟดตลาดก็รับข่าวไปหมดแล้ว คืนนี้มีประชุมธนาคารกลางอังกฤษ นอกนั้นก็เป็น ปัจจัยเดิมเรื่องการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ ในกรอบกว้างที่ 33.00 -33.40 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.58/60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 118.77 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1030/32 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1033 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,681.76 จุด เพิ่มขึ้น 13.84 จุด (+0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 97,761 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 7,281.66 ลบ.(SET+MAI)
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจะเสนอที่ประชุมใหญ่ ศบค.พรุ่งนี้ ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ
Test&Go เพื่อให้เกิดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกขึ้น ภายใต้มาตรการ
ป้องกันโรคที่ยอมรับได้
กรมสรรพากร เผยเร่งดำเนินการพิจารณาและอนุมัติคืนภาษี ตามแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90
และภ.ง.ด.91 ประจำปีภาษี 2564 ที่ผู้เสียภาษี ยื่นขอคืนภาษีไปแล้วรวมจำนวน 1.67 ล้านแบบ จากแบบที่ยื่นขอคืนทั้งหมด 2.18 ล้าน
แบบ คิดเป็น 78% เป็นจำนวนเงินภาษีที่คืนให้แล้วรวม 15,426 ล้านบาท
ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งเผชิญปัญหาการขาดแคลนข้าวสาลีในระยะสั้น เนื่อง
จากต้องพึ่งพาการส่งออกข้าวสาลีจากยูเครน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการรุกรานของรัสเซีย
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็ง
แกร่งมาก และอยู่ในสถานะที่ดีพอที่จะรับมือกับการคุมเข้มนโยบายการเงิน แต่การที่อัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% อย่างมี
เสถียรภาพนั้น อาจต้องใช้เวลานานกว่าคาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น
ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐได้พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ
ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นยังไม่มีแนวโน้มที่จะเห็นอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของ
BOJ ที่ระดับ 2% แม้ราคาพลังงานพุ่งขึ้นก็ตาม ซึ่งจะทำให้ BOJ ยังคงต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มการประชุมนโยบายการเงินวันแรกในวันนี้ และจะแถลงผลการประชุมในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ผู้
สังเกตการณ์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้น
เพียงเล็กน้อย รวมทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
