ทำเนียบขาวเผย 'ไบเดน-สี จิ้นผิง' เสร็จสิ้นการสนทนาแล้ว แต่ยัง
ไม่เผยรายละเอียดทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เสร็จสิ้นการเจรจาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีนแล้ว ซึ่งเป็นการเจรจาโดยตรงเป็นครั้งแรกของผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564
การเจรจาดังกล่าวเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.00 น.ตามเวลาไทย และใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวยังไม่ได้เปิดเผยเนื้อหาในการสนทนาของผู้นำทั้งสองแต่อย่างใด
นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ปธน.ไบเดนจะหารือกับปธน.สี จิ้นผิงเกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน รวมทั้งประเด็นการแข่งขันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และประเด็นอื่นๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน
มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ไบเดนจะเตือนปธน.สี จิ้นผิง มิให้ช่วยเหลือรัสเซียในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและชาติตะวันตก
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ปธน.ไบเดนจะพูดอย่างชัดเจนว่าจีนจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆก็ตาม ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้รัสเซียรุกรานยูเครน และสหรัฐจะไม่ลังเลที่จะออกมาตรการลงโทษจีน
ก่อนหน้านี้ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ได้จัดการประชุมกับนายหยาง เจียฉือ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งการเจรจาใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จีนได้ปฎิเสธที่จะเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซียตามสหรัฐและชาติตะวันตก และได้งดออกเสียงต่อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการประณามการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน
จีนและรัสเซียได้แสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน หลังจากที่ปธน.ปูตินได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนที่แล้วเพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ โดยปธน.สี จิ้นผิงและปธน.ปูตินประกาศว่าจีนและรัสเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ 'ที่ไม่มีขีดจำกัด'
ทางด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ในวันนี้ว่า วิกฤตการณ์ในยูเครนจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด พร้อมกับเรียกร้องให้จีนและสหรัฐแบกรับความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อสันติสุขของโลก 'เราไม่ต้องการเห็นวิกฤตการณ์อย่างเช่นในยูเครน' ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้
ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวว่า แนวโน้มของสันติภาพและพัฒนาการกำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรง ขณะที่โลกไม่มีความสงบสุข และไม่มีเสถียรภาพ โดยเหตุการณ์ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศต่างๆไม่ควรมาถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากันในสนามรบ ซึ่งความขัดแย้งและการเผชิญหน้าจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด
'ในฐานะที่จีนและสหรัฐเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นผู้นำของเศรษฐกิจโลก เราไม่เพียงต้องนำพาความสัมพันธ์ให้มุ่งไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง แต่ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบร่วมกันต่อประชาคมโลก โดยดำเนินการเพื่อความสงบและสันติสุขของโลก' ผู้นำจีนกล่าว