ผู้เขียน หัวข้อ: กบง.ให้ทยอยปรับขึ้นราคา LPG 3 ครั้ง เดือนละ 1 บาท/กก.ตั้งแต่ 1 เม.ย.65  (อ่าน 429 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
กบง.ให้ทยอยปรับขึ้นราคา LPG 3 ครั้ง เดือนละ 1 บาท/กก.ตั้งแต่ 1 เม.ย.65

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน มีมติมติเห็นชอบให้ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาท/กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.65 ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีก LPG ปรับเป็น 333 บาท/ถัง 15 กิโลกรัมในเดือน เม.ย. ทั้งนี้เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG

ที่ประชุม กบง. เห็นว่าภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ประกอบกับสถานการณ์สงครามยูเครนและรัสเซีย ส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันและก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ที่กระทรวงพลังงานได้ดูแลประชาชน โดยการตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ที่ 318 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม

โดยตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63 เป็นต้นมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จ่ายเงินชดเชยก๊าซ LPG รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 22,614 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ติดลบสูงถึง 28,093 ล้านบาท ซึ่งหากปัจจุบันไม่มีการอุดหนุน ราคาก๊าซ LPG จะอยู่ที่ 463 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศแม้ว่าจะมีการปรับราคาขึ้น และเพื่อมิให้ส่งผลต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนมากเกินไป ที่ประชุม กบง. ได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ LPG โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ LPG ยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

และให้ ธพ. ขอความร่วมมือ บมจ.ปตท.(PTT) ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.65

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า กบง. ได้เห็นชอบในหลักการให้แยกชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วพรีเมียม ออกจากน้ำมันดีเซลหมุนเร็วโดยมีแนวทางจะลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันในดีเซลหมุนเร็วพรีเมียม และมอบให้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ไปดำเนินการในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอ กบน. ต่อไป

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น กำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร และยังคงขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้คงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.65

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม กบง. ยังได้เห็นชอบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่ม ภายใต้แนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติปี 65 โดยรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และ/หรือผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) จากสัญญาเดิม และนอกเหนือจากกลุ่มสัญญาเดิม โดยรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้าประเภทชีวมวลหรืออื่นๆ นอกเหนือจากชีวมวล จากผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว ไม่มีการลงทุนใหม่ และมีความพร้อมในการจำหน่ายไฟฟ้าซึ่งระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง สามารถรองรับได้ โดยเป็นการรับซื้อปีต่อปี ไม่เกิน 2 ปี ในรูปแบบสัญญา Non-Firm โดย กบง. มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป