TMBAM Eastspring เชื่อกลุ่มเปิดเมืองยังไปได้ต่อหลังโควิดดีขึ้น-หลายปท.
คลายมาตรการนายพงศ์สรร ยอดเมืองเจริญ ผู้อำนวยการส่วนบริหารผลิตภัณฑ์ TMBAM Eastspring เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดทั่วโลกเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์มีแนวโน้มลดลงทั่วโลก ยกเว้นเพียงไม่กี่ประเทศอย่างเช่น เกาหลีใต้ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีมาก นอกจากนี้ การที่ประชากรทั่วโลกได้รับวัคซีนในระดับสูงถึง 65% โดยมีประเทศหลักๆ อย่างสหรัฐ ยุโรป และจีนได้รับในอัตราสูงถึง 70-90% ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ซึ่งจะช่วยให้ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศสามารถรองรับการรักษาได้ เพราะถึงแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงจนกระทั่งต้องเข้าโรงพยาบาล นอกจากนี้ ผู้ผลิตวัคซีนชั้นนำอย่าง PFIZER ยังได้ยื่นขออนุมัติจาก FDA สหรัฐในการใช้เป็นเข็ม 4 เป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุเพื่อช่วยต่อต้านโควิด19 ในหลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลประเทศต่างๆ มีการผ่อนคลายมาตรการในการเข้าประเทศมากขึ้น เช่น เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นมา ญี่ปุ่นได้อนุญาตให้นักธุรกิจและนักศึกษาต่างชาติสามารถเข้าประเทศได้ภายหลังมีการปิดประเทศมากกว่า 2 ปี ส่วนประเทศในสหรัฐและยุโรปได้ผ่อนคลายมาตรการทางสังคม เช่น การไม่ต้องใส่หน้ากากตามสถานต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า, ร้านอาหาร, สถานศึกษา ฯลฯ ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้งโดยจะเห็นได้จากดัชนี Google Mobility Index และจำนวนเที่ยวบินที่มีการขยายตัวสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนและเริ่มกลับเข้าใกล้ช่วงก่อนโควิด 19 แล้ว
ในขณะที่การเปิดเมืองยังสะท้อนถึงการบริโภคที่สูงขึ้นซึ่งสังเกตุได้จาก ยอดค้าปลีก, จำนวนลูกค้าที่จองร้านอาหาร, รายได้จากการขายตั๋วภาพยนตร์, อัตราการเข้าพักโรงแรมที่เริ่มปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขการจ้างงานภาคสันทนาการและโรงแรมของสหรัฐในเดือน ก.พ. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.79 แสนตำแหน่งหรือคิดเป็น 25% ของตัวเลขการการจ้างทั้งหมด โดยเรายังมองว่าธุรกิจดังกล่าวยังมีความต้องการจ้างงานอยู่อีกมาก เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด19 ยังมีตัวเลขการว่างงานสูงถึง 1.53 ล้านตำแหน่ง
นอกจากนั้น นายพงศ์สรร กล่าวว่าความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย จะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบ sentiment ต่อภาพรวมตลาดหุ้นโดยรวม รวมถึงเป็นประเด็นที่จะทำให้เงินเฟ้อมีการเร่งตัวสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมัน ถ่านหิน นิเกิล และแร่เหล็กที่สำคัญของโลก ดังนั้น อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มมีทิศทางที่คลี่คลายภายหลังยูเครนและรัสเซียมีการเดินหน้าเจรจาสันติภาพอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในอดีตที่ผ่านมากว่า 80 ปี มีเพียงสงครามเพิลฮาเบอร์และสงครามอิรักจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อดัชนี S&P500 มากสุดที่ระดับ 17-20% และใช้ระยะเวลามากสุดในการกลับมาที่เดิม 6-10 เดือน ในขณะที่สงครามและความขัดแย้งอื่นๆ สร้างผลกระทบเชิงลบเฉลี่ยในระดับ 5% และใช้เวลาในการกลับมาที่เดิมเพียง 1.5 เดือนเท่านั้น
ดังนั้น มองว่านักลงทุนอาจใช้จังหวะที่ตลาดมีการย่อตัวเพื่อสะสมกองทุนที่เกี่ยวกับหุ้นเปิดเมืองอย่าง TMB-ES-CHILL ก็เป็นได้
ส่วนเรื่องของเงินเฟ้อที่หลายคนมีความกังวลกันและทำให้หลายประเทศเริ่มออกมาตราการควบคุม เช่น ธนาคารกลางสหรัฐได้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโนบาย 0.25% รวมถึงมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 6 ครั้งในปีนี้นั้น แม้ว่าเงินเฟ้อครั้งนี้จะดูเป็นความเสี่ยงทางด้าน supply chain ส่วนใหญ่ แต่ในอีกนัยหนึ่งก็เป็นผลจากยอดการออมเงินในช่วงโควิด 19 และการปรับค่าแรงในตลาดแรงงานที่สูงขึ้น จึงอาจมองได้ว่าเป็นการสะท้อนการบริโภคที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ดังนั้น ในช่วงนี้ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ TMBAM Eastspring จึงขอแนะนำกองทุน TMB-ES-CHILL ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ กองทุน Invesco Dynamic Leisure and Entertainment โดยมีนโยบายเน้นการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสันทนาการและบันเทิง เช่น ธุรกิจโรงแรม, ร้านอาหาร, Booking Platform, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนหย่อนใจและโปรแกรมบันเทิง ซึ่งกองทุนนี้จะมีการบริหารจัดการแบบ Passive Fund โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dynamic Leisure & Entertainment Intellidex Index ซึ่งเป็น Smart Beta Index ที่มีการนำปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคคัดเลือกหุ้นเข้าดัชนี โดยมีหุ้นที่ลงทุนประมาณ 30 บริษัทและมีการปรับพอร์ตเป็นรายไตรมาส