ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.66 อ่อนค่ารับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ให้กรอบวันนี้ 33.55-33.80  (อ่าน 509 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.66 อ่อนค่ารับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ให้กรอบวันนี้ 33.55-33.80

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.66 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.51 บาท

เงินบาทเช้านี้ยังอ่อนค่า เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าจากการที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังมีข่าวกลุ่มสหภาพยุโรป เตรียมคว่ำบาตรรัสเซียเรื่องการนำเข้าน้ำมัน

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ไปมาก เนื่องจากมีแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ส่วนปัจจัยในประเทศตอนนี้ยังไม่มีอะไร ใหม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.55 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (21 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.52537% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.61782%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.22 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1059 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.461 บาท/
ดอลลาร์
ผู้อำนวยการและผู้บริหารกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์ตลาดเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินแนวโน้มตลาดเงินใน
สัปดาห์นี้ คาดสินทรัพย์เสี่ยงอาจเข้าสู่ช่วงพักฐาน เนื่องจากตลาดได้ซึมซับข่าวเชิงบวกไปค่อนข้างมาก เช่น คำมั่นของรัฐบาลจีนต่อ
การสนับสนุนและรักษาเสถียรภาพของตลาดทุน รวมถึงความหวังเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน และนโยบาย
ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่เข้าสู่การคุมเข้มชัดเจน
ก.ล.ต.หารือ ผู้ประกอบการ ออกเกณฑ์คุมยูทีลิตี้โทเคนพร้อมใช้ที่เข้าเทรดในศูนย์ซื้อขาย หวังคุ้มครองผู้ลงทุนให้มี
ข้อมูลเพียงพอ พร้อมผุดเกณฑ์ยื่นไฟลิ่งแบบ "ฟาสต์แทรค" ช่วยลดต้นทุน เตรียมเปิดเฮียริ่งเกณฑ์ภายใน เม.ย.65
"พาณิชย์" ถกด่วนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าและสั่งอาหารออนไลน์ เบรกปรับขึ้นค่าบริการขนส่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อ
ค่าครองชีพของประชาชน พร้อมย้ำแสดงราคาค่าสินค้าและบริการให้ชัดเจน
"คณิศ" ชี้ถึงเวลารัฐปรับนโยบายเศรษฐกิจ ช่วยคนส่วนใหญ่ของประเทศให้มีอาชีพได้อีกครั้ง หลัง 2 ปีที่ผ่านมา
รายได้คนกลุ่มนี้หายไป 1 ล้านล้านบาท ลั่น "คนละครึ่ง" ดี แต่รัฐช่วยให้กินข้าวได้แค่ครึ่งชาม ต้องช่วยให้สร้างรายได้ด้วยตัวเอง
ด้าน "อีอีซี" จับมือแบงก์รัฐทำ "แซนด์บ็อกซ์" สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ โดยส่งสัญญาณ
ว่า เฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ
ผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นทั่วโลก รวมทั้งสงครามและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในต่างประเทศและจะยิ่งทำให้ห่วงโซ่อุปทานตกอยู่ในภาวะชะงักงันมากขึ้นอีก ซึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวจะลุกลามบานปลายมาถึงเศรษฐกิจสหรัฐด้วย

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์
(21 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ในระดับที่สูง
เกินไป และเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จาก
มาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน