ผู้เขียน หัวข้อ: DUSIT หวัง H2/65 ฟื้นชัดรับเปิดประเทศ,จับมือพันธมิตรพัฒนา Residences เพิ่ม  (อ่าน 603 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
DUSIT หวัง H2/65 ฟื้นชัดรับเปิดประเทศ,จับมือพันธมิตรพัฒนา Residences เพิ่ม

นายสุกิจ งามสง่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเพิ่มขึ้น หลังจากหลายประเทศทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ยังเป็นช่วงเริ่มต้น ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ที่บริษัทมีโรงแรมตั้งอยู่

ประกอบมาตรการในการเดินทางภายในประเทศของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจะเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงครึ่งปืหลัง โดยเฉพาะประเทศไทยที่เป็นพอร์ตธุรกิจโรงแรมหลักของ DUSIT เริ่มเห็นการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น เชื่อว่าจะหนุนภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทให้เห็นการฟื้นตัวขึ้นชัดเจนในครึ่งปีหลังนี้ได้

ขณะเดียวกัน ในส่วนขของธุรกิจการศึกษาของบริษัททั้ง Dusit Thani College และ Le Cordon Bleu Dusit Culinary School หลังจากเริ่มกลับมาเปิดการสอนบางส่วนตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 ปัจจุบันเริ่มมีนักเรียนทยอยเข้ามาสมัครและกลับเข้ามาเรียนมากขึ้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดการสอนเต็มรูปแบบและมีนักเรียนเพิ่มขึ้นจากคอร์สการเรียนที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งในส่วนของธุรกิจการอาหาร Dusit Gourmet ซัพพลายเออร์ผลิตเครื่องปรุงรสต่างๆ เริ่มมีออเดอร์จากลูกค้ากลับมามากขึ้น หลังจากมีการเปิดเมืองทำให้ร้านอาหารต่างๆ มีความต้องการสั่งผลิตเครื่องปรุงเข้ามา มองว่าธุรกิจดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวผลการดำเนินงานของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ

นายสุกิจ กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งปี 65 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะใกล้เคียงกับทางหน่วยงานภาครัฐที่คาดการณ์ไว้ที่ 5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 400,000 คนในปี 64 ซึ่งจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ในโรงแรมในเครือ DUSIT ปีนี้วางเป้าหมายเพิ่มเป็น 75% จากปีก่อนที่ 30-40%

และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) คาดว่าจะเห็นการปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่เฉลี่ยเกือบ 1,800 บาท/ห้อง/คืน จากการค่อยๆขยับราคาขึ้นของโรงแรมในประเทศ ซึ่งบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การให้บริการที่หันมาเน้นการจัดแพ็คเกจนำเสนอลูกค้ามากขึ้น และในปีนี้บริษัทจะมีการเปิดโรงแรมใหม่อีก 5 แห่ง จากปัจจุบันมีโรงแรมทั้งหมดในพอร์ต 47 แห่ง ใน 12 ประเทศ จำนวนห้องรวม 10,907 ห้อง

ด้านการพัฒนาโครงการ Hampton ศรีราชา ที่เป็นโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์หรู 5 ดาว (Branded Residences) มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับบมจ.ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ (ORI) มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65 และจะเริ่มโอนให้กับลูกค้าที่จองซื้อได้ไนช่วงไตรมาส 1/66 ซึ่งบริษัทยังเตรียมลงทุน Branded Residence ร่วมกับพันธมิตรอีก 2 โครงการใหม่ภายในปี 65 เพิ่มเติม หลังจากได้รับผลตอบรับดีจากลูกค้าในการพัฒนาโครงการแรก

ส่วนความคืบหน้าการขายโครงการ Dusit Central Park ปัจจุบันได้รับการตอบรีบที่ดีจากกลุ่มลูกค้าไนประเทศที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาซื้ออย่างคึกคักในช่วงแรกของการเปิดขาย ซึ่งกวาดยอดขายไปแล้ว 40% และเตรียมนำไปโรดโชว์ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติในสิงค์โปร์ ตะวันออกกลาง และหากประเทศจีนเริ่มมีการเปิดประเทศจะนำไปโรดโชว์ในจีนและฮ่องกง เป็นลำดับต่อไป

ด้านฐานะทางการเงินของบริษัทปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแรง โดยมีเงินทุนที่เหลือบางส่วนจากการออกหุ้นกู้ในปี 64 และมีกระแสเงินสดในมือมากกว่า 1 พันล้านบาท รวมไปถึงมีวงเงินระยะสั้นที่ยังไม่ได้ใช้มากกว่า 2 พันล้านบาท และยังคงติดตามภาวะตลาดเป็นระยะ เพื่อพิจารณาออกหุ้นกู้เพิ่มเติมในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือการพิจารณาแหล่งเงินทุนจากหลากหลายช่องทาง เช่น การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินต่อไป

ส่วนการขายโรงแรมหรือสินทรัพย์ไนประเทศนั้นยังขึ้นอยู่กับความเหมาะสม หลังจากที่บริษัทขายโรงแรม Dusit D2 เชียงใหม่ ออกไปให้กับ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ไปก่อนหน้านี้แล้ว