ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2565  (อ่าน 579 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2565

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (22 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไนกี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด หรือ +1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด หรือ +1.95%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% หากจำเป็น เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 458.65 จุด เพิ่มขึ้น 3.86 จุด หรือ +0.85%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,659.41 จุด เพิ่มขึ้น 77.08 จุด หรือ +1.17%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,473.20 จุด เพิ่มขึ้น 146.23 จุด หรือ +1.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,476.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.33 จุด หรือ +0.46%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% หากจำเป็น เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,476.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.33 จุด หรือ +0.46%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เสียงแตกเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมนีที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 115.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,921.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 40.9 เซนต์ หรือ 1.62% ปิดที่ 24.904 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 19.6 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 1,025.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 60.80 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 2,476.50 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นยูโรและปอนด์ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.0030% แตะที่ 98.4940 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1019 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3254 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3163 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7458 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7393 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 120.74 เยน จากระดับ 119.46 เยน แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จากระดับ 0.9335 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2585 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2597 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด, +0.74%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด, +1.13%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด, +1.95%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,476.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.33 จุด, +0.46%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,659.41 จุด เพิ่มขึ้น 77.08 จุด, +1.17%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,473.20 จุด เพิ่มขึ้น 146.23 จุด, +1.02%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 57,989.30 จุด เพิ่มขึ้น 696.81 +1.22%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 7,000.82 จุด เพิ่มขึ้น 45.64 จุด, +0.66%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,585.81 จุด ลดลง 1.35 จุด, -0.09%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,008.94 จุด เพิ่มขึ้น 52.34 จุด, +0.75%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,350.17 จุด ลดลง 5.34 จุด, -0.16%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,889.28 จุด เพิ่มขึ้น 667.94 จุด, +3.15%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,259.86 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด, +0.19%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,559.71 จุด ลดลง 0.65 จุด, -0.004%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,710.00 จุด เพิ่มขึ้น 23.95 จุด, +0.89%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,224.11 จุด เพิ่มขึ้น 396.68 จุด, +1.48%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,341.10 จุด เพิ่มขึ้น 62.60 จุด, +0.86%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,620.70 จุด เพิ่มขึ้น 61.80 จุด, +0.82%