ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าใส่regulatorแล้ว regulatetor เดิมต้องถอดไหมครับ ใครรู้ช่วยบอกที ขอบคุนครับ  (อ่าน 20019 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ zordor_im

  • *
  • กระทู้: 659
  • Popular Vote : 17
  • Zordor_im
ที่ถามเพราะของผมเอง ใส่มาแล้ว แต่ของเดิมก็ยังอยู่แต่ไม่ได้ต่อสายใดๆเลย มันจะมีผลต่อแรงดันเบนซินอย่างไงบ้างครับ เพราะผมกำลังสงสัยอยู่ว่าเกจที่วัดแรงดันเพี้ยน หรือว่า เกี่ยวกับreculatorเดิม เพราะว่าตอนมาใส่เกจ HKSมือสอง  พอใส่เสร็จแล้วแรงดันอยู่ที่ 1.6(รอบเดินเบา)  ผมก็คิดว่ามันต่ำเกินพอไปไขเป็น 2.5 บาร์ ปรากฎว่ารถวิ่งไม่ออก ก็เลยคิดว่าแรงดันมันน่าจะเยอะเกิน  ใครรู้ช่วยบอกที่ครับผมสงสัยมากเลย แต่ว่ารถผมใส่ F - conเงิน แล้วนะครับ หรือว่าก็เกจเพี้ยน ยังไงใครรู้ช่วยเข้ามาบอกผมที่นะครับ ทิ้งเบอร์โทรไว้ก็ได้แล้วเด๋ว ผมจะโทรไปปรึกษา ขอบคุนครับ

ออฟไลน์ pomaru

  • SRS MEMBER
  • *
  • กระทู้: 919
  • Popular Vote : 17
  • WE LOVE SUBARU
    • อีเมล์

 ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ

 จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ

 น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่

 เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ

 ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน

 
 ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ

 ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ

ออฟไลน์ GEMINI_IMPREZA

  • *
  • กระทู้: 762
  • Popular Vote : 9
ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ

 จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ

 น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่

 เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ

 ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน

 
 ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ

 ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ

แหมๆๆๆ ปอม รถทำเต็มซะขนาดนั้น ความรู้ต้องมีมากมายอยู่แล้ว ถ่อมตัวซะ........

ออฟไลน์ name_joker

  • *
  • กระทู้: 684
  • Popular Vote : 24
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ ?????

ออฟไลน์ thor111

  • Subaby!!!
  • *
  • กระทู้: 4,524
  • Popular Vote : 27
  • Dont Judge Me, You Don't Even Know Me
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ *

ไม่จำเป็นครับ
หลงรักขับ 4....หลงรัก Subaby!!!

ออฟไลน์ name_joker

  • *
  • กระทู้: 684
  • Popular Vote : 24
ขอบคุณครับพี่ต่อ  emo9o

ออฟไลน์ zordor_im

  • *
  • กระทู้: 659
  • Popular Vote : 17
  • Zordor_im
ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ

 จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ

 น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่

 เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ

 ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน

 
 ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ

 ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อนก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ

ออฟไลน์ satisfy

  • *
  • กระทู้: 396
  • Popular Vote : 15
  • Proud of Boxer...


คุณโจ... ลองกดหัวข้อ SEARCH แล้วเลือกคำ "แรงดันน้ำมันเบนซิน"   
หรือคำต่างๆที่อยากทราบ 

ความรู้เพียบ อ่านกันทั้งคืนครับ งานนี้


ออฟไลน์ pomaru

  • SRS MEMBER
  • *
  • กระทู้: 919
  • Popular Vote : 17
  • WE LOVE SUBARU
    • อีเมล์
 
อ้างถึง
แหมๆๆๆ ปอม รถทำเต็มซะขนาดนั้น ความรู้ต้องมีมากมายอยู่แล้ว ถ่อมตัวซะ........

 ยอกันไปป่าวพี่โจคร้าบ emo73o สบายดีนะพี่ไม่เจอกันเลย  emo72o


 
อ้างถึง
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ

 ตามที่ท่านประธานบอกเลยครับ จริงๆแล้วในรถยนต์หัวฉีดทุกคัน ต้องมีตัวคุมแรงดันเชื้อเพลิง(regulator)อยู่แล้วครับเพียงแต่มันปรับไม่ได้เท่านั้นเอง

 ถ้าผมเข้าใจคำถามไม่ผิดคุณ name_joker คงหมายถึง regulator แบบปรับได้แน่ๆเลย เอาเป็นคร่าวๆว่าไม่ต้องติดก็ได้ครับแต่ถ้ามีไว้ก็น่าจะดีกว่า

 เรื่องรายละเอียดถ้ายังสงสัยเรื่องความจำเป็นแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร PM มาหาผมก็ได้ครับ ตอบในนี้กลัวจะยาว  

 
 
อ้างถึง
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อน ก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ

 ถ้าจำไม่ผิดแรงดันเชื้อเพลิงต้องสูงกว่าแรงดันอากาศ(บูสท์)ประมาณไม่ต่ำกว่า 2 บาร์น่าจะใช่ครับจะมากหรือน้อยกว่าก็อยู่ที่จูนเนอร์แล้วหละครับ ยังงัยรอผู้รู้อีกทีนะครับ

 แต่ถ้าไม่ลดลงรอบปลายๆก็ไม่น่าจะผิดปกติอะไรครับ แต่เดินเบาที่ 1.6 ผมก็ว่ามันแปลกๆนะ จำไม่ได้ว่าแรงดันเชื้อเพลิงเดินเบาปกติมันอยู่ที่เท่าไหร่ซะด้วยสิ


 ขอบคุณครับ emo57o

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2010, 01:16:57 am โดย pomaru »

ออฟไลน์ POPEYE

  • popeye classic gc
  • *
  • กระทู้: 384
  • Popular Vote : 10
  • ป็อปอายอินเตอร์เฉียง
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อนก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ



ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่   emo8o

เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์

ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์

เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์

เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)

แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ

ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย

ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
 emo36o





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2010, 01:15:08 pm โดย POPEYE »
เทอร์โบลุกเป็นไฟ ลูกสูบละลายกลายเป็นผง

ออฟไลน์ zordor_im

  • *
  • กระทู้: 659
  • Popular Vote : 17
  • Zordor_im

ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่   emo8o

เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์

ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์

เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์

เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)

แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ

ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย

ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
 emo36o






ขอบคุนครับ ว่าจะไปลองหากระปุกแรงดันเล็ก ใส่ตรงreculatorตัวใหม่ดูว่าเปนไง แล้วถ้าเกิดว่าเปนไง จะบอกทุกๆๆคนนะครับ ขอบคุนสำหรับข้อมูลของทุกๆๆท่านมากครับ

ออฟไลน์ zordor_im

  • *
  • กระทู้: 659
  • Popular Vote : 17
  • Zordor_im

ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่   emo8o

เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์

ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์

เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์

เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)

แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ

ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย

ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
 emo36o






                       จขกท                 คืออะไรครับ

ออฟไลน์ pomaru

  • SRS MEMBER
  • *
  • กระทู้: 919
  • Popular Vote : 17
  • WE LOVE SUBARU
    • อีเมล์

 จขกท = เจ้าของกระทู้ครับผม   emo72o

ออฟไลน์ zordor_im

  • *
  • กระทู้: 659
  • Popular Vote : 17
  • Zordor_im

ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่   emo8o

เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์

ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์

เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์

เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)

แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ

ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย

ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
 emo36o






ตอนนี้รถผมไม่ได้ต่อ (เน้น)lสายเวคคั่มreculator เดิม แต่reculatorก็ไม่ได้เอาออกนะครับ   มันจะเกี่ยวกับเรื่องแรงดันไหมครับ  และถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเกี่ยวกับอะไรได้บ้างครับ

ออฟไลน์ POPEYE

  • popeye classic gc
  • *
  • กระทู้: 384
  • Popular Vote : 10
  • ป็อปอายอินเตอร์เฉียง
ตอนนี้รถผมไม่ได้ต่อ (เน้น)lสายเวคคั่มreculator เดิม แต่reculatorก็ไม่ได้เอาออกนะครับ   มันจะเกี่ยวกับเรื่องแรงดันไหมครับ  และถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเกี่ยวกับอะไรได้บ้างครับ

ปั๊ม-------หัวฉีด--------เร็กกูเลเตอร์เดิม------------เร็กกูเลเตอร์ HKS-----------ไหลกลับถัง

หากไม่ได้ต่อสายแวคคั่มก็จะเท่ากับระบบน้ำมันรถคุณถุกคุมค้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมที่ 2.8 บาร์ที่ค่าต่ำสุด แต่สามารถเพิ่มแรงดันขึ้นจากค่า 2.8
 ด้วยเร็กกูเลเตอร์แต่งแทน
  แรงดันน้ำมัน ตอนเดินเบาจะได้ค่านี้ และจะไม่สามารถลงต่ำกว่านี้อีก เพราะเรกกูเลเตอร์ 2 ตัวต่ออนุกรมกัน และ เรกกูเลเตอร์ตัวเดิมอยู่ก่อนหน้า ตัวแต่ง
 วาวล์หรือรูน้ำมันที่ไหลผ่านเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกกลายเป็นรูที่มีขนาดคงที่ ค่าสปริงก็คงที่เนื่องจากไม่มีแรงใดๆมากระทำอีกต่อไป (แวคคั่ม/บูส)

ดังนั้นถึงแม้ว่าน้ำมันจะไหลผานต่อมายังเร็กกูเลเตอร์ตัวที่ 2 ของแต่งHKS ที่ต่อ แวคคั่มอยู่ขณะเดินเบา (วาวล์เปิดมากกว่าตัวเดิมเพราะแวคคั่ม)
 ก็ไม่ได้ทำให้แรงดันที่หัวฉีดลดลงได้แต่อย่างใดเลย เพราะวาวล์ ของเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกมันตีบซะแล้ว จึงได้ค่าแรงดันเท่ากับค่าของเร็กกูเลเตอร์มาตรฐาน
 ตัวเดิม ตอนไม่ต่อแวคคั่มนั่นเอง
เป็นค่าต่ำสุดที่ระบบจะยอมได้

หากต่อแวคคั่มให้กับเรกกูเลตอร์เดิมด้วยแรงดันน้ำมันเริ่มต้นก็จะสามารถเริ่มได้ที่ค่าเริ่มตั้นมาตรฐานคือประมาณ 2.4 บาร์ ( 2.8-0.4) เป็นต้นไป โดยเราจะให้เริ่มที่ 2.5, 2.6 หรือ 2.7
 ก็ได้ โดยการปรับค่าทีเร็กกูเลเตอร์แต่ง จะเห็นว่าทำงานของแรกกูเลเตอร์ทั้ง 2 ตัวจะ over lap กันนั่นเอง
 
หากต้องการค่าเริ่มต้นมากกว่า 2.8 ไปแล้วการต่อสายแวคคั่มให้เร็กกูเตอร์เดิมก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด







)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2010, 11:26:24 am โดย POPEYE »
เทอร์โบลุกเป็นไฟ ลูกสูบละลายกลายเป็นผง