ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ  (อ่าน 8667 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
ช่วงนี้ได้มีโอกาศซิ่งพวกขับหลังทั้งzจนไปถึงกระบะ! บ่อยหน่อย เลยมีคำถามมาถามผู้รู้หน่อยครับ
ช่วงออกจากเอเปกตอนรถยังไม่ตั้งลำตรงดีถ้าเดินคันเร่งแรงไปท้ายจะปัดออก คราวนี้มันก็สนุกดี แต่คิดๆว่าถ้ามาแรงกว่านี้แล้วเกิดวันนั้นอยากมันกว่า(ประมาณว่าอยากจะดริฟนิดๆ) แล้วเดินคันเร่งแรง แล้วถ้ารถมันท้ายออกมา เตรียมจะหมุนละ สิ่งแรงที่ควรจะทำคืออะไรดีครับ
1) เท่าที่เคยทำคือ เดินคันเร่งให้น้อยลง ประคองพวงมาลัย พอกลับมาตรง แล้วก็เหยียบต่อให้พุ่งไปข้างหน้า
กลัวเหยียบเบรกแล้ว หน้าover กลับมาพอเหยียบคันเร่งอีกแล้วมันจะสะบัดหนัก
อันนี้ทำในที่โค้งมีพิ้นที่เยอะ
2) อีกทีคือเดินคันเร่งน้อยลงแล้วแต่ท้ายมันไม่หยุดแฮะ สงสัยจะหมุนแระ  แตะเบรกให้มัหยุดดีกว่า สรุป หมุดไปครึ่งวง

บางทีมาหนักๆบอกตรงๆว่ามั่วไปแบบตอนนั้นไม่ได้คิดแล้วท้ายกวาดนิดๆสบัดๆหน่อยเหยียบคั่เร่งไปตั้งพวงมาลัยในที่ๆเราจะไปก็ผ่านโค้งไปได้ ยังทำเหมือนตอนขับรถ 4wd อยุ่ เพราะล้อหน้ามันจะช่วยดึงรถไปในทิศทางที่เราหันพวงมาลัย (คิดว่าประมาณนั้นนะครับ) ไอ้ที่เคยอ่านมาเกี่ยวกับรถขับหลังมันก็ลืมไปหมด เอาความรุ้สึกตอนนั้นเป็นหลักแล้วอะครับ  emo41o

ถามไปถามมาเริ่มอยากจะไปเรียนดริฟละครับ

ช่วยชี้แนะด้วยครับ เพราะนี่เป็นเว็ปซูเลยไม่แน่ใจว่าเทคนิกขับสี่จะใช้กับขับหลังได้มากน้อยเพียงไดครั้บ

ขอบคุณครับ     
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 05:48:19 AM »
 emo72o

 จะขับแบบไหนก็แล้วแต่ FF FR AWD MR หรือ RR  อย่างแรกที่ควรรู้คือพื้นฐานและ"ธรรมชาติ"ของรถประเภทนั้นๆครับ

ที่ถามมาเรื่องของกระบะ มันก็จัดอยู่ในหมวดหมู่ FR คือ เครื่องวางหน้า+ขับหลัง 

แต่ถ้าจะเอาไปเปรียบกับรถเก๋ง/สปอร์ตในแบบเดียวกัน(FRเหมือนกัน)อาจจะไม่ได้ทั้งหมด เพราะรถถูกออกแบบมาให้ใช้งานคนละแบบ

ระบบช่วงล่างก็คนละแบบ แต่วิธีการควบคุมแทบไม่ต่างกัน นั่นคือ เจ้าพวก"เครื่องหน้า+ขับหลัง"แบบนี้ มันออกอาการได้ทั้งสองแนว

คือ Understeer ก็มี Oversteer ก็ง่าย  แต่ถ้าเอาตามที่ถามมา คือการ"ตั้งใจ"จะทำให้มัน Oversteer ด้วยการเดิน/กระแทกคันเร่ง

ช่วงจะออกจากโค้ง ซึ่งแน่นอนครับว่ามันเร้าใจหน่อย ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากให้ทราบไว้ก่อนคือ รถ ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม ถ้าต้องการควบคุม

ให้ได้  มันจำเป็นต้องมี traction ตลอดโค้ง นั่นหมายความว่า ไอ้การ"ยกคันเร่งหมด" คือการที่เราไปลด tractionลงด้วยความไม่ตั้งใจ

กรณีเดินคันเร่งแล้วออกเยอะเกินไป จริงๆแล้วเราต้องนึกถึงการ counter steering ให้ทันซะก่อน ไม่ใช่รอให้ท้ายออกแล้วค่อยแก้

เมื่อแก้(พวงมาลัย) ก็ต้องให้พอดี/สัมพันธ์กับอาการขวางของตัวรถ ไม่ใช่เร็วไป/มากไป  แบบนั้นหมุนได้ง่ายๆ

  ถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายๆก็คือ  จำเป็นต้อง"มีคันเร่ง"ไว้ตลอด ไม่มากไม่น้อย ตามแต่ที่องศาที่เราต้องการจะให้ขวาง

แล้วควบคุมทิศทางด้วยพวงมาลัย ให้สัมพันธ์กับอาการของรถ  ของแบบนี้ ต้องใช้การฝึกฝน/ทักษะพอสมควรครับ พวกเราที่เคยชินกับขับ4

ถ้าไปลองใหม่ๆอาจจะมีเหวอได้  ผมแนะนำให้หัดเวลาฝนตก  หาลานโล่งๆ ลองฝึกเรื่องการ countersteer และการใช้คันเร่งให้เข้ากัน

ลองทำโดนัท ตั้งแต่วงแคบๆขยายไปจนถึงวงกว้างๆ(โดยไม่หยุดรถ) ก็ช่วยได้เยอะครับ  emo64o
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!

ออฟไลน์ Benzino

  • SRS Member
  • *
  • กระทู้: 795
  • Popular Vote : 4
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 12:00:27 PM »
ขอบคุณครับจานอั๋น!!  มิน่าเล่า!??!!

 emo60o emo60o emo60o emo60o
"เรา Supply Army "
[img]http://img9.imageshack.us/img9/9231/srsnewcolorsnewtt1.g

ออฟไลน์ Hiter

  • ยังไงกัน...
  • *
  • กระทู้: 2,692
  • Popular Vote : 62
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 12:56:13 PM »
 emo64o

ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 04:18:42 PM »
emo72o

 จะขับแบบไหนก็แล้วแต่ FF FR AWD MR หรือ RR  อย่างแรกที่ควรรู้คือพื้นฐานและ"ธรรมชาติ"ของรถประเภทนั้นๆครับ

ที่ถามมาเรื่องของกระบะ มันก็จัดอยู่ในหมวดหมู่ FR คือ เครื่องวางหน้า+ขับหลัง 

แต่ถ้าจะเอาไปเปรียบกับรถเก๋ง/สปอร์ตในแบบเดียวกัน(FRเหมือนกัน)อาจจะไม่ได้ทั้งหมด เพราะรถถูกออกแบบมาให้ใช้งานคนละแบบ

ระบบช่วงล่างก็คนละแบบ แต่วิธีการควบคุมแทบไม่ต่างกัน นั่นคือ เจ้าพวก"เครื่องหน้า+ขับหลัง"แบบนี้ มันออกอาการได้ทั้งสองแนว

คือ Understeer ก็มี Oversteer ก็ง่าย  แต่ถ้าเอาตามที่ถามมา คือการ"ตั้งใจ"จะทำให้มัน Oversteer ด้วยการเดิน/กระแทกคันเร่ง

ช่วงจะออกจากโค้ง ซึ่งแน่นอนครับว่ามันเร้าใจหน่อย ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากให้ทราบไว้ก่อนคือ รถ ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม ถ้าต้องการควบคุม

ให้ได้  มันจำเป็นต้องมี traction ตลอดโค้ง นั่นหมายความว่า ไอ้การ"ยกคันเร่งหมด" คือการที่เราไปลด tractionลงด้วยความไม่ตั้งใจ

กรณีเดินคันเร่งแล้วออกเยอะเกินไป จริงๆแล้วเราต้องนึกถึงการ counter steering ให้ทันซะก่อน ไม่ใช่รอให้ท้ายออกแล้วค่อยแก้

เมื่อแก้(พวงมาลัย) ก็ต้องให้พอดี/สัมพันธ์กับอาการขวางของตัวรถ ไม่ใช่เร็วไป/มากไป  แบบนั้นหมุนได้ง่ายๆ

  ถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายๆก็คือ  จำเป็นต้อง"มีคันเร่ง"ไว้ตลอด ไม่มากไม่น้อย ตามแต่ที่องศาที่เราต้องการจะให้ขวาง

แล้วควบคุมทิศทางด้วยพวงมาลัย ให้สัมพันธ์กับอาการของรถ  ของแบบนี้ ต้องใช้การฝึกฝน/ทักษะพอสมควรครับ พวกเราที่เคยชินกับขับ4

ถ้าไปลองใหม่ๆอาจจะมีเหวอได้  ผมแนะนำให้หัดเวลาฝนตก  หาลานโล่งๆ ลองฝึกเรื่องการ countersteer และการใช้คันเร่งให้เข้ากัน

ลองทำโดนัท ตั้งแต่วงแคบๆขยายไปจนถึงวงกว้างๆ(โดยไม่หยุดรถ) ก็ช่วยได้เยอะครับ  emo64o

ขอบคุณครับจารครับ!   emo28o
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 04:20:12 PM »
emo64o

โห!  ทำไปได้! อิมขับหลัง 1000 hp รึป่าวคับ!? 
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ maddoc

  • *
  • กระทู้: 221
  • Popular Vote : 0
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 06:07:10 PM »
โดยส่วนตัวคิดว่า รถเสมือนคานครับ อย่างที่อาจารย์อั๋นบอกครับ เวลาเข้าโค้ง ไม่ว่าจะเบรคหรือถอนคันเร่งเกิดปฎิกริยาได้คล้ายกันคือนำ้หนักรถถ่ายไปด้านหน้า แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นที่ล้อหน้ามากกว่า เมื่อหักพวงมาลัยจุดหมุุของรถเกิดที่ล้อหน้า ล้อหลังยังมีแรงเฉื่อย พาตัวรถหมุนไป เหมือนคานที่มีล้อหน้าเป็นจุดหมุน พอเราหักคืนพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการแรงเสียดทานที่ล้อหน้าลดลงทำให้การหมุนของรถไม่เกิดต่อ การเลี้ยงคันเร่งเพื่อสร้างแรงขับที่พอดีจึงพารถไปได้ตามที่เราต้องการ

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 29, 2011, 06:22:58 AM »
โดยส่วนตัวคิดว่า รถเสมือนคานครับ อย่างที่อาจารย์อั๋นบอกครับ เวลาเข้าโค้ง ไม่ว่าจะเบรคหรือถอนคันเร่งเกิดปฎิกริยาได้คล้ายกันคือนำ้หนักรถถ่ายไปด้านหน้า แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นที่ล้อหน้ามากกว่า เมื่อหักพวงมาลัยจุดหมุุของรถเกิดที่ล้อหน้า ล้อหลังยังมีแรงเฉื่อย พาตัวรถหมุนไป เหมือนคานที่มีล้อหน้าเป็นจุดหมุน พอเราหักคืนพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการแรงเสียดทานที่ล้อหน้าลดลงทำให้การหมุนของรถไม่เกิดต่อ การเลี้ยงคันเร่งเพื่อสร้างแรงขับที่พอดีจึงพารถไปได้ตามที่เราต้องการ

 emo65o ถูกต้องเลยครับ 

เมื่อพูดถึงคาน หรือแกน ผมก็จะอธิบายเพิ่มเติมหน่อย จะได้เข้าใจเหมือนๆกัน

แกนของรถ มีทั้งหมดสามทิศทาง(ถ้าใครอบรมกับผมหรือกับโตโยต้าไปน่าจะจำได้)

      แกนแรก คือแกน(สมมุติ)ที่อยู่กลางรถ จากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย เป็นแกนตามขวาง 

จะทำงานเมื่อรถเคลื่อนที่ไปด้านหน้า(หน้ายกขึ้น+หลังยุบลง) หรือเบรค/ยกคันเร่ง(หน้ายุบ+หลังยก) เป็นการถ่ายน้ำหนักแบบ หน้า-หลัง

      แกนที่สอง แกนตามยาว จากหน้ารถไปทะลุหลังรถ เกิดขึ้นตอนรถเลี้ยว จะมีการถ่ายน้ำหนักออกด้านข้าง เช่นโค้งขวา

เลี้ยวขวา รถจะเอียง-ถ่ายน้ำหนักไปทางซ้าย  ถ้านึกไม่ออก ลองขับตามรถทัวร์หรือรถเมล์สูงๆ จะเห็นได้ชัดเจน

      แกนที่สาม เป็นแกนที่เกิดขึ้นตรงกลาง(จุดหมุนกลางรถ จากหลังคาลงสู่พื้น เกิดขึ้นเมื่อรถเกิดอาการหมุน หรือพลิกทิศทางอย่างรวดเร็ว

เมื่อพิจารณาจากทั้งสามแกน(สมมุติ)แล้ว ลองสังเกตุดูว่า ถ้าเป็นรถขับหลัง+เครื่องวางหน้า เมื่อเบรคเข้าไปในโค้ง+เริ่มเลี้ยว สองแกนแรกจะทำงาน

และเมื่อกดคันเร่งออกจากโค้ง แบบตั้งใจให้เกิดอาการ oversteer น้ำหนักจะถ่ายกลับมาด้านหลังด้วยความรวดเร็ว  ถ้าเรา countersteer ไม่ทัน

แกนที่สามจะทำงาน(หมุน) หรือแม้กระทั่ง counter ทัน แต่ไม่ยอมกดคันเร่ง หรือกดมาก/น้อยไป ไม่พอดีกับองศาพวงมาลัย ก็หมุนได้เช่นกัน

 เรื่องการถ่ายน้ำหนัก ผมมองว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะขับรถแบบไหนก็ตาม ต้องเข้าใจว่า จะสั่งให้รถถ่ายน้ำหนักไปทิศทางไหน

และต้องทำทุกอย่างให้นุ่มนวลและรวดเร็วพอดี คำนี้ดูเหมือนง่าย แต่จะทำน่ะยากครับ คนที่ไม่เคยฝึกเรื่องนี้มาเลย ผมไม่แนะนำให้ไปขับรถแรงๆ

หรือรถที่เกิดอาการเหล่านี้ได้ง่ายๆ  พวกเราหลายคน ขับสี่มาตลอด ทำเครื่องแรงๆ ขับเอามันส์เข้าว่า แล้วเข้าใจว่าจะไปทำกับรถแบบไหนก็ได้

แบบนี้อันตรายแน่นอน    เร็วบนทางตรงๆ เกรียนบ้าพลังที่ไหนก็ทำได้ครับ แต่ถ้าต้องการควบคุมรถให้อยู่หมัด จำเป็นต้องฝึกฝนครับ
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!

ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 02:06:01 PM »
emo65o ถูกต้องเลยครับ 

เมื่อพูดถึงคาน หรือแกน ผมก็จะอธิบายเพิ่มเติมหน่อย จะได้เข้าใจเหมือนๆกัน

แกนของรถ มีทั้งหมดสามทิศทาง(ถ้าใครอบรมกับผมหรือกับโตโยต้าไปน่าจะจำได้)

      แกนแรก คือแกน(สมมุติ)ที่อยู่กลางรถ จากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย เป็นแกนตามขวาง 

จะทำงานเมื่อรถเคลื่อนที่ไปด้านหน้า(หน้ายกขึ้น+หลังยุบลง) หรือเบรค/ยกคันเร่ง(หน้ายุบ+หลังยก) เป็นการถ่ายน้ำหนักแบบ หน้า-หลัง

      แกนที่สอง แกนตามยาว จากหน้ารถไปทะลุหลังรถ เกิดขึ้นตอนรถเลี้ยว จะมีการถ่ายน้ำหนักออกด้านข้าง เช่นโค้งขวา

เลี้ยวขวา รถจะเอียง-ถ่ายน้ำหนักไปทางซ้าย  ถ้านึกไม่ออก ลองขับตามรถทัวร์หรือรถเมล์สูงๆ จะเห็นได้ชัดเจน

      แกนที่สาม เป็นแกนที่เกิดขึ้นตรงกลาง(จุดหมุนกลางรถ จากหลังคาลงสู่พื้น เกิดขึ้นเมื่อรถเกิดอาการหมุน หรือพลิกทิศทางอย่างรวดเร็ว

เมื่อพิจารณาจากทั้งสามแกน(สมมุติ)แล้ว ลองสังเกตุดูว่า ถ้าเป็นรถขับหลัง+เครื่องวางหน้า เมื่อเบรคเข้าไปในโค้ง+เริ่มเลี้ยว สองแกนแรกจะทำงาน

และเมื่อกดคันเร่งออกจากโค้ง แบบตั้งใจให้เกิดอาการ oversteer น้ำหนักจะถ่ายกลับมาด้านหลังด้วยความรวดเร็ว  ถ้าเรา countersteer ไม่ทัน

แกนที่สามจะทำงาน(หมุน) หรือแม้กระทั่ง counter ทัน แต่ไม่ยอมกดคันเร่ง หรือกดมาก/น้อยไป ไม่พอดีกับองศาพวงมาลัย ก็หมุนได้เช่นกัน

 เรื่องการถ่ายน้ำหนัก ผมมองว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะขับรถแบบไหนก็ตาม ต้องเข้าใจว่า จะสั่งให้รถถ่ายน้ำหนักไปทิศทางไหน

และต้องทำทุกอย่างให้นุ่มนวลและรวดเร็วพอดี คำนี้ดูเหมือนง่าย แต่จะทำน่ะยากครับ คนที่ไม่เคยฝึกเรื่องนี้มาเลย ผมไม่แนะนำให้ไปขับรถแรงๆ

หรือรถที่เกิดอาการเหล่านี้ได้ง่ายๆ  พวกเราหลายคน ขับสี่มาตลอด ทำเครื่องแรงๆ ขับเอามันส์เข้าว่า แล้วเข้าใจว่าจะไปทำกับรถแบบไหนก็ได้

แบบนี้อันตรายแน่นอน    เร็วบนทางตรงๆ เกรียนบ้าพลังที่ไหนก็ทำได้ครับ แต่ถ้าต้องการควบคุมรถให้อยู่หมัด จำเป็นต้องฝึกฝนครับ
emo28o   เป็นอีกเหตุผลนึงที่คิดๆว่าจะลองฝึกขับหลังให้เข้าโค้งได้อย่างที่ใจคิดครับ เพราะรู้สึกเหมือนโดนทำให้เสียนิสัยโดยรถขับสี่อยุ่พักใหญ่ๆ  emo28o
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 08:33:05 PM »
emo28o   เป็นอีกเหตุผลนึงที่คิดๆว่าจะลองฝึกขับหลังให้เข้าโค้งได้อย่างที่ใจคิดครับ เพราะรู้สึกเหมือนโดนทำให้เสียนิสัยโดยรถขับสี่อยุ่พักใหญ่ๆ  emo28o

 emo64o

 แต่ถ้าจะเอาแบบ ฝึกทีเดียวเจ๋งไปเลย ต้องพวก RR หรือ MR ครับ

RR ก็หายาก หรือหาได้ก็แพงหน่อย พวกกบมหาประลัยทั้งหลาย ยิ่งถ้าได้รุ่นใหม่ๆดิบๆยิ่งดี

MR อันนี้รถญี่ปุ่นยังพอหามาขับได้ จะเป็นโตโยต้า ทั้ง MR2 MRS หรือถ้างบเยอะ ก็ดอกบัว-Exige อะไรประมาณนี้

ผมเอง เผอิญว่า ได้มีโอกาสทดสอบรถพวกนี้อยู่บ้าง(ไปจนถึงบ่อยๆ) พอจะจับใจความได้ว่า อันที่จริงแล้ว

รถทุกประเภทที่เล่ามาตั้งแต่แรก มันมีความยากและง่ายในการควบคุมบังคับอยู่เหมือนกัน  รถที่ดูเหมือนจะขับง่ายที่สุดแบบขับสี่

จริงๆแล้วไม่ใช่รถขับง่ายนะครับ ถ้าเราขับแบบจริงจัง-เน้นรีดสมรรถนะออกมาเต็มที่ อาการที่จะเจอ รับรองว่าไม่หมู ถ้าประมาท

รถขับหน้านี่แหละที่จะควบคุมง่ายที่สุดในบรรดารถทุกๆแบบที่ว่าไว้ แต่ก็อย่าไว้ใจขับหน้าแรงๆ พวกอุปกรณ์ครบๆ แบบนั้นก็เอาเรื่อง

ขับหลัง (ดู)เหมือนจะคุมยากที่สุด แต่ก็มาแบ่งว่า เครื่องหน้า หรือเครื่องกลาง หรือเครื่องหลัง  ถ้าเป็นรถตลาดทั่วไป เครื่องหน้า-ขับหลัง

แบบนั้นเรียนรู้ซักหน่อยก็ขับให้สนุกได้   สำหรับผมนะครับ เครื่องวางกลางขับหลังนี่แหละ รถครูชั้นดี  ใครมีโอกาสหามาลองขับ

ลองควบคุมได้ รับรองว่าไปขับรถแบบไหน ก็ใช้เวลาไม่นานในการเอาให้อยู่หมัด  emo65o
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!

ออฟไลน์ HSV

  • *
  • กระทู้: 428
  • Popular Vote : 0
  • K45
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 09:57:42 PM »
สำหรับผม  เคยมีอาจารย์ท่านนึง เค้า สอนว่า  ขับรถให้เปรียบเหมือน มี ลูกบอลลูกนึงกลิ้งอยู่ในรถ

อยากให้รถมีอาการ อย่างไรล่ะ   เราก้ออื้มมมมม  ค่อยๆกลับไปคิด  และพยายามฝึกฝน  เทคนิคการขับต่างๆ

จนตอนนี้ ไม่ว่าขับอะไร  ก็มีลูกบอล ลูกนึ้อยู่ ทุกครั้ง ที่สตาร์ท เครื่อง   
torqe is what makes the car accelerate,horse power maintains that.

ออฟไลน์ Ricer

  • *
  • กระทู้: 837
  • Popular Vote : 2
  • PMP (Poor Man's Porsche) เห็นตูดปอร์ชอยู่ไวๆ
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 10:59:05 PM »
emo28o   เป็นอีกเหตุผลนึงที่คิดๆว่าจะลองฝึกขับหลังให้เข้าโค้งได้อย่างที่ใจคิดครับ เพราะรู้สึกเหมือนโดนทำให้เสียนิสัยโดยรถขับสี่อยุ่พักใหญ่ๆ  emo28o
emo64o

 แต่ถ้าจะเอาแบบ ฝึกทีเดียวเจ๋งไปเลย ต้องพวก RR หรือ MR ครับ

RR ก็หายาก หรือหาได้ก็แพงหน่อย พวกกบมหาประลัยทั้งหลาย ยิ่งถ้าได้รุ่นใหม่ๆดิบๆยิ่งดี

MR อันนี้รถญี่ปุ่นยังพอหามาขับได้ จะเป็นโตโยต้า ทั้ง MR2 MRS หรือถ้างบเยอะ ก็ดอกบัว-Exige อะไรประมาณนี้

ผมเอง เผอิญว่า ได้มีโอกาสทดสอบรถพวกนี้อยู่บ้าง(ไปจนถึงบ่อยๆ) พอจะจับใจความได้ว่า อันที่จริงแล้ว

รถทุกประเภทที่เล่ามาตั้งแต่แรก มันมีความยากและง่ายในการควบคุมบังคับอยู่เหมือนกัน  รถที่ดูเหมือนจะขับง่ายที่สุดแบบขับสี่

จริงๆแล้วไม่ใช่รถขับง่ายนะครับ ถ้าเราขับแบบจริงจัง-เน้นรีดสมรรถนะออกมาเต็มที่ อาการที่จะเจอ รับรองว่าไม่หมู ถ้าประมาท

รถขับหน้านี่แหละที่จะควบคุมง่ายที่สุดในบรรดารถทุกๆแบบที่ว่าไว้ แต่ก็อย่าไว้ใจขับหน้าแรงๆ พวกอุปกรณ์ครบๆ แบบนั้นก็เอาเรื่อง

ขับหลัง (ดู)เหมือนจะคุมยากที่สุด แต่ก็มาแบ่งว่า เครื่องหน้า หรือเครื่องกลาง หรือเครื่องหลัง  ถ้าเป็นรถตลาดทั่วไป เครื่องหน้า-ขับหลัง

แบบนั้นเรียนรู้ซักหน่อยก็ขับให้สนุกได้   สำหรับผมนะครับ เครื่องวางกลางขับหลังนี่แหละ รถครูชั้นดี  ใครมีโอกาสหามาลองขับ

ลองควบคุมได้ รับรองว่าไปขับรถแบบไหน ก็ใช้เวลาไม่นานในการเอาให้อยู่หมัด  emo65o

 emo32o  อ่านแล้วทำให้กิเลสอยากได้พวก MR มันกลับมาอีกแล้วครับจาร


สำหรับผม  เคยมีอาจารย์ท่านนึง เค้า สอนว่า  ขับรถให้เปรียบเหมือน มี ลูกบอลลูกนึงกลิ้งอยู่ในรถ

อยากให้รถมีอาการ อย่างไรล่ะ   เราก้ออื้มมมมม  ค่อยๆกลับไปคิด  และพยายามฝึกฝน  เทคนิคการขับต่างๆ

จนตอนนี้ ไม่ว่าขับอะไร  ก็มีลูกบอล ลูกนึ้อยู่ ทุกครั้ง ที่สตาร์ท เครื่อง   

เอาเป็นกล่องพร้อมเต้าหู้ในน้ำแบบทาคุมิแทนได้มั้ยครับพี่ครับ ... ถ้าทางเต้าหู้จะกระจาย  emo33o

ยังไงต้องขอบคุณพี่ๆที่มาช่วยให้ความรู้นะครับ
All boxer engines, regardless of no. of cylinders, provide perfect balance because the movement of a piston is exactly counter by the corresponding piston in another bank...the usage is limited to Porsche and Subaru today.    However, we'll have a Toyobaru soon???

ออฟไลน์ The Blitz

  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Popular Vote : 40
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 11:55:38 PM »
อืม นึกตามออกเลย เข้าใจง่ายดีครับโพด

พี่อั๋น: เดี๋ยวเจอกันโตโยต้าเรซซิ่งสคูลครับพี่ ผมจะเริ่มเอาจริงแล้วครับ

ออฟไลน์ kenny_eak

  • *
  • กระทู้: 534
  • Popular Vote : 12
  • meaww
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 02:00:14 AM »
ซูฮก อาจารย์ สุดยอด  emo65o emo65o

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: ถามเรื่องเทคนิกควบคุมรถขับหลังหน่อยครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2011, 08:09:01 AM »
สำหรับผม  เคยมีอาจารย์ท่านนึง เค้า สอนว่า  ขับรถให้เปรียบเหมือน มี ลูกบอลลูกนึงกลิ้งอยู่ในรถ

อยากให้รถมีอาการ อย่างไรล่ะ   เราก้ออื้มมมมม  ค่อยๆกลับไปคิด  และพยายามฝึกฝน  เทคนิคการขับต่างๆ

จนตอนนี้ ไม่ว่าขับอะไร  ก็มีลูกบอล ลูกนึ้อยู่ ทุกครั้ง ที่สตาร์ท เครื่อง   

  emo65o

 เรื่องลูกบอล เต้าหู้ หรืออะไรก็แล้วแต่  ทำให้เราจินตนาการถึงแรงG ที่เกิดขึ้นกับรถได้ง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้นครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราเข้าใจเรื่องการถ่ายเทน้ำหนักอย่างถูกต้อง เราจะรู้สึกได้ถึงแรงG ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะทิศทางไหนก็ตาม

ผมชอบที่อาจารย์มาซากิแกทำท่ายืนกำสองมือคล้ายๆถือพวงมาลัย แล้วอธิบายพร้อมๆกับโยกตัวไปซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง

ประกอบในแต่ละโค้ง แบบนั้นก็เข้าใจง่ายดีเหมือนกัน

  ความแตกต่างของรถแต่ละแบบ ถ้าลงรายละเอียด ผมว่าสงสัยต้องเปิดอีกกระทู้แน่ๆ เอาเป็นว่า รถแต่ละแบบ

มันจะถ่ายเทน้ำหนักได้ไม่เหมือน/ไม่เท่ากัน ในแต่ละการกระทำที่คนขับสั่งให้เป็น  เอาแค่เบรคแรงๆบนทางตรง

รถที่เครื่องวางด้านหน้า ไม่ว่าจะขับหน้า ขับหลัง หรือขับสี่ ก็มักจะเกิดอาการ "เบรคหัวทิ่ม" ชัดเจนที่สุด

ในขณะที่ ถ้าเป็นเครื่องวางกลาง หรือวางหลัง เมื่อเบรคในทรงเดียวกัน น้ำหนักทั้งหมดจะไม่ตกไปที่ด้านหน้ารถ

หรือล้อคู่หน้าเพียงอย่างเดียว ทำให้สามารถเบรคได้ลึกกว่า/แรงกว่ารถแบบแรก 

  พอเริ่มเลี้ยวเข้าไปในโค้ง ถ้าตามที่ผมเคยบอก คือต้องค่อยๆเริ่มคลายเบรค หรือที่เรียกว่า trail braking น่ะแหละ

น้ำหนักที่โหลดอยู่ที่ล้อหน้า จะค่อยๆถ่ายเทมาที่ด้านหลังและด้านข้างมากขึ้น ถ้านึกถึงลูกบอลตามที่โพดบอก

จากเบรคเต็มๆบนทางตรง ลูกบอลกลิ้งไปหน้ารถ พอเริ่มเลี้ยว+คลายเบรค ลูกบอลจะไหลกลับมาด้านหลัง+ด้านข้าง

เมื่อไปถึงกลางโค้ง ลูกบอลก็จะอยู่ด้านนอกของโค้งพอดี (สมมุติโค้งขวา รถเอียงซ้าย น้ำหนักถ่ายไปด้านนอกโค้ง ลูกบอลกลิ้งไปซ้าย)

แต่.....เมื่อผ่านจุดตัดยอดโค้ง(Apex) เริ่มเดินคันเร่ง  ตรงนี้ละครับ ที่ผมบอกว่า ขับหน้า ง่ายที่สุด เพราะอะไร?

ถ้าเราดูแค่การถ่ายน้ำหนักหรือลูกบอล ตรงนี้มันจะค่อยๆกลิ้งไปด้านหลัง ตามที่เรากดคนเร่งออกจากโค้ง เครื่องหน้าขับหน้า

ล้อคู่หน้าก็จะทำหน้าที่ทั้งเลี้ยว และดึงรถออกไป  ถ้าทำอะไรผิดพลาด เต็มที่ก็แค่ Understeer คือหน้าไถ แก้ไม่ยากด้วยการผ่อนคันเร่งนิดหน่อย

หรือสวนพวงมาลัยให้ล้อตรงเล็กน้อยก็เดินคันเร่งต่อไปได้   แต่ถ้าเป็น เครื่องหน้าขับหลัง น้ำหนักถ่ายเทเหมือนกันเป๊ะ ลูกบอลกลิ้งไปที่เดียวกัน

แต่พอเริ่มเดินคันเร่ง ท้ายจะมีการขยับเพื่อ "ดัน"ให้รถพุ่งออกไปจากโค้ง ในขณะที่ล้อคู่หน้าก็พยายามเลี้ยว ตรงนี้ ถ้าไม่พอดี อาการ Oversteer จะตามมา

ซึ่งแก้ไขได้ไม่ง่ายเหมือนแบบแรก แต่ก็ยังพอได้ ด้วยการ countersteer หรือ "สวน"พวงมาลัยไปทิศตรงข้าม คุมคันเร่งให้ได้

 สุดท้าย เครื่องวางกลาง/วางหลัง ขับหลัง  ขั้นตอนออกโค้ง ถ้ามีอะไรผิดพลาด เช่นคืนพวงมาลัยไม่สัมพันธุ์กับความเร็วหรือคันเร่ง

อาการที่จะเจอ มันมีได้ทั้ง under หรือ over  หรือ underแล้วover ตาม  แบบนี้แหละครับที่ผมบอกว่ามันไม่หมู

เจ้าลูกบอลที่ต้องกลิ้งไปด้านหลังเวลาจะออกจากโค้ง มันก็จะกลิ้งไปกลิ้งมา  สุดท้ายถ้าแก้อาการไม่ถูก หรือแก้ไม่ดีพอ รถอาจจะเจออาการ"ชกมวย"

คือพอ over ปั๊บ เราสวนพวงมาลัย แต่งคันเร่ง  แต่ไม่พอดี รถก็จะดีดกลับมาอีกฝั่ง ทีนี้ละยุ่งเลยครับ  เพราะมันจะไม่เหมือนการทำ Yaw ในแบบดริฟท์

ที่มันต่างกันเพราะว่า การทำ Yaw ของดริฟท์นั้น เกิดขึ้นด้วยการตั้งใจให้เกิดของคนขับ  แต่ไอ้พวก MR หรือ RR ชกมวยเนี่ย มันเกิดโดยคนขับไม่ทันระวัง

และมักจะตกใจ แก้ไม่ทัน หรือแก้ไม่พอดี  อันนี้ละครับที่ผมพูดถึง 

 emo64o
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!