“ซูบารุ” มั่นใจตลาดรถไทย คุยโมเดลใหม่โกยยอด ข่าวในประเทศ-กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ กรุ๊ป มั่นใจตลาดรถยนต์ไทยมีศักยภาพเหนือประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดเตรียมโมเดลใหม่ คอมแพกต์ เอสยูวี รุ่นแรกที่กำลังขึ้นไลน์ประกอบในมาเลเซียปีหน้า ลุยตลาดไทยคาดหวังขายมากสุดในอาเซียน คุยยอดขายไม่ต่ำกว่า 2,000 คันต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้าแน่นอน
คอมแพกต์ เอสยูวี รุ่นแรก เตรียมโชว์ตัวคันจริงปลายปีนี้
เกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และกลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากบันทึกข้อตกลงที่ทำขึ้นกับบริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรี้ จำกัด ได้มอบหมายให้ตันจงกรุ๊ปเป็นผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุ คอมแพกต์ เอสยูวีรุ่นแรกที่พัฒนาจากต้นแบบ ซูบารุ เอ็กซ์วี ในประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ขณะ นี้พร้อมขึ้นไลน์การประกอบในเดือนตุลาคม 2555 ด้วยกำลังการผลิต 5,000 คันต่อปี สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย
เกลน ตัน มั่นใจโมเดลใหม่ดันยอดซูบารุพุ่งรวมถึง 2,500 คัน
“การเผยโฉมคันจริงจะนำเข้ามาโชว์ในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ และพร้อมจำหน่ายช่วงปลายปีหน้า โดยตั้งเป้ายอดขายในประเทศไทยได้มากกว่ามาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างแน่นอน แม้ว่าปัจจุบันยอดขายซูบารุในไทย ครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 80 คัน ตั้งเป้ารวมถึงสิ้นปีนี้ที่ 150 คัน แต่เชื่อว่าในปี 2556 โมเดลใหม่จะต้องมีตัวเลขไม่ต่ำกว่า 2,000 คัน และหากรวมรุ่นที่ปัจจุบันทำตลาดอยู่แล้ว ซูบารุจะมียอดขายรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 2,500 คัน”
ขณะ เดียวกันภายในปี 2558 จะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการในประเทศไทยให้ได้รวม 26 แห่ง แบ่งออกเป็นกรุงเทพมหานครฯ จากเดิม 6 แห่งเพิ่มเป็น 10 แห่ง และต่างจังหวัดเดิม 9 แห่งเพิ่มเป็น 16 แห่ง และเพิ่มงบการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ตัวสินค้าด้วยการชูเอกลักษณ์เป็นรถที่ ใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีความปลอดภัย ขับสนุก และพร้อมใช้งานสำหรับคนเมืองในทุกเส้นทาง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของรถต้นแบบ ซูบารุ เอ็กซ์วี ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะใช้ เครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกับ ซูบารุ อิมเพรซา ใหม่ ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ AWD แบบ Symmetrical โดยเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ หรือสูบนอน บล็อกใหม่ในคลาส 2000 ซีซี จับคู่กับชุดเกียร์ CVT แบบ Lineartronic ซึ่งในแง่ของพละกำลังแรงม้าและแรงบิดยังไม่มีความชัดเจนใดๆ
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000100077
