ขอขอบคุณพี่เต้ยครับ ...... จากใจน้องคนนี้จริงๆ และต้องขอโทษเราๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องชาว SSS ที่ทำให้พี่ต้องเสียเวลา เขียนจดหมาย ฉบับนี้ขึ้นมากถึงพวกเรา
หลายท่านในที่นี้ อาจจะยังไม่รู้จัก พี่เต้ย ของพวกเรา หรือ ท่าน ดร.พรต ซอโสตถิกุล พี่เต้ยไม่ใช่เพียงแค่ พี่ หรือ ประธาน หรือเพื่อน ของสมาชิก รุ่นแรกๆ หรือ รุ่นปัจจุบันเท่านั้น พี่เต้ยเองยังเป็นคนที่รวบร่วมหัวใจ ของชาว Subaru ในยุคที่ต้องเรียกว่า มืดมน ในวันที่แม้แต่ Motorimage ในวันนั้น ก็ยังไม่ได้แข็งแรงในตลาดซักเท่าไหร ในวันที่รถยนต์ Subaru ถูกทอดทิ้งจากบริษัท สยาม ซูบารุ (เครือเดียวกับสยาม นิสสัน) และ หรือ ซุบารุ กรุงเทพ
ในวันนั้น วันที่เรา ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่รู้จะไปทางไหน อู่ก็มีอยู่ไม่กี่อู่ อะไหล้แต่ละชิ้นก็ดูจะหายากเสียเหลือเกิน คนใช้รถในสมัยนั้นก็ขาดการติดต่อกัน มีพบปะกันบ้างตามอู่ แต่ก็เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ
ก็ได้กลุ่มๆ พี่ๆเรานี่แหล่ะ พี่พร พี่เต้ย พี่หมอ จาตุรงค์ พี่หน่อย หรือ โก๋หน่อย พี่ ถ้วน (ถ้าผมจำชื่อแกไม่ผิดนะครับ ตากลม STI คันแรกในเมืองไทย ตัวเป็นๆก็แกนี่แหล่ะ แถมสมัยนั้น ยังต้องจอดรถเอารถคันอื่นๆปิดไว้กลัวพ่อรู้ว่าใช้รถที่เป็นรถคู่แข่งกับค่ายที่ตัวเองเป็นเจ้าของ) และพี่ๆ อีกหลายๆท่านมากๆ ที่ผมอาจจะไม่ได้เอ้ยนาม รวมตัวกัน ตัดสินใจ กระจายข่าว สู่อู่ Subaru ทุกอู่ในตอนนี้
Power Speed
ซูบารุ รามอินทรา
ทวี ยานยนต์ (หลังๆ น่าจะเป็นยานบินละ)
พี่เล็ก Prodrive หรือ เล็กวัชรพล
Boxer Service
และที่ลืมไม่ได้ ในวันนั้น คือ Motorimage ที่เป็นเจ้าของสถานที่ในการประชุมของพวกเรา วันนั้น ศูนย์ของ Motorimage มีอยู่แค่ 2 ที่คือ ศูนย์ เพชรบุรีตัดใหม่ กับอีกศูนย์นึ่ง ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นศูนย์ Toyota ไปแล้ว อยู่บนถนน อ่อนนุช ประเวศ
ในวันนั้น นอกจากเราจะได้พบป๊ะกันแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลมากมาย ยินพูดคุยกัน ทำความรู้จัก ดูรถ และแน่นอนครับ วันนี้ Pizza and Beer ถูกจัดมาให้ สมาชิกอย่างเพียงพอและทั่วถึง ในวันนั้น เรามีการ Vote ชื่อ Siam Subaru Society เกิดขึ้น โดยมีพี่หมอ จาตุรงค์ เป็นผู้เสนอชื่อนี้ขึ้นมา ก็ขอขอบคุณครับ ไม่มีพี่หมอ เราก็ไม่มีชื่อนี้ใช้กันแน่ๆ
ในวันนั้น นโยบายต่างๆ ก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรมากเพียงแต่ต้องการให้ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ รู้จักกัน และเพื่อให้กลุ่มของเรา มีพลัง เมื่อมีพลังแล้ว เราก็สามารถที่จะต่อรองซื้อขายอะไรๆ เป็นกลุ่มได้ ในราคาที่ถูกกว่า นี่คือนโยบายแรกจากพี่ๆ
หลังจากวันนั้น มีการกำหนด กันขึ้นมาว่าจะมีการ พบป๊ะกันแบบนี้ เดือนละ 1 ครั้ง โดยที่ในแต่ละเดือนก็จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น อย่างต่ำๆ 10 คน เป็นครั้งละ 20 30 จนกระทั้ง ห้องประชุม ที่นั้น ไม่เพียงพอสำหรับ Meeting ของเรา
และเราก็ได้ มีการเปลี่ยนสถานที่กันหลายครั้ง เป็นที่ เพชรบุรี บ้าง และหลายครั้งทีเดียว ที่พี่เต้ย อนุญาติให้เราได้ใช้ Seacon เป็นสถานที่ประชุม หรือแม้แต่จอดรถถ่ายรูป ......... แม้แต่การเปิดตัว Impreza ตาเหยี่ยว ก็ได้ใช้ชั้น 4 โซนโรงหนังเป็นที่เปิดตัว และโชว์รถ ของ Motorimage
และพี่เต้ยก็อีกนั้นแหล่ะ ที่เป็นคนรวมกลุ่มพวกเรา ไปวิ่ง Track day โดยเริ่มจากนำสมาชิก SSS การร่วมกิจกรรม กับทาง ClubRT และต่อมาก็ได้มี Track Day เป็นของตนเอง
โคตรการ "ขับซู ดูว่าว เข้าหัวหิน" rally ท่องเที่ยว ที่ต้องบอกว่า แต่ละ SS ถึง SS เนี่ย ถ้าไม่ใช่เครื่อง Turbo อาจจะเข้าไม่ได้ตามเวลา และมารู้ทีหลังว่า พี่บัง ททท สมาชิกท่านนึงของเรา เป็ฯคนวาง line ทีนพี่แกโคตรโหด
ในสมัยก่อน พวกเราจะมีสานเป็นจดหมาย จากประธานของพวกเรา ส่งถึงสมาชิกทุกๆท่าน ถึงหน้าบ้าน ถึงโต๊ะทำงานกันเลยทีเดียว เราไม่เคยขาดการติดต่อจากพี่ชายของเราคนนี้ และพี่ก็ไม่เคย ลืมที่จะบอกเราว่า ช่วงนี้ มี Promotion ที่ไหน ลดค่าอะไหล่ ฝนตก อย่าลืมเช็คยางปัดน้ำฝน อากาศร้อน จะไปท่องเทียววันหยุด อย่าลืม เช็คยาง น้ำมันเครื่อง
และ Meeting ในปี 2002 ที่กระผมเองได้เสียง Vote จากสมาชิกรุ่นแรกๆ ให้เป็น Mr. Subaru และรับถ้วยจากมือพี่ชายคนนี้ พี่เต้ย ประธานคนแรก ซึ่งทุกวันนี้ แม้ว่า ผมจะไปวิ่งที่งานไหน ต่องานไหน แล้วได้ถ้วยกลับมา ก็ไม่มีถ้วยไหนที่ผม ภูมิใจ เท่าถ้วยใบที่พี่เต้ย และ เสียงจากสมาชิก ได้มอบให้ผม
ยังมีอีกหลายอย่าง ที่พี่ ทำให้เราเดินจากวันนั้น มาถึงวันนี้ได้ DNA ของพี่ จิตวิญญาณ ของพี่ๆ รุ่นนั้น ทำให้เรา เป็นเรา เป็น SSS
แต่วันนี้ พวกเรา กำลังก้าวเข้าไปสู่ ความขัดแย้ง กำลังเผชิญ ปัญหา กำลังมืดมน หาทางออกไม่ได้ ผมไม่รู้ว่า เรา เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ลากเรื่องราวนี้ มาจนถึงจุดนี้ได้อย่างไร อะไรคือต้นเหตุ อะไรเป็นสาเหตุ แต่วันนี้ ผมดีใจจริงๆ ที่พี่ชาย คนนี้ ได้สละเวลา อันมีค่าของพี่เอง มาแนะแนวทางให้พวกเราทุกคน เดินต่อไป
แม้ว่าวันนี้ หนทางดูจะมือมนเสียเหมือนเกิน แต่วันนี้ เรารู้ว่า ยังมีพี่ชาย คนนี้ คอยดูพวกเราเสมอ.....
ส่วนตัวแล้ว ผมมีความประทับใจส่วนตัว นอกเหนือจากเรื่องของ SSS กับตัวพี่เต้ย และ ขออนุญาติ แบ่งปัน
พี่เต้ย เป็นพี่คนนึง ในหลายๆคน ที่ผมเชิญไปร่วมงานแต่งงานของผม กับ ภรรยา โดยที่บอกตรงๆว่า ไม่ได้คิดว่าพี่เค้าจะว่างพอที่จะไปร่วมงาน แต่ผมก็ต้องเชิญพี่ที่ผมเคารพคนนึงของ SSS แต่พี่ก็ไป ทั้งๆที่ช่วงนั้น เป็นช่วงที่ประเทศเราก้าวเข้าสู่ความเสี่ยงในการ ปฎิวัต พี่ก็ยังไปอวยพรผมที่งาน ขอบคุณมาอีกครั้งครับ
อีกเรื่องหนึ่ง ที่ จนถึงบัดนี้ ทำให้ผมรู้ว่า พี่ไม่เคยลืมน้องคนนี้เลย
ในวันที่ กรุงเทพ ประสบภัยพิบัติ น้ำท่วม เมื่อปีที่แล้ว
ชื่อพี่เต้ย ปรากฎ ขึ้นบนจอ โทรศัพท์ มือถือผม ผมตกใจมาก เพราะหลังจากงาน แต่งงาน ผมแทบไม่ได้คุยกับพี่เลย ในใจตอนนั้นคือ คิดว่า ไม่รู้ว่าพี่มีอะไรกับผม หรือ ถ้าผมมีอะไรช่วยพี่ได้ ผมตั้งใจช่วยพี่เต็มที่
หลังจาก คำทักทาย สวัสดี ถามสารทุกข์ สุขดิบแล้ว
ทำให้ผม รู้ว่า สาเหตุที่พี่ เต้ย โทรหาผมนั้นคือ
" อัศครับ อัศ มีที่จอดรถหนี น้ำท่วมหรือยัง พอดีผมไปซื้อ ที่ที่ ฟิวเจอร์ปาร์ค บางแค ไว้ มีตึกจอดรถ แต่ห้างกำลัง ซ่อมแซม ถ้าไม่รู้จะจอดไว้ที่ไหน เอามาจอดได้เลย "
พี่เต้ย เป็นห่วง ว่าน้องคนนี้จะไม่มีที่จอดรถ หนีน้ำท่วม สำหรับพี่แล้ว ผมเป็นเด็กคนนึงเท่านั้น ที่ไม่นึกว่าวันนึง พี่จะโทรมาหาผม ด้วยความเป็นหวงเรื่องนี้ เพราะสำหรับพี่ ผมไม่ได้เป็นญาติ หรือคนที่พี่จะต้องนึกถึง จนต้องโทรมา
แต่พี่ก็โทรหาผม ทำให้ผมรู้ว่า พี่เต้ย ไม่เคยทอดทิ้งพวกเราไปเลย
จบบทสนธนา ผมวางสาย ด้วย คำขอบคุณ ไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง แต่ในใจ นั้นตื้นตัน และ ขอบคุณพี่ เป็นหมืนล้านคำ
เสียดายที่ผม เอารถไปจอดที่ Central บางนาเป็ที่เรียบร้อยแล้ว จึงปฎิเสธที่ และ ขอบคุณพี่เต้ยครับ
ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากเห็นพี่ กลับมาเป็นประธานให้พวกเราอีกซักสมัยครับ ................ แต่อีกใจ ก็ไม่อยากรบกวนเวลาพี่เลยครับ
และขอบคุณสำหรับ ช่วงเวลาที่พี่เป็น ประธาน SSS ของพวกเรา