หยุดการกักตัวเด็ก !
ประเทศไทย เปิดตัวการรณรงค์ระดับสากลเพื่อยุติการกักตัวเด็กในสถานกักตัวค นต่างด้าว
(กรุงเทพ, ประเทศไทย ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕) ในวันนี้เด็กกว่าหลายหมื่นคนยังถูกกักในสถานกักตัวคน
ต่างด้าว พวกเขาจำนวนมากต้องอยู่โดยลำพังไม่มีผู้ปกครอง ต้องไร้อิสรภาพ ด้วยสาเหตุเพียงเพราะไม่มี
เอกสารที่ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น เด็กส่วนใหญ่ถูกกักตัวหลังจากหนีจากการถูกทำร้าย ปัญหาความยากจนและ
ภัยสงคราม การกักตัวเด็ก ซึ่งเป็นวิธีที่รัฐบาลต่างๆ นำมาปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายนี้ได้ส่งผลกระทบต่อพัฒนา
การด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจของเด็กอย่างรุนแรง จึงสมควรยุติการกระทำดังกล่าว
ประเทศไทยเป็นภาคีของอนุสัญญาองค์การของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธ ิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ ซึ่งกำหนดให้การกัก
ตัวเด็กนั้นเป็น มาตรการสุดท้ายเท่านั้น และให้มีระยะเวลาที่สั้นที่สุดอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ประเทศ
ไทยยังคงกักตัวผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย และ ผู้อพยพซึ่งเป็นเด็ก ในสถานกักตัวคนต่างด้าว ด้วยสาเหตุเรื่องการจัดการ
คนเข้าเมือง เด็กเล็ก ผู้เยาว์ซึ่งไม่มีผู้ปกครอง ต้องเผชิญความยากลำบากถูกกักตัวร่วมกับผู้ต้องกักหญิง และผู้ป่วย
ในห้องกักที่แออัด และไม่ถูกสุขอนามัย จากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อสิ้นปีพ.ศ. ๒๕๕๔ มีเด็กถูก
กันตัวประมาณ ๙๐ คน
ในเดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. ๒๕๕๔ มีเหตุการณ์สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยในการ
แก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติผู้ลี้ภัยจำนวน ๙๔ คน และ ผู้ขอลี้ภัย ๒ คน ได้รับการประกันและปล่อยตัวจากสถานกักตัวคนต่างด้าว
โดยในจำนวนผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นเป็นเด็กประมาณ ๓๐ คน นอกจากนี้ ภาคประชาสังคมยังได้ดำเนินการ
ต่อจากโครงการนำร่องดังกล่าว ในการช่วยเหลือประกันตัวผู้ต้องกักเพิ่มเติม เป็น เด็ก ๒๑ คน และผู้ใหญ่๕๐
คน และในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้มีการประกันและปล่อยตัวเด็กไร้สัญชาติ๒ คน พร้อมครอบครัว
จากสถานกักตัวคนต่างด้าว คุณวีรวิชญ์เธียรชัยนันท์ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารมูลนิธ ิไทยเพื่อคนมี
ปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล (ทีซีอาร์) ซึ่งนับเป็นองค์กรไทยแห่งแรกและแห่งเดียวที่ทำงานในประเด็น
เรื่องผู้ลี้ภัย ได้กล่าวว่า เหตุการณ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการนำของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติภายใต้โครงการใหม่เพื่อต่อต้านการกักตัวเด็ก ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติยังได้ตั้งคณะ
ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการกักตัวเด็ก ซึ่งได้เชิญภาคประชาสังคมไทยเข้ามาร่วมงาน นับเป็นนิมิตหมายอันดี
เราควรผลักดันให้ประเทศไทยเพิ่มพันธกรณีมากขึ้น เช่น ลงนามเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย
สถานภาพผู้ลี้ภัย และคนไร้รัฐ การบัญญัติกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยของประเทศไทย
คุณเมธาพันธ์ สุนทรเดช ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย โครงการอไซลัมแอคเซสประเทศไทย ภายใต้
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา กล่าวว่า การประกันตัวเด็กเป็นเพียงแนวทางแก้ปัญหาในระยะสั้น
เราต้องมุ่งดำเนินการเพื่อไม่ให้มีการถูกจับกุมและกักตัวเด็กด้ วยข้อหาว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมือง
ในวันนี้ International Detention Coalition (ไอดีซี) ได้เปิดตัว การรณรงค์ระดับสากลเพื่อยุติการจองจำเด็ก
ในสถานกักกันตรวจคนเข้าเมืองในการประชุมครั้งที่๑๙ ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ณ
กรุงเจนีวา โดยไอดีซีเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งการรณรงค์ดังกล่าว และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวระดับโลกนี้
หน่วยงานด้านสิทธิผู้ลี้ภัยในประเทศไทย มูลนิธิไทยเพื่อคนมีปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล และ อไซลัมแอค
เซส ประเทศไทย ได้ร่วมกันเป็นศูนย์กลางระหว่างกลุ่มประชาสังคมต่างๆ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปฏิบัติต่อ
ผู้อพยพเด็กให้สมกับที่บุคคลเหล่านั้นเป็นเด็ก และหยุดการกักกันพวกเขา อิสรภาพของเด็กจะต้องได้รับการ
รักษาในฐานะสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
_________________________________________________
ในปีพ.ศ. ๒๕๔๙ กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มสิทธิผู้ลี้ภัยจากทั่วโลกได้รวมตัวกั น เพื่อเริ่มสำรวจประเด็นนี้
และสร้างแรงผลักดันในการรณรงค์ต่อต้านการกักกันเด็ก รวมทั้งประสานงานกับรัฐบาลต่างๆ เพื่อหาทาง
เลือกอื่นนอกเหนือจากการจองจำเด็กในสถานกักกันตรวจคนเข้าเมือง ปัจจุบันนี้บุคคลทั่วไป สามารถลงชื่อ
ร่วมยื่นคำร้องในระดับสากลเพื่อเรียกร้องให้หยุดการกักกันเด็กใ นสถานกักตัวคนต่างด้าวได้ โดยคำร้อง
ดังกล่าวจะถูกเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนภายในระยะเวลา ๑ ปี นอกจากนี้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี
สามารถบันทึกข้อความ ทางวีดีโอเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว และลงข้อความนั้นบนสถานีYouTube
Speak up Behind Bars
เด็กอายุ๖ ปีจากประเทศไทยกล่าวในข้อความบน YouTube ว่า
เด็กไม่ควรถูกกันกันเพียงเพราะว่าเขามาจากประเทศอื่นโดยไม่มีเอ กสาร เขาควรได้รับอิสระ มีครอบครัว
การศึกษาและ ได้รับบริการทางสุขภาพ (ท่านสามารถเข้าชมได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=2bbE8Uh_6hM) เด็กสามารถฝากส่งข้อความได้ที่
www.endchilddetention.org/speakup) หากได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณวีรวิชญ์เธียรชัยนันท์
ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร
มูลนิธิไทยเพื่อคนมีปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล ๑๔๙/๒๑๒ ชั้น ๒๕ อาคาร โมเดิร์นโฮม
ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ ๑๐๑๒๐
ประเทศไทย
โทรศัพท์: +๖๖(๐)๘ ๗๐๙๖ ๐๓๓๐
อีเมล์:
vtianchainan@thaiforrefugees.org