ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำติชมนะครับ มาต่อกันเลยดีกว่าครับ
ตอนที่ 2
ก็อย่างที่เกริ่นว่าตั้งแต่ปี 98 มาก็เสาะแสวงหา อิม มาเรื่อย ในยุคนั้นมันก็ต้อง GC ไอ้ผมก็ตามมาทุกเวอร์ชั่นละครับ แต่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เฉียดเลยจนกระทั่งปี 05 ก็เป็นเวลาประมาณ 7 ปีกันทีเดียว เหตุผลหลักๆ ของผมก็คล้ายกับแฟนรุ่นใหม่ๆ หลายท่านในเวลานี้แหละครับ ซึ่งผมเองเคยมานั่งลองเรียงเหตุผลในสมัยนั้นดู ไล่เรียงจากที่มีผลกระทบมากไปหาน้อย และแต่ละข้อที่เราผ่านหรือตกได้ดังนี้ครับ
1. ราคาสูงไป เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตอื่น ในแง่ของรูปโฉมและความสะดวกเรื่องศูนย์บริการ, อู่, อะไหล่ - ซึ่งเจ้า GC ในยุคนั้น ราคาก็คงไม่ต่างจากเหยี่ยวหรือหมูในยุคนี้หรอกครับ ดังนั้นผู้ที่จะครอบครองได้ ส่วนใหญ่นอกจากจะต้องมีกำลังทรัพย์แล้ว ก็คงจะต้องสนใจในสมรรถนะเป็นหลัก และควรต้องมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไก การบำรุงรักษา และรู้อาการรถบ้าง ส่วนความสวยงามนั้นอยู่ที่ความชอบส่วนตัว ข้อนี้ผมผ่านแน่ เพราะตอนนั้นผมทำงานบริษัทน้ำมัน อยู่หน่วยสนับสนุนการขายและตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่น มีหน้าที่เจรจาการค้าและช่วยลูกค้าตั้งศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยผมเป็นผู้จัดซื้อเครื่องมือ และใช้เครื่องมือส่วนใหญ่เป็นเกือบหมด ส่วนราคารถอาจพอปีนบันไดไปจ่ายไหว
2. เป็นรถส่วนตัว ที่นั่งได้คนเดียว (เพราะคนอื่นไม่อยากนั่งด้วย เนื่องจากนั่งไม่สบายและหนวกหู แม้กระทั่งสาวๆ ก็ตาม) ไอ้ข้อนี้แหละครับที่สำคัญกับผู้ที่มีแฟน หรือภรรยา ถ้ามีลูกด้วยกันก็ลืมได้เลย โดนภรรยาด่าก่อน ด้วยข้อหาเห็นแก่ตัว ไม่ห่วงใยสุขภาพของลูก ดังนั้น ผู้ที่จะครอบครองได้ หากไม่มีรถครอบครัวอีกคัน ก็ต้องหาภรรยา หรือ ว่าที่ ที่คอเดียวกัน (แล้วมันจะมีมั้ยละครับเนี่ย ขนาดเพื่อนผมเห็นภาพกิจกรรมของ SSS ที่ผมเปิดให้ดูด้วยความภาคภูมิใจในฐานะ แฟนซูบารุ มันยังแอบมีแดกว่า เฮ้ย ชมรมรถซิ่งอะไรวะ ไม่เห็นโดนเลย มีแต่ผู้ชาย คนสวยๆ หรือพริตตี้ก็ไม่มี อีกนิดเดียวจะเป็นชมรมเ..ย์ อยู่แล้ว (ดูมัน ...) - ไอ้ข้อนี้แหละครับที่ผมวนแก้ปัญหาอยู่นาน จนกว่าจะลงตัวก็หมดไปหลายปี
3. เป็นรถที่ถ้าหากใช้ในชีวิตประจำวัน จะดูประหลาดมาก โดยเฉพาะบางอาชีพของผู้ที่ทำงานประจำ บางคนบอกผมว่าดูเสียลุคไปเลย อาจเป็นเพราะความดิบของมัน ไม่ว่าจะรูปโฉม ที่ประโคมพอกทั้งสปอยเลอร์, สคูป, หาง, และเสียงคำราม ก็เพราะมันถูกออกแบบมาตามวัตถุประสงค์ของการแข่งขัน - ผมว่าไอ้ข้อนี้แหละที่เป็นอุปสรรคกับคนส่วนใหญ่ ไม่น้อยไปกว่าข้อ 2 และสำหรับผมแล้ว ข้อนี้มีผลกระทบอย่างรุนแรง ด้วยเหตุที่อาชีพของผมตั้งแต่จบมา คือการบริหารงานขายและการตลาด ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้น ความน่าเชื่อถือจะมีผลต่องานมาก อีกทั้งบริษัทฯ ส่วนใหญ่ที่ผมทำงาน ก็มักให้รถบริษัทฯ อยู่แล้ว อยู่ดีๆ จะทะลึ่งขับ อิม ไปหาลูกค้าก็ใช่ที่ หากซื้อมาขับเฉพาะวันศุกร์รับรองโดนคนที่บ้านด่าเช็ด ไอ้เราก็เลยต้องร้องเพลงรอจนจังหวะมันลงตัว โดยปัจจุบันก็งานอาชีพเดิมแหละครับ แต่เกี่ยวกับกีฬาและแฟชั่น ได้ค่าเสื่อมรถ ลุคต้องดูเป็นคนที่เข้าใจลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เช่น Gen X / Gen Y หน่อย ก็เลย ... เอาหละวะ ถ้ากรูไม่ซื้ออิมตอนนี้ก็คงต้องรอชาติหน้าแร้วว ....
ไว้มาต่อกันตอนหน้านะครับ ว่าไอ้เจ้า อิม ที่ผมไปจ่อมา 2 คัน แล้วพลาด จนมาถึงเจ้า ฮาโตริ นี่ ผมต้องทำการบ้านมากขนาดไหน จนกว่าจะได้เค้ามาครอบครอง นอนหลับฝันดีครับ ก่อนนอน ดูรูปเพลินๆ อีกสัก 2-3 รูปดีกว่าครับ