"ครับ^^ ขอถามเป็นข้อมูลหน่อยได้ไหมครับ ว่าtransporterกับcaravelle มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันยังไงอะครับ
ผมค่อนข้างเห็นcaravelleมากกว่าtransporter แล้วรู้สึกว่าเห็นtransporterน้อยกว่า ตู้แตงโม
แทบไม่เห็นtransporterเลยอะครับ"
ตามความคิดผมนะครับ
Transporter กับ Caravelle มันเป็นรถคนละสมัยกันแล้วอ่าครับ
Transporter รุ่นนี้ ที่บ้านซื้อมือ 1 ตอนปี 1990 ซึ่งตอนนั้นผมมีอายุ แค่ 3 ขวบเองครับ
ผมว่าเป็น รถคลาสสิกคาร์ นะครับ คงเป็นรุ่นสุดท้ายที่ ยังเป็น ทรงเก่าๆแบบนี้อยู่ ปี1990 และ ยังเป็นเครื่องคาบู วางท้าย ขับหลัง และก็พิเศษตรงที่เปลี่ยนเป็นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ คือมีหม้อน้ำด้านหน้าแล้ว ขอเสียคือท่อน้ำไกลมาก เกียร์ธรรมดา 4เกียร์ รุ่นท๊อป 5 เกียร์
ข้อดีของคันนี้ คือ เป็นรถที่กว้างมาก
นุ้มสบาย แอร์เย็น มีที่นั่ง(ด้านหลัง) 5 ที่นั่ง เบาะนั่งสบายมากในสมัยนั้น 2เบาะกลางจะเหมือนโซโฟ แต่ที่บ้านเอาเบาะออก 2 ตัว เอาไว้ใช้งานขนของครับ
ที่รุ่นนี้คนไม่ค่อยใช้เพราะในช่วงปีนั้นมีรถที่หน้าใช้กว่ารุ่นนี้และราคาถูกกว่า ศูนย์ซ่อมเยอะกว่า
ถ้าเป็น Transporter รุ่นที่ใหม่กว่านี้จะเป็นเหมือนรถครอบครัวไปแล้ว อเนกประสงค์ได้ มันจะเหมือนกับ TOYOTA - GRANVIA เกือบทุกอย่างเลย เครื่องหน้าขับหน้า
ถ้าเป็น Caravelle มันมีรุ่นแรกตอนปี 1992 ซึ่งในปีนั้นที่บ้านก็ซื้อครับ แต่เป็นมือ 2ครับ
ผมว่ามันเป็นรถตู้โดยสารครับ เพราะมันจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ายาวกว่าประมาณครึ่งเมตร มีที่นั่ง(ด้านหลัง) 9 ที่นั่ง นุ่ม เงียบมากๆ ขับสบาย เกียร์ออโต้ครับ เครื่องขับหน้า 5 สูบในรุ่นนั้นเป็นหัวฉีด
ผมว่ามันต่างประมาณนี้อ่าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ปล. อันนี้ผมเล่า เรื่องของเครื่องให้อ่านครับ เป็นข้อมูลเล่นๆครับ
Transporter 1990-1992
เครื่องนั้น จากวันที่ซื้อ จนถึงวันนี้ มันมีอายุ 22 ปีแล้ว คนคันนี้วางเครื่อง มา 4 ตัวแล้วครับ
เครื่องตัวแรกพังตอน 4 ปีให้หลัง ซึ้งเกิดจาก น้ำท่วม แล้วก็พังครับ หลังจากน้ำท่วมก็วางใหม่เลย(เบิกใหม่) หมดไปแสนกว่าบาท วางเป็นเครื่องเดิมจากศูนย์ (ศูนย์ไหนไม่รู้ครับ จำไม่ได้)
ตัวที่ 2 ใช้ไปอีก 7 -8 ปีได้ วิ่งส่งของ กรุงเทพ ชลบุรี อาทิตย์ละ 3วันอย่างต่ำ ระยะทางที่วิ่งของเครื่องตัวนี้ก็ปาไป แสนเกือบสองแสนโล ถึงเวลาที่มันจะรวนครับ ตอนนั้นใช้ 3วัน ซ่อม 4 วัน ซ่อมจนหมดเงินไปหลักแสน จนไม่ไหวแล้ว บริจากให้วัดไปเลยดีกว่า
แต่พอดีตอนนั้นผมก็โตแล้วอายุ ประมาณ 16 ได้แล้ว ผมไปฝึกงานที่อู่โพล์ค พอดี ไปรู้มาว่าวางเครื่อง ซูบารุได้ ก็เลย ลากมาลองวางดูครับ หมดไป40000ในตอนนั้น
เครื่องตัวที่ 3 ที่วางเป็น EJ22 ครับ วิ่งดีมาก ไม่มีปัญหาเลย คิดดูว่าวิ่งกิน D-Max ตัวแรกในสมัยนั้นได้อ่าครับ แอร์ใช้คอมของซูบารุ เย็นกว่าของรุ่นมันอีก ใช้มาได้6 ปีครับ และมาพังที่ผม ตอนนั้นผมอายุ 22 ได้ กำลังซนครับ เพราะ ถึงยุคที่ผมขับแล้ว มันเกิน ซัด(ลากรอบ)จนสายพานไทมิ่งขาด วาวกับลูกสูบ พบกัน กระจายเลยครับ
เครื่องตัวที่ 4 วางมาแพงเพราะโดนช่างฟันครับ 70000 โดนคลัชไป30000 ไม่รู้ว่าแพงอารายขนาดนั้น เป็น EJ25 ครับ ที่บ้านไม่ยอมวางตัวโบให้
จนถึงวันนี้ผมก็ขับอยู่ครับ สลับกับ อิม กินน้ำมันพอๆกันเลย
เป็นข้อมูลครับ ผมรักเสียงเครื่อง Boxer มาตั้งแต่เด็ก ครับ
ส่วนหัวแตงโมมันเก่ากว่ารุ่นผม ผมไม่รู้รายละเอียดเหมือนกันครับ รู้แต่ว่า มันเป็นเครื่องที่ระบายความร้อนด้วยน้ำมันอยู่ครับ
รู้สึกว่า ตู้แตงโมก็คือ Transporter โฉมแรกเลย อยู่ในช่วงปี 1968-1979