Siam Subaru Webboard
General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: b_zestup ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2013, 09:09:22 am
-
พอดีเอารถไปทำสี แล้วช่างที่อู่สีแกก้อคุยๆให้ฟังว่าเด๋วประมาณต้นเดือน มี.ค. จะทำเป็นศูนย์ที่รับติดตั้งกล่องแปลงให้กับรถ เพื่อที่จะให้รถทั่วๆไปมาเติม e85 ได้ เลยสอบถามแกดู แกบอกว่าใส่แค่กล่องตัวเดียว ไม่ได้ไปยุ่งกับ ecu เลย ผมก้อไปเปิดเวปหาข้อมูลดู ก้อถึงรู้ว่าจิงๆไอ้กล่องนี้มีมานานแล้ว มีคนรับติดตั้งด้วย ก้อเลยโทรไปถามเค้าดู เค้าบอกว่า รถทั่วๆไปก้อติดได้ ขอให้เป็นเครื่องหัวฉีดและเคยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์มาก่อน โดยที่เครื่องไม่สั่นและวิ่งปกติ ผมก้อถามเค้าอีกว่ามีรถพวกเทอร์โบมาติดมั้ย เค้าบอกว่ามี 2j เทอร์โบมาติดระบบนี้ ก้อวิ่งปกติดี เลยอยากสอบถามพี่ๆเพื่อนๆใน sss ว่าเคยได้ยินบ้างมั้ยคับ และมีใครเอารถไปติดมาบ้างรึยังคับ ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
-
ผมคนนึงที่ไม่เชื่อ...ผมว่ามันน้อยไป
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ ecu อย่างเดียว
มันมีเรื่องการกัดกร่อนด้วยครับ
ถ้าปั้มติ๊ก สายน้ำมัน หรืออื่นๆในระบบน้ำมันไม่รองรับ ก็รอวันพังครับ
-
ไม่นานนี้ก้อมี มาโฆษณา ห้องซื้อขาย อะไรๆ--- e85 เชียงใหม่ๆ ไม่รู้อันเดียวกันป่าว
ถ้า ไม่ ยุ่ง ecu แล้วจะคุมหัวฉีด ยังไง คุม ignition timing ยังไง
ถ้าเป็นกล่อง ไปหลอก แบบ กล่องดันราง กล่องยกหัวฉีด คงทำได้ (นั้นเค้ายังต้องไปหลอก ecu)
แล้วหัวฉีดพอมั๊ย เมืื่อ e85 stoic burn มากกว่า น้ำมัน gasoline 30%
ไม่ใช่หัวฉีด อย่างเดียว ราง ปัั๊มติ๊ก regulator ..... รองรับแล้วยัง
-
พอดีเอารถไปทำสี แล้วช่างที่อู่สีแกก้อคุยๆให้ฟังว่าเด๋วประมาณต้นเดือน มี.ค. จะทำเป็นศูนย์ที่รับติดตั้งกล่องแปลงให้กับรถ เพื่อที่จะให้รถทั่วๆไปมาเติม e85 ได้ เลยสอบถามแกดู แกบอกว่าใส่แค่กล่องตัวเดียว ไม่ได้ไปยุ่งกับ ecu เลย ผมก้อไปเปิดเวปหาข้อมูลดู ก้อถึงรู้ว่าจิงๆไอ้กล่องนี้มีมานานแล้ว มีคนรับติดตั้งด้วย ก้อเลยโทรไปถามเค้าดู เค้าบอกว่า รถทั่วๆไปก้อติดได้ ขอให้เป็นเครื่องหัวฉีดและเคยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์มาก่อน โดยที่เครื่องไม่สั่นและวิ่งปกติ ผมก้อถามเค้าอีกว่ามีรถพวกเทอร์โบมาติดมั้ย เค้าบอกว่ามี 2j เทอร์โบมาติดระบบนี้ ก้อวิ่งปกติดี เลยอยากสอบถามพี่ๆเพื่อนๆใน sss ว่าเคยได้ยินบ้างมั้ยคับ และมีใครเอารถไปติดมาบ้างรึยังคับ ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
ผมดูข้อมูลกล่องแบบนี้มานานละครับคุณบอย น่าจะราวๆ ปีครึ่งละ จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่ติดให้รถผมเลย :bbbear_40: :bbbear_40: :bbbear_40:
-
ผมก้อชั่งใจอยู่ระหว่างแก๊สกับกล่องตัวนี้คับ เพราะผมต้องใช้รถทุกวันคับ ถ้าให้เติมน้ำมันทุกวันก้อคงจุกเหมือนกัน :bbbear_10: :bbbear_10: ซึ่งทั้งสองอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง ตอนแรกใจผมก้อเลือกแก๊ส แต่ด้วยข่าวที่ออกมาว่าจะปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ เดือนละครั้ง เพื่อให้ราคาอิงกับตลาดโลกได้ ซึ่งราคาที่จะปรับขึ้น เค้าก้อประมาณกันไว้ว่าอยู่ที่ราวๆ 20 บาท บวกลบนิดหน่อย ซึ่งราคา e85 ตอนนี้ก้ออยู่ที่ 22 บาท ผมก้อเลยลังเลอยู่ระหว่างสองตัวนี้ว่าเอาตัวไหนดีคับ ซึ่งถ้าในอนาคตราคาแก๊สมันไปแตะเท่าที่ข่าวเค้าพูดมาจิงๆ การเติมน้ำมัน e85 กับติดแก๊ส ก้อคงไม่ต่างกันมาก แต่มันจะแตกต่างมากในแง่ของการใช้งาน และผลกระทบต่อเครื่องยนต์ว่าอันไหนมากสุด ผมก้อไม่รู้ในทั้งสองอย่าง เพราะไม่เคยใช้ซูบารุที่ติดแก๊ส และเติม e85 เลยคับ พี่ๆเพื่อนๆใน sss มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคับ ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
-
ผมก้อชั่งใจอยู่ระหว่างแก๊สกับกล่องตัวนี้คับ เพราะผมต้องใช้รถทุกวันคับ ถ้าให้เติมน้ำมันทุกวันก้อคงจุกเหมือนกัน :bbbear_10: :bbbear_10: ซึ่งทั้งสองอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง ตอนแรกใจผมก้อเลือกแก๊ส แต่ด้วยข่าวที่ออกมาว่าจะปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ เดือนละครั้ง เพื่อให้ราคาอิงกับตลาดโลกได้ ซึ่งราคาที่จะปรับขึ้น เค้าก้อประมาณกันไว้ว่าอยู่ที่ราวๆ 20 บาท บวกลบนิดหน่อย ซึ่งราคา e85 ตอนนี้ก้ออยู่ที่ 22 บาท ผมก้อเลยลังเลอยู่ระหว่างสองตัวนี้ว่าเอาตัวไหนดีคับ ซึ่งถ้าในอนาคตราคาแก๊สมันไปแตะเท่าที่ข่าวเค้าพูดมาจิงๆ การเติมน้ำมัน e85 กับติดแก๊ส ก้อคงไม่ต่างกันมาก แต่มันจะแตกต่างมากในแง่ของการใช้งาน และผลกระทบต่อเครื่องยนต์ว่าอันไหนมากสุด ผมก้อไม่รู้ในทั้งสองอย่าง เพราะไม่เคยใช้ซูบารุที่ติดแก๊ส และเติม e85 เลยคับ พี่ๆเพื่อนๆใน sss มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคับ ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
แก๊ส เป็นพลังงานที่สะอาด รักโลก แต่ที่ราคามันขึ้นเอาขึ้นเอา มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างในประเทศ(ไม่ขอพูด อยากทราบก็หลังไมค์ละกันครับ)
ส่วน E-85 เป็นการช่วยเกษตรกรในประเทศเป็ยอย่างดี เครื่องยนต์เย็นสบาย น่าจะเรียกว่า หายห่วงเรื่องความร้อนได้ไม่มากก็น้อย
ที่จริงผมก็จะติด E-Kit นะ แต่ว่าตอนนี้ผมอยู่จังหวัดที่ไม่มี E-85 ครับคุณบอย
-
แก๊ส เป็นพลังงานที่สะอาด รักโลก แต่ที่ราคามันขึ้นเอาขึ้นเอา มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างในประเทศ(ไม่ขอพูด อยากทราบก็หลังไมค์ละกันครับ)
ส่วน E-85 เป็นการช่วยเกษตรกรในประเทศเป็ยอย่างดี เครื่องยนต์เย็นสบาย น่าจะเรียกว่า หายห่วงเรื่องความร้อนได้ไม่มากก็น้อย
ที่จริงผมก็จะติด E-Kit นะ แต่ว่าตอนนี้ผมอยู่จังหวัดที่ไม่มี E-85 ครับคุณบอย
E-Kit นี่คือตัวไหนหรอคับ แบบเดียวกับกล่องแปลงรึเปล่าคับ เหมือนจะเคยผ่านๆตามาตอนอ่านในเวปพวกที่ใช้ e85 ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
-
E-Kit นี่คือตัวไหนหรอคับ แบบเดียวกับกล่องแปลงรึเปล่าคับ เหมือนจะเคยผ่านๆตามาตอนอ่านในเวปพวกที่ใช้ e85 ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
ใช่ครับคุณบอย พอดีผมเรียกสั้นๆแค่นั้นเองครับ :bbbear_27: :bbbear_27: :bbbear_27:
-
ผมเคยตั้งกระทู้ถามไว้นานแล้วอ่ะ และได้รับคำตอบหลายๆอย่างที่ไม่คุ้มไม่เสี่ยง
แต่ผมปรึกษาคนติดแล้วมันก็สามารถติดได้ แต่มันคือระบบแมนนวลนั่นแหละ คือถ้าวิ่งอืดก็ปรับเพิ่ม(ก็หลอกหัวฉีดให้มันยกช้าขึ้นนั่นแหละ)
แต่เครื่อง EJ ทำยากกว่าชาวบ้านหน่อยเพราะสูบมันอยู่คนละฝั่ง ต้องใช้สายไฟยาวขึ้นเขาว่างั้น
ทุกวันนี้ผมเลยเติม E20 กับหมูเทอร์โบ วิ่งอยู่ครับ ใครบอกไม่ดีๆๆๆ อย่างนู้นอย่างนี้ ดีที่สุดคือทดลองด้วยตัวเองครับ
ผมไม่ได้คิดว่ามันดีกว่า 95 นะ แต่มันก็ติดบูสต์ไวดี ไม่ต่างจาก 95 และราคาถูกกว่า 95 หลายบาท
แต่อัตราสิ้นเปลืองในเมืองอาจจะมากกว่า 95 แต่วิ่งทางไกลยาวๆ ไปต่างจังหวัดมันไม่หนีกันมาก
เครื่องผมแฟลชมาแล้ว และเติม E20 ไม่มีน๊อค ไม่เขก วิ่งดีปกติแบบที่มันเป็นอยู่(เผลอๆดีกว่า)
สุดท้าย ถ้าระบบอะไรต่างๆในเครื่องจะพัง ก็แล้วแต่บุญกรรมวาสนาก็แล้วกัน
จะใช้ไปจนกว่าอะไรที่เพื่อนๆกลัวกันจะพังนั่นแหละ จะดูว่าจาก 40,000 โล มันจะพังตอนไหน 5 5 5
-
ผมเคยตั้งกระทู้ถามไว้นานแล้วอ่ะ และได้รับคำตอบหลายๆอย่างที่ไม่คุ้มไม่เสี่ยง
แต่ผมปรึกษาคนติดแล้วมันก็สามารถติดได้ แต่มันคือระบบแมนนวลนั่นแหละ คือถ้าวิ่งอืดก็ปรับเพิ่ม(ก็หลอกหัวฉีดให้มันยกช้าขึ้นนั่นแหละ)
แต่เครื่อง EJ ทำยากกว่าชาวบ้านหน่อยเพราะสูบมันอยู่คนละฝั่ง ต้องใช้สายไฟยาวขึ้นเขาว่างั้น
ทุกวันนี้ผมเลยเติม E20 กับหมูเทอร์โบ วิ่งอยู่ครับ ใครบอกไม่ดีๆๆๆ อย่างนู้นอย่างนี้ ดีที่สุดคือทดลองด้วยตัวเองครับ
ผมไม่ได้คิดว่ามันดีกว่า 95 นะ แต่มันก็ติดบูสต์ไวดี ไม่ต่างจาก 95 และราคาถูกกว่า 95 หลายบาท
แต่อัตราสิ้นเปลืองในเมืองอาจจะมากกว่า 95 แต่วิ่งทางไกลยาวๆ ไปต่างจังหวัดมันไม่หนีกันมาก
เครื่องผมแฟลชมาแล้ว และเติม E20 ไม่มีน๊อค ไม่เขก วิ่งดีปกติแบบที่มันเป็นอยู่(เผลอๆดีกว่า)
สุดท้าย ถ้าระบบอะไรต่างๆในเครื่องจะพัง ก็แล้วแต่บุญกรรมวาสนาก็แล้วกัน
จะใช้ไปจนกว่าอะไรที่เพื่อนๆกลัวกันจะพังนั่นแหละ จะดูว่าจาก 40,000 โล มันจะพังตอนไหน 5 5 5
ใช่คับผม ที่ผมดูมาระบบมันก้อจะมีปุ่มปรับ ถ้าใช้ e20 ก้อปรับมาในระดับนึง ถ้าใช้ e85 ก้อปรับมามากหน่อย เกือบสุดอะคับ ถ้าสุดก้อจะสำหรับ e100
อัตราสิ้นเปลืองเห็นคนที่เค้าใช้เค้าก้อคำนวณให้ดูนะคับว่าอัตราสิ้นเปลืองพวกแก๊สโซฮอลล์จะมากกว่าเบนซินธรรมดาอย่างที่พี่บอก แต่ถ้าวิ่งทางยาวๆ
แก๊สโซฮอลล์ก้อจะคุ้มกว่าคับ ของผมไม่รู้แฟลชได้รึเปล่า เพราะเป็นเครื่องคอขาวอินเตอร์เฉียง เค้าก้อบอกว่าให้ลองเติมแก๊สโซฮอล์ดู จะ 95 หรือ 91 ก้อได้
ถ้าเกิดเครื่องไม่สั่นหรือไม่มีปัญหาอะไรก้อติดของเค้าได้คับ ผมก้อไม่รู้จะลองดีรึเปล่า เพราะเครื่องมันเก่าเหลือเกิน กลัวมันจะน๊อคกลางอากาศคับ 555 ขอบคุนคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
-
ถ้าเป็น GC อย่างน้อย เปลี่ยนสายน้ำมันทน e85 ไว้หน่อยก็ดี...ลำพังมันก็คงเปื่อยกรอบตามอายูอยู่แล้วครับ
เจอ e85 เข้าไปอาจจะสละชีพเร็วกว่ากำหนดนะครับ อุปกรณ์รอบๆอีก...พวก GD ทั้งหลายอาจยังพอไถๆได้อยู่
แต่อย่างที่บอก น้ำมัน น่ะครับไม่ใช้ น้ำเปล่า มันรั่วขึ้นมาล่ะมีแต่ไฟครับ :bbbear_39:
เพิ่มอีกนิดแต่ชัวย์ขึ้น มันก็คุ้มนะครับผม
ด้วยความเป็นห่วง อย่างจริงใจครับ
-
อยากประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิง สำหรับรถที่"แดกดุ" อย่างอิมเครื่องอินเตอร์เฉียง
lpg เหมาะที่สุด หาเติมง่าย ไม่เขก(มีแต่หนา555) แถมจูนได้น้องๆกล่องพ่วง
ส่วนลอยราคา อีกนานนนนนน กว่าจะลอยมาเท่าE85 ติดก่อนประหยัดก่อน
ตอนนี่ขับในเมืองlpgกินเท่าน้ำมัน คือ6โล/ลิตร
e85 กินจุกว่า95 แล้วจะกินน้ำมันเท่าไหร่ :bbbear_10:
-
ตอบเรื่องสายน้ำมันรั่ว สำหรับรถเก่า ส่วนที่รั่วก่อนเพื่อนคือ โอลิงลูกลอย จะไปก่อนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกัน
จะมีกลิ่นน้ำมันเข้ามาในห้องโดยสาร ยังไงจุดนี้ควรแก้ไขไม่งั้นเมาเบนซินแน่ๆ ส่วนสายน้ำมันต่างๆ ควรเปลี่ยนเป็นที่ทน E85
นอกจากนั้นควรเปลี่ยนกรองเบนซิน ประกอบกันด้วยเพื่อความชัวส์ ส่วนที่เป็นสายน้ำมันที่เป็นยางนี่ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะท่อที่เดินมาเข้าเรกกูเรเตอร์จริงๆ
เป็นอลูมีเนียมซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เป็นยางจริงๆ จิ๊ดเดียวครับ
ส่วนมีพี่ๆบอกว่า หัวฉีดตันเพราะเติมแก๊สโซฮอล์ อันนี้ผมยังงงๆ ปนสับสนว่า ถ้าหัวฉีดจะตันจริง ทำไมมันไม่ตันที่กรองเบนซินก่อน???
และถ้าตัน ตันด้วยเหตุผลอะไร เช่น เศษท่อยางน้ำมันก่อนเข้าหัวฉีด มันละลายมาอุด หรืออะไรแบบนี้
เราจะได้รู้ทันและแก้ไขได้ถูกต้องด้วยเช่นกันครับ
ลองดูครับ พลังงานทางเลือกง่ะนะ คือมันต้องเลือก 555
-
ก๊อปมาให้อ่านกันครับ
SOURCE: http://www.facebook.com/VsrPerformancePbMotor เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาและสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางคนอยากจะเติมใช้แต่ก็กลัวว่า จะมีปัญหาตามมาเพราะคิดว่ารถที่ใช้อยู่ไม่ได้ทำมารองรับ วันนี้เลยจะขอสรุปข้อมูลตามประสบการณ์และเท่าที่ได้ค้นคว้ามานะครับ E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วยเหมือนกัน (ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าการกัดกร่อนนี้เป็นยังไงและผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหานี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารตะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัดกร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้นานๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสมเอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็นเหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเองแน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเรื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่องคาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเคลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรงงานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว
ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับเหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากการกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางกรอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่านั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคราะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีรอยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)
มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผสมน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า
เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกรองตันหรือเปล่า?
- อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่วนเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรือสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลายออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเบนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้วก็น่าจะหมดปัญหา
เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
- ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องตกใจครับ แค่ถ่ายออก (อย่าถ่ายทิ้งนะครับ เอามาให้ที่ PB Motor ใช้ก็ได้ ) แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผสมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่นอน
เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่า?
- จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเกือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้มากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ
E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า?
- จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริมาณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างชัดเจน
ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะใช้ E85 นะครับ
- รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอยู่
- ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการสมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื่อความประหยัด
- อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
- ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
- ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปรับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone
-
ก๊อปมาให้อ่านกันครับ
SOURCE: http://www.facebook.com/VsrPerformancePbMotor เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาและสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางคนอยากจะเติมใช้แต่ก็กลัวว่า จะมีปัญหาตามมาเพราะคิดว่ารถที่ใช้อยู่ไม่ได้ทำมารองรับ วันนี้เลยจะขอสรุปข้อมูลตามประสบการณ์และเท่าที่ได้ค้นคว้ามานะครับ E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วยเหมือนกัน (ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าการกัดกร่อนนี้เป็นยังไงและผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหานี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารตะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัดกร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้นานๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสมเอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็นเหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเองแน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเรื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่องคาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเคลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรงงานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว
ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับเหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากการกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางกรอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่านั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคราะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีรอยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)
มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผสมน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า
เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกรองตันหรือเปล่า?
- อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่วนเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรือสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลายออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเบนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้วก็น่าจะหมดปัญหา
เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
- ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องตกใจครับ แค่ถ่ายออก (อย่าถ่ายทิ้งนะครับ เอามาให้ที่ PB Motor ใช้ก็ได้ ) แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผสมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่นอน
เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่า?
- จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเกือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้มากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ
E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า?
- จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริมาณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างชัดเจน
ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะใช้ E85 นะครับ
- รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอยู่
- ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการสมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื่อความประหยัด
- อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
- ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
- ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปรับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone
ชัดเจนมากคับพี่ :bbbear_34: :bbbear_34:
-
มิน่าเวลาเติม E20 เวลาติดบูสต์มันเลยวิ่งดีกว่า G95 อาจจะได้แอลกอฮอล์เพิ่มมันเลยวิ่งแบบเมามันส์ น้ำมันลดฮวบๆ
-
มิน่าเวลาเติม E20 เวลาติดบูสต์มันเลยวิ่งดีกว่า G95 อาจจะได้แอลกอฮอล์เพิ่มมันเลยวิ่งแบบเมามันส์ น้ำมันลดฮวบๆ
ออคเทนมันเยอะกว่าด้วย ecuเลยปรับไฟแรงกว่าเดิมครับ
-
ออคเทนมันเยอะกว่าด้วย ecuเลยปรับไฟแรงกว่าเดิมครับ
ทีแรกนึกว่ารถมันเมาแอลกอฮอล์ซะอีก อิอิ
-
ทีแรกนึกว่ารถมันเมาแอลกอฮอล์ซะอีก อิอิ
อันนั้นน่าจะเปนเจ้าของรถ ตอนมาวๆแป๊ปเดียวถึงที่หมาย555
-
ผมใช้E85 เป็นเชื้อเพลิงหลักของรถอยู่ครับ
รถผมใช้งานได้จริงๆ สิ่งที่จำเป็นจริงๆมีแค่หัวฉีด กับตัวคุมการจ่ายน้ำมันหรือECU
นั่นแหละครับมีเท่านั้นเองครับ ประเด็นหลักใช้ได้หรือใช้ไม่ได้คือ คุณต้องทำให้
น้ำมันมันจ่ายได้มากขึ้น30% เท่านี้ก็ใช้E85 ได้ แต่ผมไม่ได้บอกนะครับว่ามันจะดีที่สุด
เพราะ? ประโยชน์หลักๆของการใช้E85 ถ้าพูดถึงในเรื่องของความแรงนั้น มันมาจากการที่
เราสามารถที่จะAdvance องศาไฟขึ้นไปได้มากโข แน่นอนรถกำลังมากขึ้นกระฉับกระเฉงมากๆ
ขึ้น เรื่องของการเขกนั้นตัดทิ้งไปได้เลยถ้าใช้E85 เพราะมันจะไม่เขก แต่เมื่อคุณจูนองศาไฟ
ไปถึงoptimum point แล้ว การปรับไฟให้แก่ขึ้น มันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว แต่ไม่เขกนะครับ
แต่กำลังมันก็จะไม่เพิ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นเครื่องจะสึกหรอเร็วขึ้น พวกbearing ต่างๆ เรื่อง
รายละเอียดผมไม่ขออธิบายเพราะมันจะยาวไปถึงการทำงานของเครื่องยนต์ องศาไฟอ่อน แก่
ทำไมยังไง มันเกินจากข้อมูลE85 ไป คราวนี้ รถเดิมที่ต้องการใช้E85 ถ้าเป็นรถเดิมๆ มักจะ
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหัวฉีดมันmaxed out เพราะโดยมาก รถเดิมๆมันมีเพดานของหัวฉีดให้ในระดับหนึ่ง
คราวนี้อย่างรถผมเอง ตอนที่ใช้น้ำมันธรรมดา หัวฉีด440cc มันก็แทบจะทำงานเต็มที่อยู่แล้ว พอไปใช้
E85 แล้วlog file ดู ว่ามันจะต้องทำงานที่กี่% เพื่อให้ คงค่าAFR ให้ได้เท่าเดิม ปรากฎว่ามัน
ทำงานทะลุไป115-120% ซึ่งอนาคตต้องเปลี่ยนหัวฉีด แต่ข้อดีของE85 อีกอย่างคือ มันมีช่วง
ยืดหยุ่นมากกว่าE10 คือ ถ้าหนาก็หนาได้เยอะ ถ้าบางก็บางได้เยอะ เลยทำให้ผมยังคงใช้กับหัวฉีด
ขนาด440CC อยู่ ให้ดีมันต้องขยับไป650-700cc โน่นหละครับ รถผมเองไม่ได้ใช้กล่องconversion
kits แต่มันเป็นกล่องStandalone อยู่แล้ว ที่ผมออกตัวตั้งแต่บรรทัดแรกๆคือ มันไม่ได้ขึ้นอยู่
กับกล่องว่ากล่องอะไร มันขึ้นอยู่กับตัวengine management ถ้าคุณสามารเข้าไปเพิ่มน้ำมัน
ในระบบอีก30-33% ได้ โดยที่หัวฉีดคุณจ่ายพอ(หากขาดเหลือนิดหน่อยใส่regulator บาร์มากขึ้นช่วยได้ครับ)
คุณก็ใช้น้ำมันE85 ได้ ส่วนเรื่องสายน้ำมัน สายติดรถพวกนี้มันเป็น ส่วนผสมAramidวัสดุที่ทำเสื้อเกราะกันกระสุน
อยู่แล้วมันทนได้ครับ ทั้งสายนอกถัง และสายในถัง(Submersible Fuel hose) ของผมสายในถังอายุ17ปีก็ยัง
ใช้ได้อยู่ครับ แต่มีสายเกรดR10 submersible ของGates เตรียมรอเอาไว้แล้วครับ ส่วนสายนอกถัง ไปหา
สายน้ำมันของนอกที่ใช้กับbio fuel มาใช้ได้ ส่วนสายR7-R9 ยี่ห้อภาษาอังกฤษสามตัวของบ้านเราอย่าไปใช้ครับห่วย
หรือหาพวกที่เป็นใส้เทฟล่อน ก็ใช้ได้ครับ นอกนั้นไม่มีอะไรเลยครับ ของผมนี่ใช้งานจริงๆจากรถผมเองเลย บูสต์
2บาร์ ใส้เดิม กดแช่ซัดไป200กว่าๆ กับน้ำมันE85 ไม่มีเขกสักแอะ องศาไฟโดดขึ้นไปอีก 5-10องศาเลยครับ เอาเป็นว่า พอใส่E85
ไม่ต้องอุปทานไปเองเลยว่ารถแรงขึ้น เพราะเตะองศาไฟไปขนาดนั้น มันชัดเจนอยู่แล้วครับ ไม่ลองไม่รู้นะครับแต่รถมันจะกินน้ำมันมากขึ้นนะครับ
ของผมเองใช้E85 หลักๆเรื่องแก้น๊อค เรื่องความแรงครับ เรื่องความประหยัดเรื่องแรงครับ
-
ผมใช้E85 เป็นเชื้อเพลิงหลักของรถอยู่ครับ
รถผมใช้งานได้จริงๆ สิ่งที่จำเป็นจริงๆมีแค่หัวฉีด กับตัวคุมการจ่ายน้ำมันหรือECU
นั่นแหละครับมีเท่านั้นเองครับ ประเด็นหลักใช้ได้หรือใช้ไม่ได้คือ คุณต้องทำให้
น้ำมันมันจ่ายได้มากขึ้น30% เท่านี้ก็ใช้E85 ได้ แต่ผมไม่ได้บอกนะครับว่ามันจะดีที่สุด
เพราะ? ประโยชน์หลักๆของการใช้E85 ถ้าพูดถึงในเรื่องของความแรงนั้น มันมาจากการที่
เราสามารถที่จะAdvance องศาไฟขึ้นไปได้มากโข แน่นอนรถกำลังมากขึ้นกระฉับกระเฉงมากๆ
ขึ้น เรื่องของการเขกนั้นตัดทิ้งไปได้เลยถ้าใช้E85 เพราะมันจะไม่เขก แต่เมื่อคุณจูนองศาไฟ
ไปถึงoptimum point แล้ว การปรับไฟให้แก่ขึ้น มันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว แต่ไม่เขกนะครับ
แต่กำลังมันก็จะไม่เพิ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นเครื่องจะสึกหรอเร็วขึ้น พวกbearing ต่างๆ เรื่อง
รายละเอียดผมไม่ขออธิบายเพราะมันจะยาวไปถึงการทำงานของเครื่องยนต์ องศาไฟอ่อน แก่
ทำไมยังไง มันเกินจากข้อมูลE85 ไป คราวนี้ รถเดิมที่ต้องการใช้E85 ถ้าเป็นรถเดิมๆ มักจะ
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหัวฉีดมันmaxed out เพราะโดยมาก รถเดิมๆมันมีเพดานของหัวฉีดให้ในระดับหนึ่ง
คราวนี้อย่างรถผมเอง ตอนที่ใช้น้ำมันธรรมดา หัวฉีด440cc มันก็แทบจะทำงานเต็มที่อยู่แล้ว พอไปใช้
E85 แล้วlog file ดู ว่ามันจะต้องทำงานที่กี่% เพื่อให้ คงค่าAFR ให้ได้เท่าเดิม ปรากฎว่ามัน
ทำงานทะลุไป115-120% ซึ่งอนาคตต้องเปลี่ยนหัวฉีด แต่ข้อดีของE85 อีกอย่างคือ มันมีช่วง
ยืดหยุ่นมากกว่าE10 คือ ถ้าหนาก็หนาได้เยอะ ถ้าบางก็บางได้เยอะ เลยทำให้ผมยังคงใช้กับหัวฉีด
ขนาด440CC อยู่ ให้ดีมันต้องขยับไป650-700cc โน่นหละครับ รถผมเองไม่ได้ใช้กล่องconversion
kits แต่มันเป็นกล่องStandalone อยู่แล้ว ที่ผมออกตัวตั้งแต่บรรทัดแรกๆคือ มันไม่ได้ขึ้นอยู่
กับกล่องว่ากล่องอะไร มันขึ้นอยู่กับตัวengine management ถ้าคุณสามารเข้าไปเพิ่มน้ำมัน
ในระบบอีก30-33% ได้ โดยที่หัวฉีดคุณจ่ายพอ(หากขาดเหลือนิดหน่อยใส่regulator บาร์มากขึ้นช่วยได้ครับ)
คุณก็ใช้น้ำมันE85 ได้ ส่วนเรื่องสายน้ำมัน สายติดรถพวกนี้มันเป็น ส่วนผสมAramidวัสดุที่ทำเสื้อเกราะกันกระสุน
อยู่แล้วมันทนได้ครับ ทั้งสายนอกถัง และสายในถัง(Submersible Fuel hose) ของผมสายในถังอายุ17ปีก็ยัง
ใช้ได้อยู่ครับ แต่มีสายเกรดR10 submersible ของGates เตรียมรอเอาไว้แล้วครับ ส่วนสายนอกถัง ไปหา
สายน้ำมันของนอกที่ใช้กับbio fuel มาใช้ได้ ส่วนสายR7-R9 ยี่ห้อภาษาอังกฤษสามตัวของบ้านเราอย่าไปใช้ครับห่วย
หรือหาพวกที่เป็นใส้เทฟล่อน ก็ใช้ได้ครับ นอกนั้นไม่มีอะไรเลยครับ ของผมนี่ใช้งานจริงๆจากรถผมเองเลย บูสต์
2บาร์ ใส้เดิม กดแช่ซัดไป200กว่าๆ กับน้ำมันE85 ไม่มีเขกสักแอะ องศาไฟโดดขึ้นไปอีก 5-10องศาเลยครับ เอาเป็นว่า พอใส่E85
ไม่ต้องอุปทานไปเองเลยว่ารถแรงขึ้น เพราะเตะองศาไฟไปขนาดนั้น มันชัดเจนอยู่แล้วครับ ไม่ลองไม่รู้นะครับแต่รถมันจะกินน้ำมันมากขึ้นนะครับ
ของผมเองใช้E85 หลักๆเรื่องแก้น๊อค เรื่องความแรงครับ เรื่องความประหยัดเรื่องแรงครับ
รบกวนหน่อยคับ อยากทราบว่าพวกสายน้ำมันที่ทน e85 ได้เนี่ย เปลี่ยนใส่ซูราคาจะอยู่ประมาณเท่าไหร่เหรอคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
-
ค้นข้อมูลมาล่าสุด จังหวัดที่ผมอยู่ มีปั้มE-85 มาลงละ
มาแชร์ข้อมูลกันต่อครับ :bbbear_16: :bbbear_16: :bbbear_16:
-
รบกวนหน่อยคับ อยากทราบว่าพวกสายน้ำมันที่ทน e85 ได้เนี่ย เปลี่ยนใส่ซูราคาจะอยู่ประมาณเท่าไหร่เหรอคับ :bbbear_19: :bbbear_19:
ผมใช้E85 เป็นเชื้อเพลิงหลักของรถอยู่ครับ
รถผมใช้งานได้จริงๆ สิ่งที่จำเป็นจริงๆมีแค่หัวฉีด กับตัวคุมการจ่ายน้ำมันหรือECU
นั่นแหละครับมีเท่านั้นเองครับ ประเด็นหลักใช้ได้หรือใช้ไม่ได้คือ คุณต้องทำให้
น้ำมันมันจ่ายได้มากขึ้น30% เท่านี้ก็ใช้E85 ได้ แต่ผมไม่ได้บอกนะครับว่ามันจะดีที่สุด
เพราะ? ประโยชน์หลักๆของการใช้E85 ถ้าพูดถึงในเรื่องของความแรงนั้น มันมาจากการที่
เราสามารถที่จะAdvance องศาไฟขึ้นไปได้มากโข แน่นอนรถกำลังมากขึ้นกระฉับกระเฉงมากๆ
ขึ้น เรื่องของการเขกนั้นตัดทิ้งไปได้เลยถ้าใช้E85 เพราะมันจะไม่เขก แต่เมื่อคุณจูนองศาไฟ
ไปถึงoptimum point แล้ว การปรับไฟให้แก่ขึ้น มันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว แต่ไม่เขกนะครับ
แต่กำลังมันก็จะไม่เพิ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นเครื่องจะสึกหรอเร็วขึ้น พวกbearing ต่างๆ เรื่อง
รายละเอียดผมไม่ขออธิบายเพราะมันจะยาวไปถึงการทำงานของเครื่องยนต์ องศาไฟอ่อน แก่
ทำไมยังไง มันเกินจากข้อมูลE85 ไป คราวนี้ รถเดิมที่ต้องการใช้E85 ถ้าเป็นรถเดิมๆ มักจะ
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหัวฉีดมันmaxed out เพราะโดยมาก รถเดิมๆมันมีเพดานของหัวฉีดให้ในระดับหนึ่ง
คราวนี้อย่างรถผมเอง ตอนที่ใช้น้ำมันธรรมดา หัวฉีด440cc มันก็แทบจะทำงานเต็มที่อยู่แล้ว พอไปใช้
E85 แล้วlog file ดู ว่ามันจะต้องทำงานที่กี่% เพื่อให้ คงค่าAFR ให้ได้เท่าเดิม ปรากฎว่ามัน
ทำงานทะลุไป115-120% ซึ่งอนาคตต้องเปลี่ยนหัวฉีด แต่ข้อดีของE85 อีกอย่างคือ มันมีช่วง
ยืดหยุ่นมากกว่าE10 คือ ถ้าหนาก็หนาได้เยอะ ถ้าบางก็บางได้เยอะ เลยทำให้ผมยังคงใช้กับหัวฉีด
ขนาด440CC อยู่ ให้ดีมันต้องขยับไป650-700cc โน่นหละครับ รถผมเองไม่ได้ใช้กล่องconversion
kits แต่มันเป็นกล่องStandalone อยู่แล้ว ที่ผมออกตัวตั้งแต่บรรทัดแรกๆคือ มันไม่ได้ขึ้นอยู่
กับกล่องว่ากล่องอะไร มันขึ้นอยู่กับตัวengine management ถ้าคุณสามารเข้าไปเพิ่มน้ำมัน
ในระบบอีก30-33% ได้ โดยที่หัวฉีดคุณจ่ายพอ(หากขาดเหลือนิดหน่อยใส่regulator บาร์มากขึ้นช่วยได้ครับ)
คุณก็ใช้น้ำมันE85 ได้ ส่วนเรื่องสายน้ำมัน สายติดรถพวกนี้มันเป็น ส่วนผสมAramidวัสดุที่ทำเสื้อเกราะกันกระสุน
อยู่แล้วมันทนได้ครับ ทั้งสายนอกถัง และสายในถัง(Submersible Fuel hose) ของผมสายในถังอายุ17ปีก็ยัง
ใช้ได้อยู่ครับ แต่มีสายเกรดR10 submersible ของGates เตรียมรอเอาไว้แล้วครับ ส่วนสายนอกถัง ไปหา
สายน้ำมันของนอกที่ใช้กับbio fuel มาใช้ได้ ส่วนสายR7-R9 ยี่ห้อภาษาอังกฤษสามตัวของบ้านเราอย่าไปใช้ครับห่วย
หรือหาพวกที่เป็นใส้เทฟล่อน ก็ใช้ได้ครับ นอกนั้นไม่มีอะไรเลยครับ ของผมนี่ใช้งานจริงๆจากรถผมเองเลย บูสต์
2บาร์ ใส้เดิม กดแช่ซัดไป200กว่าๆ กับน้ำมันE85 ไม่มีเขกสักแอะ องศาไฟโดดขึ้นไปอีก 5-10องศาเลยครับ เอาเป็นว่า พอใส่E85
ไม่ต้องอุปทานไปเองเลยว่ารถแรงขึ้น เพราะเตะองศาไฟไปขนาดนั้น มันชัดเจนอยู่แล้วครับ ไม่ลองไม่รู้นะครับแต่รถมันจะกินน้ำมันมากขึ้นนะครับ
ของผมเองใช้E85 หลักๆเรื่องแก้น๊อค เรื่องความแรงครับ เรื่องความประหยัดเรื่องแรงครับ
CHAI SU GRB TIDTUNG E85 KLONG KUABKUM JAI NUMMUN E85 SAMART TRUADSOB CHECK KLONG ECU 82% TUNG BOOST 1.3 KG/CM HUACHEED 850CC INJECTOR DYNAMIC ECU SAMONG SUNGKARN DAI
PORPAITERM BLUE GASOHOL E85 TEE PUMP PTT THUK KWA 20-21 baht mun luekaeng KOD KUN RENG 200 SUD SUD LOEI YANG STAND ALONE PAI SA ENGINE MANAGEMENT RABOB TUMNGAN TONG PRUB KAH OPTIMUM PRUB KA E85 NENG KWAM RANG PRUB TAENG HUACHEED E85 KOR AOYOO SAI REGULATOR KUNLUNG DEENOI NA JA DEE KUEN SAI NUM MUN KONG NOK YANG GATES KOR HA MA DAI CHEN KUN
LONG MAIROO WA KINNUMMUN MAK KUEN PEN RUEN KWAM PRAYUD TAO NUN AENG