ผู้เขียน หัวข้อ: SMART คาด Q4/64 โตรับคลายล็อก LTV-มาตรการกระตุ้นศก.  (อ่าน 490 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • *
  • กระทู้: 929
  • Popular Vote : 0
SMART คาด Q4/64 โตรับคลายล็อก LTV-มาตรการกระตุ้นศก.มั่นใจทั้งปีโตกว่า 5%

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐประกาศมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โครงการเมกะโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่ภาครัฐที่เคยชะลอตัวจะกลับมาเร่งทำการก่อสร้าง อีกทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมบำรุง ที่พักอาศัย อาคาร โรงแรม ร้านอาหาร ผลักดันให้ความต้องการใช้งานวัสดุก่อสร้างอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น


"บริษัทยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียประเภทการตกแต่งและนวัตกรรมชั้นนำ อีกทั้งผลักดันสินค้าอิฐมวลเบาขนาดจัมโบ้เพื่องานโครงสร้าง ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุน ทำให้งานก่อสร้างเสร็จรวดเร็ว และ สินค้าอิฐมวลเบาเพื่องานตกแต่งภายใน-ภายนอก โดยมีกระแสตอบรับที่ดี เตรียมขยายกำลังการผลิตอิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่ม 50% เพื่อรองรับปริมาณคำสั่งซื้อและการเติบโตในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรและพร้อมเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังในช่วงไตรมาส 4/64 ผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 5%" นายรังสี กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 338.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 310.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.50%

ส่วนไตรมาส 3/64 มีรายได้รวม 103.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 97.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6.82 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.04 ล้านบาท ลดลง 2.22 ล้านบาท หรือลดลง 24.55% สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขายอิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ปิดแคมป์ก่อสร้าง ส่งผลให้ต้นทุนพลังงาน และราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากงานโครงการภาคเอกชน อาทิ โครงการที่พักอาศัย แนวราบ-แนวสูง โรงแรม ร้านอาหาร ที่เร่งปรับปรุง ซ่อมแซม เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และ งานโครงการภาครัฐ อาทิ อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล โครงการรถไฟฟ้า กลับมาดำเนินการก่อสร้างเพื่อให้ทันตามกำหนดระยะเวลาส่งมอบตามแผนงาน