ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.35 แข็งค่าต่อเนื่อง จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ  (อ่าน 387 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.35 แข็งค่าต่อเนื่อง จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ-รายงานประชุมเฟด-สถานการณ์ยูเครน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไร ประกอบกับมีปัจจัยหนุนจากการส่งออก ทองคำ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30 - 32.45 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางตลาดโลกและแรงส่งออกทองคำ ทำให้วันนี้ลงไปทำนิวโลว์ในรอบ 5 เดือน" นักบริหารเงิน
กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพฤหัสบดีไว้ที่ 32.25 - 32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ตัว เลขเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ และวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศยอดค้าปลีกของสหรัฐ และ รายงานการประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.61 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 115.37 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1338 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1313 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,701.45 จุด เพิ่มขึ้น 16.76 จุด, +0.99% มูลค่าการซื้อขาย 91,607.43 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,940.27 ล้านบาท (SET+MAI)
ครม.เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท จากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตราลิตรละ 5.99 บาท
โดยจะปรับลดลงประมาณ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่กฏกระทรวงมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 20 พ.ค.65 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
ผ่านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ลดลงโดยตรง รวมถึงส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงไปด้วย
ครม.เห็นชอบมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 65-66 จะเน้น
การสร้างแรงจูงใจให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างกว้างขวางโดยเร็ว ครอบคลุมทั้งการนำเข้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
สำเร็จรูปทั้งคัน ส่วนในปี 67-68 จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสคาดการณ์ว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล
พร้อมกับเตือนว่า หากรัสเซียตัดสินใจบุกโจมตียูเครน ก็อาจกดดันให้มูดี้ส์ต้องปรับลดอันดับความน่าเชื่อของทั้งสองประเทศ
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ชาติ (G7) ประกาศเตือนว่า รัสเซียจะเผชิญกับการคว่ำบาตร
ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลและในทันที หากรัสเซียบุกโจมตียูเครน
ธนาคารกลางจีน (PBOC) เพิ่มการสนับสนุนเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวด้วยการอัดฉีดเงินสดผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ย
ต่ำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งหนุนให้ดัชนีหุ้นจีนพุ่งขึ้น แซงหน้าตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาค
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย Natixis Investment Managers ระบุว่า ผู้บริหารด้านการลงทุนราว 68% ในสหรัฐ ไม่แนะ
นำให้นักลงทุนรายย่อยถือครองสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีในพอร์ตการลงทุน