ผู้เขียน หัวข้อ: SPALI เป้าปี 65 ยอดขาย 2.8 หมื่นลบ.-รายได้ 2.9 หมื่นลบ.หลังปี 64 ทุบสถิติ  (อ่าน 313 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • *
  • กระทู้: 817
  • Popular Vote : 0
SPALI เป้าปี 65 ยอดขาย 2.8 หมื่นลบ.-รายได้ 2.9 หมื่นลบ.หลังปี 64 ทุบสถิติ

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 28,000 ล้านบาท และรายได้ 29,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 31 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท

พร้อมรุกเปิดตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมด้วยทำเลศักยภาพ อาทิ ฉะเชิงเทรา ลำพูน นครสวรรค์ นครปฐม และ ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาคสำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบที่ยังมีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากยังเป็นกลุ่ม Real Demand ที่มีความต้องการของที่อยู่อาศัยสูง และมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตของบริษัท

จากความสำเร็จของปี 64 ที่ได้กล่าวมานั้นเป็นแรงผลักดันอันสำคัญให้บริษัทฯ มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ตามหลักธรรมภิบาลและเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์พร้อมการให้บริการลูกค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย และขอขอบพระคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมสนับสนุนบริษัทฯ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ Supalai New High New Record ที่สุดใน 3 ทศวรรษนี้

นายไตรเตชะ กล่าวว่า ในปี 64 ถือเป็นปีที่ท้าทายเป็นอย่างมากในการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ธุรกิจที่วางไว้ว่า ก้าวไปข้างหน้า..เติบโตอย่างผู้นำ และยั่งยืน ทั้งด้านรายได้และกำไร โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 27,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 28,000 ล้านบาท ซึ่งผลงานที่ปรากฏออกมานั้นสามารถสร้างสถิติครั้งใหม่ New High ตั้งแต่เปิดบริษัท เติบโตทางด้านรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งยอดขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จากแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 23 โครงการใหม่ ที่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทุกพื้นที่

บริษัทสามารถสร้างผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 66% หรือ 7,070 ล้านบาท รวมถึงรายได้รวมเติบโตแบบก้าวกระโดดสูงสุดเช่นกัน 29,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เกินเป้าหมายที่วางไว้ 28,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ 28,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากปี 2563 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ 51% และอาคารชุด 49%

อีกทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 11,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% และกำไร 2,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% สวนกระแสอย่างก้าวกระโดดสูงสุด เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาจากยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด และโครงการแนวราบที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ขณะเดียวกันเพื่อรักษาเสถียรภาพทาง การเงิน (Cash Flow Management) ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 43% ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 ลดลงจากระดับ 55% ณ วันที่ 31 ธ.ค.63