ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร นลท.จับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครน  (อ่าน 371 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร นลท.จับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (8 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ 99.0640

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0909 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0858 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3105 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3103 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7276 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7328 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.73 เยน จากระดับ 115.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9291 ฟรังก์ จากระดับ 0.9261 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2888 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2806 ดอลลาร์แคนาดา

นักลงทุนยังคงจับตาการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งผลกระทบจากการที่นานาประเทศประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้การใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยล่าสุดประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัสเซียไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐพุ่งขึ้น 9.4% สู่ระดับ 8.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.71 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.20 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.

ส่วนการนำเข้าในเดือนม.ค.พิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 3.141 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกลดลง 1.7% สู่ระดับ 2.244 แสนล้านดอลลาร์