ผู้เขียน หัวข้อ: ลาซาด้าเอาใจนักทำคอนเทนต์ จัดแคมเปญ Camera Super Sales  (อ่าน 385 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • *
  • กระทู้: 861
  • Popular Vote : 0
ลาซาด้าเอาใจนักทำคอนเทนต์ จัดแคมเปญ Camera Super Sales จะสแนปรูปทริปไหนก็มีตัวช่วยไปด้วยทุกที่

เชื่อว่าเปิดปีใหม่มาในเดือนแรก หลาย ๆ คนคงมีแพลนไปเที่ยวในปี 2022 ยาวเป็นหางว่าวกันแล้ว แต่การไปเที่ยวในแต่ละครั้งก็ต้องอยากเก็บโมเมนต์ไว้กลับมาดูเสมือนเป็นไดอารี่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น วิวทิวทัศน์ ธรรมชาติตามสองข้างทาง หรือจะสแนปเพื่อนร่วมทริปเป็นคอลเลคชันเก็บไว้ดูต่างหน้าเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ดีไปอีกแบบ แต่การจะให้ทริป ๆ หนึ่งเกิดขึ้นทั้งทีคงต้องมีหลายปัจจัยที่นักเดินทางจะต้องวางแพลนดี ๆ ทั้งเรื่องสถานที่, ค่าใช้จ่าย, เพื่อนร่วมเดินทาง รวมไปถึงการเลือกกล้องมาเก็บ Candid shots ให้ทริปนั้น ๆ เป็นที่น่าจดจำไปอีกนานเลยทีเดียว ไล่มาตั้งแต่กล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพคมชัด รวมไปถึงเลนส์ประเภทต่าง ๆ หรือจะเป็นกล้องวินเทจที่กลับมาฮิตเป็นที่สุดในยุคนี้อย่างกล้องฟิล์มก็ตอบโจทย์ รวมไปถึงกล้องโพลารอยด์ที่ได้รูปแบบเรียลไทม์สุด ๆ ใครกำลังจัดทริปออกนอกเมืองไปรับพลังธรรมชาติ หรือจะ One day trip รอบกรุงแบบเว้นระยะห่างรีบเตรียมตัวไว้ได้เลย!

ลาซาด้าขอเป็นตัวแทนสายทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น Travel blogger , Influencers, สาย Cafe hopping หรือ Travelers สายเริ่มต้นเล่นกล้องมือสมัครเล่น มาแชร์ทริกสั้น ๆ กับ 5 สเต็ปในการออกทริป รวมไปถึงการเลือกกล้องให้เหมาะกับกิจกรรม ที่จะทำให้ทริปท่องเที่ยวในฝัน กลายเป็นทริปสุดปัง ได้ทั้งโมเมนต์ดี ๆ แถมคอนเทนต์โดน ๆ มาอวดเพื่อนในโซเชียลกันอีกเพียบ จะมีทริกอะไรบ้างตามไปดูกันเลย!

1. เริ่มแรก! เลือกสถานที่ หรือ Locations ในใจที่อยากไป

จะจัดทริปทั้งที ควรเลือกจุดหมายปลายทางให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล สำหรับใครที่อยากจะไปเก็บภาพวิวธรรมชาติ ช่วง Golden Hour เวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ควรจะเลือกไปภูเขา หรืออุทยานแห่งชาติต่าง ๆ หรือใครอยากจะไปพักผ่อนทำคอนเทนต์ เพื่อความบันเทิงลงสตอรี่ หรือ ทำ Reels ในโซเชียลมีเดีย ควรเลือกสถานที่ที่คนไม่แออัดมาก เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้างในช่วงนี้เช่นกัน เช่น Outdoor Cafe หรือ สวนดอกไม้น่ารัก ๆ ก็ตอบโจทย์

2. กำหนดค่าใช้จ่าย หรือวางแพลนคร่าวๆ

เรียกได้ว่าขั้นตอนนี้ ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญเลยทีเดียว เพราะจะช่วยกำหนดค่าใช้จ่ายและแพลนการเดินทางได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร หากบริหารดี ๆ ได้ราคาประหยัดก็อาจจะใช้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการชวนเพื่อนมาร่วมทริปได้คนมาช่วยหารค่าใช้จ่ายอีกด้วย เพราะค่าใช้จ่ายในการออกทริปก็ถือเป็นเรื่องสำคัญในการตัดสินใจ พอถึงทริปจริงก็อาจจะตั้งค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ได้ตกลงกันไว้ พอจบทริปก็นำค่าใช้จ่ายส่วนต่างมาหักแบ่งกัน ไม่มีหมกเม็ด

3. เริ่ม Survey ชวนผู้ร่วมทริปฟอร์มเป็นแกงค์

การชวนเพื่อนร่วมเดินทาง ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในลำดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้ร่วมทริปและสถานที่ท่องเที่ยวต้องมีความสัมพันธ์กัน เช่น บางคนอาจจะเป็นสายชิลรักธรรมชาติ การออกทริปแบบตั้งแคมป์ก็ตอบโจทย์ หรือสำหรับบางคนชอบทะเล ใช้ชีวิตสโลวไลฟ์ ถ้าได้เอนหลังบนเตียงผ้าใบกับหนังสือซักเล่มก็ฟินแล้ว เพราะถ้าสถานที่และกิจกรรมที่แพลนไว้ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์กับผู้ร่วมทริป การไปเที่ยวอาจจะไม่ใช่โมเมนต์ที่น่าจดจำเท่าไหร่ มากไปกว่านั้นการแชร์ค่าใช้จ่ายที่คำนวนไว้คร่าว ๆ ก็ยังช่วยประกอบการตัดสินใจให้เพื่อนร่วมทริปรีบ Say YES! อีกด้วย

4. วางแพลนกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงจัดเตรียมของใช้หรือเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสถานที่

เรียกได้ว่าการวางแผนการเดินทาง จะต้องใช้ความละเอียดและทำการบ้านเพิ่มเติมในการรีเสิร์ชหาข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ เช่นเวลาเปิดและปิดของร้านอาหาร cafe หรือจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว รวมถึงการเช็คสภาพอากาศในช่วงเวลาที่เราจะเดินทาง สำหรับเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ให้แมทช์กัน แต่สำหรับสายทำคอนเทนต์ตัวยงแนะนำให้เลือกเสื้อผ้าตรงตามโทนของสถานที่ เช่น ทุ่งดอกไม้ อาจจะเลือกเป็นแนวโทนสีพาสเทล อีกหนึ่งอย่างที่ควรเตรียมไว้คือยาสามัญประจำบ้านเอาไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉินด้วยเช่นกัน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เมารถ หรือ ยาแก้ปวดท้อง เป็นต้น และสำคัญที่ต้องไม่ลืมสำหรับการเที่ยวในยุคโควิด หน้ากากอนามัย และสเปรย์แอลกอฮอลล์ ที่ควรพกไว้ให้อุ่นใจ

5. แพคของเตรียมตัวเดินทางพร้อม Check lists ไอเทมที่ต้องพกไปด้วย สำหรับนักทำคอนเทนต์

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายหลังจาก วางแพลนชวนเพื่อนร่วมทริปและกำหนด Budget กันแล้ว อย่าลืมไอเทมในการเก็บโมเมนต์อย่างกล้อง หรือเลนส์ขนาดต่าง ๆ รวมไปถึงเมมโมรี่การ์ด สายชาร์จ ขาตั้งกล้อง ฯลฯ ที่ใช้สำหรับเก็บภาพด้วย ไหน ๆ จะออก ทริปทั้งทีมารู้จักประเภทของกล้องกันคร่าว ๆ สำหรับการเลือกใช้ให้ถูกต้องกัน!

กล้องดิจิทัล หรือ DSLR: เป็นกล้องสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพตัวยง ที่มีโหมดออโต้และระบบแมนนวลในการตั้งค่าต่าง ๆ ได้เอง เพื่อช่วยให้ภาพโฟกัสได้เร็วขึ้น และแม่นยำ รวมไปถึงสามารถเปลี่ยนเลนส์ให้เหมาะสมกับสถานที่ได้ เช่น เลนส์ Wide ที่ใช้ในการถ่ายภาพมุมกว้าง เช่น วิว ภูเขา และตึกสูงในเมือง และเลนส์ที่ช่วยถ่ายภาพในระยะไกลที่เราต่างคุ้นหูกันในชื่อ เลนส์ Tele สายเล่นกล้องคนไหนมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายภาพ วิวต่าง ๆ แนะนำกล้องดิจิทัลติดไปทุกทริป รับรองหยิบกล้องมารัวชัตเตอร์ไม่ยั้งแน่นอน
กล้องฟิล์ม: ถัดมากับกล้องฟิล์มที่มีวิวัฒนาการการใช้มาตั้งแต่ในอดีตกว่า 100 ปี แล้ว ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยกล้องดิจิทัลที่เราทุกคนต่างคุ้นชินกัน โดยเสน่ห์ของกล้องฟิล์ม คือการกดชัตเตอร์ถ่ายลงฟิล์มม้วนแล้วค่อยนำไปล้างตามร้านต่าง ๆ ซึ่งจะต่างจากกล้องดิจิทัลที่ไม่เราสามารถกดย้อนกลับมาดูรูปที่ถ่ายไปแล้วได้ ให้ความรู้สึกลุ้น ๆ กับรูปที่จะออกมาไปอีกแบบ ใครมีแพลนจะออกทริปแต่ไม่อยากพกกล้องหนัก ๆ กล้องฟิล์มหนึ่งตัวก็ตอบโจทย์อยู่ คลาสสิคสุด ๆ ได้คอนเทนต์ไว้โพสทั้งปี
กล้อง Mirrorless: เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของกล้องดิจิทัล ที่มีน้ำหนักเล็กและเบากว่าหลายเท่าตัว พกพาสะดวก สำหรับสาย Cafe Hopping ที่ต้องการรูปที่คมชัดแถมส่งรูปผ่าน Wifi ได้อีกด้วย หากไม่อยากพกกล้องดิจิทัลตัวใหญ่ ๆ แนะนำกล้อง Mirrorless เลย แต่แอบแนะนำให้พกแบตเตอรี่สำรองไว้เผื่อให้อุ่นใจ จะได้ไม่พลาดชอตสำคัญ
กล้อง Compact: สำหรับใครที่ไม่ชอบความซับซ้อนในการตั้งค่าโหมดของกล้องต่าง ๆ แนะนำเป็นกล้องคอมแพคที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รูปภาพที่มีคุณภาพชัดมากกว่าโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ถึงขนาดชัดเท่ากล้องดิจิทัล ติดตัวไว้เก็บภาพความทรงจำระหว่างทริปก็ปังอยู่นะ
กล้องโพลารอยด์: สุดท้ายสำหรับกล้องที่สามารถผลิตรูปมาทำคอนเทนต์ได้แบบเรียลไทม์สุด ๆ คงหนีไม่พ้น กล้องโพลารอยด์ เพราะเพียงแค่ตั้งค่าโหมดที่จะถ่ายได้ง่าย ๆ พอกดชัตเตอร์แล้วรอรูปออกมา สามารถนำมาโพสผ่านโซเชียลมีเดียกันได้เลย แอบกระซิบเดี๋ยวนี้ฟิล์มโพลารอยด์มีหลากสไตล์ให้เลือกแบบจัดเต็ม
เรียกได้ว่าจะจัดทริปเที่ยวไหน ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ถ้ารักในการทำคอนเทนต์หรืออยากเก็บโมเมนต์ดี ๆ ไว้เป็นไดอารี่ความทรงจำ ลาซาด้าจัดมาให้แล้วในแคมเปญ Camera Super Sales พร้อมส่งดีลจัดหนักกับสินค้าลดสูงสุดกว่า 80% ยังไม่พอแค่นี้! ยังมีคูปองลดเพิ่มสูงสุดถึง 1,500 บาท มาให้สายเล่นกล้องและขาช้อปได้ช้อปแบบจุใจตลอดแคมเปญ ระหว่างวันที่ 20 -22 มกราคม 2565 นี้ ใครมีแพลนจะไปทริปช่วงต้นปีมาจัดกล้อง stand by ไว้ให้พร้อม