ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Foreign Listing เพื่อเพิ่มโอกาส  (อ่าน 347 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Foreign Listing เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยของบริษัทต่างประเทศ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Foreign Listing เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยของบริษัทต่างประเทศ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียน (Foreign Listing) โดยปรับลดระยะเวลาการมีที่ปรึกษาทางการเงินหลังเข้าจดทะเบียนให้เทียบเท่าหลักเกณฑ์การรับหุ้นบริษัทไทย พร้อมปรับลดระยะเวลาการห้ามขายหุ้น (Silent Period) เพื่อส่งเสริมบริษัทต่างประเทศให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย และเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้ผู้ลงทุน หลังผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. แล้ว โดยจะมีผลใช้บังคับ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียน (Foreign Listing) เพื่อส่งเสริมให้บริษัทต่างประเทศเข้าระดมทุนผ่านการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้สะดวกขึ้น โดยปรับลดระยะเวลาการมีที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor: FA) ดูแลบริษัทหลังเข้าจดทะเบียน จาก 3 ปี เป็น 1 ปี เพื่อให้เทียบเท่าหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนของบริษัทไทย และยังสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. ด้วย อีกทั้งลดระยะเวลาการห้ามขายหุ้น (Silent Period) ของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) จาก 3 ปี เป็น 1 ปี 6 เดือน โดยเมื่อครบ 1 ปีแล้ว จะสามารถขายหุ้นที่ถูกห้ามขายได้ 20% และจะสามารถขายหุ้นที่ถูกห้ามขายส่วนที่เหลือได้เมื่อครบ 1 ปี 6 เดือน

"การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้นับเป็นการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ระยะ 3 ปี (2565-2567) ด้านการเชื่อมโยงโอกาสทุกภาคส่วน มุ่งการเป็นแหล่งระดมทุนของภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการมีหุ้นของบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในไทย นอกจากจะเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดหุ้นไทยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่จะสามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศผ่านตลาดหุ้นไทย โดยเข้าถึงข้อมูลของหุ้นต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับหุ้นไทย" นายภากรกล่าวเสริม