ผู้เขียน หัวข้อ: BEC คาดรายได้ปี 65 โตขึ้นหลังละคร-รายการข่าว-วาไรตี้  (อ่าน 341 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
BEC คาดรายได้ปี 65 โตขึ้นหลังละคร-รายการข่าว-วาไรตี้หนุนโฆษณาเพิ่ม,ออกหุ้นกู้

นายพิริยดิส ชูพุ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและการบัญชี บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 65 ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปี 64 ได้ค่อนข้างดี จากการที่บริษัทจะมีการผลักดันคอนเทนต์ละครใหม่ออกกาศมากขึ้น หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อการล็อกดาวน์ ทำให้ละครกลับมาถ่ายทำได้ ซึ่งการนำละครใหม่ๆมาออกอากาศในช่อง 3HD จะเป็นตัวช่วยในการดึงเรตติ้งให้กับช่อง 3HD และส่งผลต่อการลงโฆษณา ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันอัตราการใช้โฆษณาเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับปัจจุบันที่ 74% โดยที่เรตติ้งของช่อง 3HD ยังคงเป็นอันดับ 1 ทั้งช่วงไพร์มไทม์ และนอนไพร์มไทม์

ส่วนละครในช่วงเวลาหลังจากละครที่ออกอากาศช่วงดึกในเวลา 23.00-24.00 น. บริษัทได้เน้นการขยายกลุ่มผู้ชมที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น จากการออกอากาศละครใหม่ที่เป็นเรื่องราวที่กลุ่มวัยรุ่นมีความชื่นชอบ และเป็นกลุ่มนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งจะเป็นการช่วยขยายฐานกลุ่มผู้ชมให้กว้างขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการชมคอนเทนต์ละครของฐานผู้ชมช่อง 3HD ที่เป็นกลุ่มคนอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในเมืองและรอบเมือง

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการเพิ่มช่วงเวลาของรายการข่าวในวันหยุดสุดสัปดาห์มากขึ้น หลังจากที่คนยุคปัจจุบันมีความสนใจติดตามข่าวสารมากขึ้น และรายการข่าวของช่อง 3HD มีความเข้มแข็ง และมีฐานผู้ชมที่เหนียวแน่นมากขึ้น หลังจากที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กลับมาทำหน้าที่พิธีกรข่าวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ชมเข้ามาได้มาก และยังมีช่วงเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยังมีความเหมาะสมในการที่จะนำรายการข่าวมาเพิ่มเติมได้ ทำให้ช่อง 3HD สามารถใช้ช่วงเวลาของช่องได้อย่างคุ้มค่า และสร้างรายได้เข้ามาได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้บริษัทยังมีการนำคอนเทนต์รายการวาไรตี้ใหม่ๆเข้ามาเสริมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งสร้างความหลากหลายให้กับคอนเทนต์วาไรตี้ในช่วง 3HD มากขึ้น เช่น รายการ FACE 2 FACE THAILAND และรายการ SEXY MAMA เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังมีการเตรียมฉายภาพยนตร์ที่เป็นการร่วมทุนสร้างกับบมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) โดยดึงนักแสดงแม่เหล็กที่ได้รับความนิยมมอย่างมากเข้ามาเป็นจุดขาย ซึ่งอยู่ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง บัวผันฟันยับ ที่มีแอน ทองประสม และกลัฟ คณาวุฒิ แสดงนำ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาหนุนรายได้ให้กับบริษัท

อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าในการนำคอนเทนต์ละครไปขายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีการขายให้กับประเทศกัมพูชา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน และเกาหลีใต้ ในส่วนของแพลตฟอร์ม OTT ของบริษัท คือ 3+ ยังมีฐานสมาชิกที่รับชมในระดับที่บริษัทพอใจ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ที่ 3.6 ล้านบัญชี ในปัจจุบัน และสามารถสร้างรายได้เข้ามาจากค่าโฆษณา และรายได้จากการจ่ายค่าสมาชิก 3+ Premium

ส่วนแผนการออกหุ้นกู้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีการออกหุ้นกู้วงเงิน 3 พันล้านบาท ในช่วงเดือนพ.ค. 65 โดยจะเป็นการนำเงินที่ออกหุ้นกู้มาใช้ทดแทนหุ้นชุดเดิมที่ครบกำหนดจำนวน 2 พันล้านบาท และชำระคืนให้กับผู้ถือหุ้นกู้สำหรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดจำนวน 1 พันล้านบาท ซึ่งการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ช่วยให้บริษัทสามาถควบคุมต้นทุนทางการเงินในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง