ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.47 แข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 32.40-32.60  (อ่าน 402 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • *
  • กระทู้: 1,097
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.47 แข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 32.40-32.60 ตลาดจับตาปัจจัยใน-ตปท.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.47 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าไปค่อนข้างแรงตามดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวอ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ จีนเริ่มจะมีการผ่อนคลายนโยบาย Zero Covid ขณะที่ปัจจัยเรื่องรัสเซีย-ยูเครน วันนี้จะเริ่มมีการเปิดเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งตลาดเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น sentiment เริ่มดี

อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพราะจำนวนผู้ป่วยใหม่ราย วันยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง รวมทั้งจับตา flow จากต่างชาติที่ยังมีเข้าไทย หลังจากที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มจะมีสัญญาณฟื้นตัว

"ตอนนี้ต้องดู flow จากต่างชาติที่จะเข้ามา เพราะตอนนี้ภาคท่องเที่ยวของเราเริ่มจะฟื้นตัว ซึ่งเมื่อมี flow จากต่าง ประเทศเข้ามา แนวโน้มเงินบาทก็ยังจะแข็งค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

คืนนี้ ติดตามการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ และดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบัน จัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40 - 32.60 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.43418% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.54034%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.58 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 115.21 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1099 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1072 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.671 บาท/ดอลลาร์
"เอ็กซิมแบงก์" ชี้ SWIFT รัสเซียไม่กระทบไทย เตือนผู้ส่งออกไทยบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศจากผล
กระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน แนะการปรับวิธีการชำระเงินค่าสินค้าหลังค่าเงินรัสเซียรูด 30%
รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับสภาหอการ
ค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก
สมาคมธนาคารไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย โดยเห็นตรงกันว่า ขณะนี้การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปที่เป็นข้อยุติ การประเมินผลกระทบที่มีต่อ
ภาวะการค้าการส่งออกและนำเข้าของไทย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบทางตรง เนื่องจากรัสเซียเป็นตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนการตลาดแค่
0.38% ของไทย และตลาดยูเครน 0.04% ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก
ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า สถานการณ์สงครามรัส
เซีย-ยูเครน อาจส่งผลให้นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนในยุโรปลง และหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์ดังกล่าวน้อยกว่าขณะเดียวกันมีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงิน หรือ fund flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยด้วย เพราะประเทศไทยน่าจะมี
โอกาส outperform หรือดีขึ้นได้มากกว่า ทั้งเศรษฐกิจและตลาดหุ้น โดยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นสูง
ถึง 100,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 10,000-20,000 ล้านบาท
"สนค." ลุ้นระทึกราคาน้ำมันโลกพุ่งกระฉูด ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสมองหามาตรการรับมือ ก่อนเงินเฟ้อปีนี้ขยับขึ้น
เพราะจะเกิดผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ประชาชน และภาคธุรกิจเสนอ 3 แนวทางเข้ามาบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.
พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
ประธานเฟด ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนาย
พาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม
วันที่ 15-16 มี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (2
มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์ยูเครน รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของ
สหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจาก
ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดตลาด
นักลงทุนยังรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะ
เศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ (3 มี.ค.) โดยการแถลงจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลา
สหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน
กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้มีการพิจารณาทบทวนสิทธิของรัสเซียในการเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
(UNSC)
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง