ผมอ่านแล้วนะครับจาก Link นี้
http://www.efficient-mileage.com/engine-coolant.htmlฝรั่งเค้าเล่าถึงวิธีแก้ไขเวลาหม้อน้ำแห้งครับ ผมจะสรุปให้ฟังนะครับ ว่าควรไม่ควร และเลือกปฏิบัติเอานะครับหากน้ำในหม้อน้ำแห้ง ไม่ควรขับรถต่อ ต้อง cool down 2 ชม. และอย่าเปิด cap pressure ทันที สรุปตั้งแต่ต้นต้องใช้เวลาครึ่งวันเลยครับจากบทความทั้งหมด จอด 2 เติมไล่ลม 2 ฯลฯ
Do NOT ever use hose water, or tap water, or drinking water, or mineral water!
ไม่ควรใช้น้ำดื่ม น้ำแร่ และน้ำใดๆอื่นUse ONLY distilled water in the cooling system
ใช้น้ำกลั่นเท่านั้นเติมในระบบ ที่ถัง Radiator capMinerals in the cooling system corrode the aluminum in the engine head and radiator
ถ้าคุณเดิมน้ำเข้าไประบบหล่อเย็นคุณจะกลายเป็นสนิมครับ เพราะน้ำทำปฏิกิริยาความร้อนกับ อลูฯเป็นสนิมI recommend changing the coolant every 15,000 miles
ผมเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นทุกๆ 15,000 ไมล์ หรือ 26,430 กิโลOld acidic coolant destroys the aluminum in the radiator and engine head.
น้ำยาหล่อเย็นเก่าจะทำลายอลูมิเนียมภายใน radiator และ engine headAfter changing the coolant the cooling fan will run for shorter periods of time
หลังจากเปลี่ยน coolant แล้ว พัดลมจะหมุนสันลง ยืดอายุการใช้งานไปได้อีกครับUse the type coolant that the car manufacturer recommends! Chryslers use green stuff, GM uses orange stuff, and some Euro cars use blue stuff. Dont ever mix it up!
ให้ใช้ coolant ตามที่รถพวกเราชาว SUBARU เน้นมาอย่าได้เอาอะไรผสมเด็ดขาดZerex is a Valvoline product that I use and recommend. Mix the antifreeze and distilled water in a ratio that's appropriate for the season and climate. This should be outlined on the back of the antifreeze container or the car's service manual
ข้อความนี้เป็นข้อความเห็นส่วนตัวของฝรั่งคนนี้นะครับ เค้าผสมป้องกันน้ำแข็งตัว(สำหรับเมืองหนาว กับน้ำกลั่น ) Trick นี้ในยุโรปต้องใช้ครับ ตอนผมอยู่นอเวย์ เค้ามีน้ำcoolant ที่สำเร็จรูปที่มีส่วนผสมถูกต้องแบบนี้ขายครับ สำหรับต่างประเทศ(ยุโรป อเมริกา -ประเทศไทย น้ำกลั่นไว้ใช้ล้างหม้อน้ำเท่านั้นครับ)