ข้อมูลและรีวิว Forester SJ 2013

[FozMedic]

คุณMedic1669 review ได้ดีครับตามอ่านอยู่ครับ

ขอบคุณครับ... เดี๋ยวเสาร์อาทิตย์นี้ว่าจะ review เครื่องยนต์ และสมรรถนะ เป็นรายการต่อไป

[aof_impz]

Turbo โลดครับ อัตราเร่งมันอาจสู้เกียร์ธรรมดาไม่ได้ครับแต่ก็ไม่ขี้เหร่ครับ ถ้าไม่Turbo ต้องทำใจเรื่องอัตราเร่งครับ (เหมือน XV)
โดยลักษณะตัวเครื่องก็ต่างครับ เครื่องTurbo เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่ฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาใหม้โดยตรง (ประหยัดน้ำมันขึ้น + อัตราเร่งที่ดีขึ้นกว่า Forester ตัวเก่า)
ในความคิดผมผมว่ารถมันดึงดีก็ต่อเมื่อวิ่งเกิน 80กม/ชม ดึงยาวไปถึง 160 ครับ

 

ขอบคุณมากครับใจเริ่มเอียงไปทาง xt แล้วครับ แต่มีคำถาม เรื่องช่วงล่างคือไปลอง 2.0 มาชอบฟีลลิ่งความนุ่มนวลของมันมาก แต่ตัว xt นี่จะแข๊งกว่ามากเปล่าครับอยากได้แบบนุ่มๆ
เครื่องเสียง harman นี่คุณภาพเป็นไงบ้างครับ

[mr_oui]

ขอบคุณมากครับใจเริ่มเอียงไปทาง xt แล้วครับ แต่มีคำถาม เรื่องช่วงล่างคือไปลอง 2.0 มาชอบฟีลลิ่งความนุ่มนวลของมันมาก แต่ตัว xt นี่จะแข๊งกว่ามากเปล่าครับอยากได้แบบนุ่มๆ
เครื่องเสียง harman นี่คุณภาพเป็นไงบ้างครับ

ผมว่าช่วงล่างตัว XT กับ ตัวธรรมดาไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าแข็งกว่าไม่เกิน 5-10% ครับ แต่ถ้าเทียบกับหมูคอแดงนี่นิ่มกว่าเยอะครับ

ส่วนเครื่องเสียงนี่แล้วแต่คนชอบครับ ผมว่ามันก็ดีกว่าติดรถเดิมๆแบบสังเกตได้ชัดครับ เสียงครบ ละเอียด ใส แต่ในความคิดส่วนตัวถ้ามันนุ่มกว่านี้จะperfect มาก

[FozMedic]

ผมว่าช่วงล่างตัว XT กับ ตัวธรรมดาไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าแข็งกว่าไม่เกิน 5-10% ครับ แต่ถ้าเทียบกับหมูคอแดงนี่นิ่มกว่าเยอะครับ

ส่วนเครื่องเสียงนี่แล้วแต่คนชอบครับ ผมว่ามันก็ดีกว่าติดรถเดิมๆแบบสังเกตได้ชัดครับ เสียงครบ ละเอียด ใส แต่ในความคิดส่วนตัวถ้ามันนุ่มกว่านี้จะperfect มาก

 

[aof_impz]

ผมว่าช่วงล่างตัว XT กับ ตัวธรรมดาไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าแข็งกว่าไม่เกิน 5-10% ครับ แต่ถ้าเทียบกับหมูคอแดงนี่นิ่มกว่าเยอะครับ

ส่วนเครื่องเสียงนี่แล้วแต่คนชอบครับ ผมว่ามันก็ดีกว่าติดรถเดิมๆแบบสังเกตได้ชัดครับ เสียงครบ ละเอียด ใส แต่ในความคิดส่วนตัวถ้ามันนุ่มกว่านี้จะperfect มาก

นุ่มนี่หมายถึงเครื่องเสียงหรือช่วงล่างครับ

[mr_oui]

นุ่มนี่หมายถึงเครื่องเสียงหรือช่วงล่างครับ

เสียงครับ

[FozMedic]

3. เครื่องยนต์/สมรรถนะ

Subaru ใหม่ที่ได้เปลี่ยนรุ่นเครื่องยนต์จากบล็อก EJ มาเป็น FB โดยเปลี่ยนระบบจากสายพานราวลิ้นเป็นการใช้โซ่  มีช่วงชักของลูกสูบที่ยาวขึ้น ทำให้รถอย่าง legacy/outback และ XV ออกมาในแนวทางที่ประหยัดและบำรุงรักษาง่ายมากขึ้น แต่ FHI ก็ยังมีความต้องการเครื่องยนต์สมรรถนะสูงกว่าเพื่อประจำการในรถบางรุ่น จึงได้พัฒนาเครื่องยนต์อีกซีรี่ส์นึงรหัส FA20 โดยได้ระบบฉีดตรง (Direct Injection) D-4S ของ Toyota ประจำการใน BRZ และ 86 ของ Toyota/Scion ซึ่งเมื่อ Forester SJ 2.0XT ตัวใหม่นี้ออกมา ก็ได้ถูกปรับปรุงบางอย่าง ที่สำคัญมันถูกเพิ่ม Turbo เข้าไป เป็นรหัสเครื่องยนต์ FA20DIT จนทำให้แรงม้า/แรงบิดสูงขึ้นไปอีก แต่ก็ยังคงเครื่องยนต์ FB20 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน XV ให้เลือกใช้ในรุ่น 2.0i อยู่

 

สำหรับ Forester SJ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ ในตัว JDM มันได้แรงม้า 280ps ตลาดในอเมริกาเหนือได้ 250ps ส่วนตลาดอื่นๆทั่วโลกได้ 240ps ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำให้มันต่างกันแบบนี้

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=DeMZRaLYsBQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=DeMZRaLYsBQ</a>

อัตราเร่งตามสเปกโรงงาน 0-100km/hr
JDM 280ps ได้ 6.8 วินาที
ตลาดอเมริกาเหนือ 250ps ได้ 7.2 วินาที
ตลาดอื่นๆ (รวมไทย) 240ps ได้ 7.5 วินาที

 

เครื่องยนต์ตัวนี้คาดว่าจะเข้าประจำการใน imprezza WRX รุ่นถัดไปค่อนข้างแน่นอน และมีข่าวออกมาแล้วว่าจะผลิตแรงม้าได้เกิน 300 ตัวจากโรงงาน ... ดังนั้นเมื่อเวลานั้นมาถึงน่าจะทำให้ Forester XT มีโอกาสใช้ของเล่นเพิ่มพลังได้อีกมากทีเดียว

จากการใช้งาน เมื่อคลานในเมืองมันไม่ต่างจากรถอื่นๆในตลาดซักเท่าไหร่ ตอนออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง torque converter ยอมให้รอบเครื่องขึ้นไปสูงนิดนึง ประมาณ 2 พันรอบ แล้วจึงปล่อยให้ตกลงมาเหลือ 1,200 - 1,800 แล้วคาอยู่แบบนั้นในขณะที่ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นความรู้สึกการขับรถเกียร์ CVT ที่แปลกในตอนแรกประมาณว่ากะแรงกดคันเร่งไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้เริ่มชินกับมันแล้วและรูัสึกถึงข้อดีของ CVT มากขึ้น ส่วนเรื่องความทนทานของ CVT ก็น่าจะพอใช้ได้อยู่ เพราะ Jatco ผู้ผลิต CVT ให้ subaru ได้เลือกใช้โซ่ ไม่ใช่ระบบสายพาน และตัว XT ยังใช้โซ่แบบพิเศษ มีความถี่ของโซ่ที่สูงกว่าปกติเพื่อให้รับแรงบิดสูงได้ ข้อเสียที่พบของ CVT รุ่นนี้น่าจะเป็นยามวิ่งในเมือง บางครั้งเราอาจได้ยินเสียงโซ่ CVT ทำงานอยู่บ้าง ซึ่งในคู่มือก็ได้มีการระบุเรื่องนี้ไว้ เป็นปกติ น้ำมันเกียร์ CVT ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน แต่การใช้งานจริงสำหรับสภาพใช้งานด้วยความเร็วต่ำนานๆแบบในกรุงเทพฯ น่าจะมีการเปลี่ยนบ้าง น่าจะซัก 50,000 กม. ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะถ้าเติมเกินไปนิดเดียวเกียร์อาจพังทันที เพราะมีบางคันในตลาดอเมริกาเหนือ มีการเติมน้ำมันเกียร์เกินมาจากโรงงานและต้องส่งกลับไปแก้ไขที่ญี่ปุ่นทั้งชุด แต่ก็เกิดขึ้นน้อยมาก

ความแรงและอัตราเร่งของเจ้า XT นี้น่าจะเป็นรถที่แรงที่สุดที่ผมเคยขับมา ยามต้องการกำลังแค่กดคันเร่งไป 50% ก็น่าจะเพียงพอที่จะทิ้งรถคันอื่นเกือบทั้งหมดเอาไว้ข้างหลัง โดยเมื่อคงไว้ที่โหมด I อาจต้องใช้เวลาซักนิดนึงก่อนที่เกียร์จะปรับเป็นอัตราทดที่สูงขึ้นและ turbo ทำงาน แต่เมื่อแรงดัน turbo มาแล้วก็จะมาอย่างต่อเนื่องจาก 20-120 แรงดันหลังติดเบาะได้ความรู้สึกที่ต่อเนื่องกันตลอดช่วง

 

เมื่อปรับมาโหมด S หรือ S# แรงบิดจะะมาเร็วและฉับไวขึ้นมาก โดยที่โหมด S เกียร์จะยอมให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบสูงขึ้นเพื่อใช้แรงบิดให้ได้เต็มที่ เหมาะกับการขับรถทางไกลใช้ความเร็วสูง ส่วนเมื่อปรับเป็นโหมด S# จะทำให้ CVT ทำตัวเหมือนเกียร์ auto 8 speed (มีตัวเลข 1-8 ขึ้นบนหน้าปัด) โดยเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงกว่าโหมด I และเมื่อปล่อยคันเร่ง เกียร์จะทดสูงขึ้นเป็น engine brake และอีกประการเพื่อคงรอบเครื่องยนต์ให้สูงเอาไว้เพื่อกดคันเร่งออกไปต่อได้ทันทีทันใด โดยคงจะมีประโยชน์เมื่อต้องการกำลังทันทีทันใด เช่น แก้ไข understeer/oversteer ระหว่างเข้าโค้ง

ตามความรู้สึก S# น่าจะเหมาะกับการมุดไปมาในเมืองยามไปประชุมลูกค้าไม่ทัน หรือยามขึ้น-ลงภูเขาที่ฝนกำลังตกและมีความคดเคี้ยว ส่วน S น่าจะเหมาะกับการวิ่งด้วยความเร็วสูงบนไฮเวย์/มอเตอร์เวย์มากที่สุด

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gC43i7Xlqqw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gC43i7Xlqqw</a>

หมายเหตุ: คลิปทั้งหมดจาก youtube.com

[emmy]

เมื่อคืนขับตาม SJ สีดำ คันนึงแถวๆ หน้า central บางนา สวยมากๆ เลยครับ ไม่แน่ใจว่าใช่ของพี่ๆ ในนี้รึเปล่า

 

[aof_impz]

xt แรงมากเลยครับ

[jong3858]

 ทั้งเข็มไมล์เข็มวัดรอบกวาดเร็วมาก

[aof_impz]

ตัวนี้ใช้กับ e20 ได้ใช่เปล่าครับ ใครเคยลองบ้าง

[FozMedic]

ตัวนี้ใช้กับ e20 ได้ใช่เปล่าครับ ใครเคยลองบ้าง

ไม่ได้ครับ ในเครื่อง di turbo ในคู่มือระบุให้ใช้ RON 95 ขึ้นไปเท่านั้น และห้ามมี etanol ผสมเกิน E10  (E20 E85 หมดสิทธิ์) ที่จริงแนะนำให้ใช้ 98 ด้วยซ้ำ แต่บ้านเราไม่มีขาย

[FozMedic]

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

ถังน้ำมันของ forester XT สามารถจุน้ำมันได้ 60 ลิตร เท่ากับ forester รุ่น 2.0L และยังน่าจะเท่ากับถังน้ำมันของ XV อีกด้วย
จากการใช้งานมา 1,600km พบว่าอัตราการกินน้ำมันที่แสดงผลบนหน้าปัด จะขึ้นอยู่ที่ 11-12 L/100 km หรือ 8.3 - 9.0 กม.ต่อลิตรมาตลอด ด้วยน้ำมัน gasohol 95 โดยสภาพการใช้งานคือ 40% วิ่งด้วยความเร็วต่ำ คลานแบบรถติดๆ 30% วิ่งด้วยความเร็วปานกลางขณะจราจรคล่องตัว และ 30% วิ่งทางด่วนความเร็ว 80-120

เมื่อจับปริมาณน้ำมันที่เติมจริง กับระยะทาง ตั้งแต่น้ำมันเต็มถังจนถึงสัญญาณระดับน้ำมันขึ้นเตือน จะได้อยู่ที่ 380-420 กม.มาหลายครั้งโดยสภาพการใช้งานไม่ต่างกัน คิดเป็น กม.ต่อลิตร อยู่ที่ 8 กม.ต่อลิตร พอดี จะเห็นได้ว่าตัวเลขที่โชว์บน MFD คลาดเคลื่อน 5-7%

เป็นที่แน่นอนว่ามันอาจกินน้ำมันกว่ารถอย่าง toyota camry 2.0G ปี 2008 อยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับซูบารุ XT รุ่นก่อน คันนี้น่าจะประหยัดกว่า โดยปัจจัยที่มีผลคือการ boost ของเทอร์โบ ถ้าเราใช้โหมด  i และเลี้ยงคันเร่งให้ดี ไม่ให้ boost ขึ้นเกิน 0 จะเห็นตัวเลขค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองบน MFD สูงขึ้นมากเป็น 13-14 กม.ต่อลิตร สบายๆ ในสภาพการจราจรที่ไม่ติดขัดมากนัก แต่ถ้ารถติดมากๆ ตลอดเวลา จะมีโอกาสได้เห็นตัวเลข 7 กม.ต่อลิตร หรือต่ำกว่านั้นแม้ว่าจะเลี้ยงคันเร่งกันสุดๆ ซึ่งก็เหมาะสมแล้ว เพราะ XT คงอยากไปออกกำลังในป่า หรือวิ่งทางไกลมากกว่ามาคลานในเมืองแบบนี้

ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ใครที่มอง forester XT อยู่น่าจะไปทดลองขับดูเพื่อให้ได้ feeling เรื่องช่วงล่างและสมรรถนะที่ชัดเจนนะครับ คิดว่าถ้าได้ลองแล้วน่าจะไม่ผิดหวัง ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัย

ส่วน X-mode ถ้าได้ไปลองจะมาเล่าให้ฟังภายหลังครับ

[lucky_suby]

ขอบคุณท่าน medic1669 มากครับ รีวิวได้ดีมากเลยครับ อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย อยากได้แล้วนะเนี่ย 555 

[aof_impz]

จะว่าไปก็กินดุเหมือนกันนะเนี่ย