ผู้เขียน หัวข้อ: MFC ออกกองทุน RMF ลงทุนพลังงานสะอาดเปิดขาย IPO 8-21 ธ.ค.  (อ่าน 573 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • *
  • กระทู้: 1,097
  • Popular Vote : 0
บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) ออกกองทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีผลงานโดดเด่นคือกองทุนตระกูล MRENEW หรือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี เพื่อการเลี้ยงชีพ (MFC Renewable Energy Retirement Fund) เน้นลงทุนในหุ้นเกี่ยวข้องพลังงานสะอาดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพทั่วโลก ทั้งนี้ เปิดขายครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 8 -21 ธ.ค.64


ด้วยผลตอบแทนที่มั่นคงจากกองทุนหลัก MRENEW ทำให้ผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสที่ดีสำหรับการต่อยอดเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ลงทุนจึงเป็นที่มาของการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือ กองทุน RMF เพิ่มเติมในชื่อ MRENEWRMF ที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีและสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนหลังเกษียณหรือหลังอายุ 55 ปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย MRENEWRMF ต่อยอดความสำเร็จมาจากกองทุน MFC Renewable Energy Fund (MRENEW) ที่ลงทุนใน BGF Sustainable Energy Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนหลักบริหารจัดการโดย BlackRock บริษัทจัดการชั้นนำของโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่คำนึงและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

กองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจพลังงานยั่งยืนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Power) การขนส่งโดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสะอาด (Clean Transport) และการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) ซึ่งนับเป็นกลุ่มธุรกิจ ESG ที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องและมีความยั่งยืน อนึ่งกองทุนหลักได้รับการจัดอันดับ Morningstar 4 ดาว และ 5 globe Morningstar sustainability rating

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนพลังงานสะอาดได้ลดลงอย่างมหาศาลจากการพัฒนาของเทคโนโลยี โดยต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และแบตเตอร์รี่ได้ลดลงกว่า 85%, 49% และ 88% ตามลำดับ ในปลายปี 2020 จากข้อมูลของ Bloomberg คาดว่าได้มีการติดตั้งพลังงานสะอาดมากกว่า 2,600 GW ซึ่งคิดเป็น 38% ของพลังงานทั่วโลก และคาดว่าจะเติบโตเป็น 55% ภายในปี 2030 และ 74% ในปี 2050 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ EV อยู่ที่ 2.5 ล้านคันหรือคิดเป็น 4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2020 จากการคาดการณ์ของ Deloitte คาดว่าจะเติบโตขึ้น 29% ต่อปีไปจนถึง 2030 เป็น 31.1 ล้านคันซึ่งคาดว่าจะเป็น 32% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด

อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การใช้พลังงานสะอาดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั่วโลก แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องจะปรับตัวขึ้นสูง แต่ในสหรัฐอเมริกาได้มีการติดตั้ง Solar PV เพิ่มขึ้น 45% ที่ 10.7 GW ในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่จีนได้มีความแข็งแกร่งในด้าน Residential Solar ที่มีการติดตั้งเพิ่มขึ้น 105% ที่ 13.6 GW แต่การติดตั้งในรูปแบบ Non-residential ปรับตัวขึ้นเพียง 3% ที่ 15.7 GW ในด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 จาก สหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ได้มียอดขายรวมกันกว่า 2.6 ล้านคันคิดเป็น 26% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาดที่คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีในอนาคตจะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ในระยะยาวและสามารถก้าวข้ามอุปสรรคจากต้นทุนที่สูงขึ้นในระยะสั้นได้

MRENEWRMF มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนรวมสูงสุดให้กับผู้ลงทุน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน (sustainable energy companies) ทั่วโลก อย่างน้อยร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน โดยบริษัทที่มีการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก (Alternative Energy) และเทคโนโลยีพลังงาน (energy technologies) ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีพลังงานทดแทน (renewable energy technology), ผู้ผลิตพลังงานทดแทน (renewable energy developers), เชื้อเพลิงทางเลือก (alternative fuels), การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency), ความสามารถในการใช้พลังงานโครงสร้างพื้นฐาน (enabling energy and infrastructure) ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในบริษัทที่จัดอยู่ในประเภทดังต่อไปนี้ (ตามที่ Global Industry Classification Standard กำหนด) เช่น ถ่านหิน และวัสดุสิ้นเปลือง (coal and consumables); การสำรวจและผลิตน้ำมันก๊าซ (oil and gas exploration and production), บริษัทน้ำมันก๊าดแบบครบวงจร (integrated oil and gas)