ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 14.68 จุดรับแรงเก็งกำไร  (อ่าน 381 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dsmol19

  • *
  • กระทู้: 1,214
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 14.68 จุดรับแรงเก็งกำไรกุล่มสื่อสารรับผลดีควบรวม-หลบภัยโอมิครอน

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,641.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.68 จุด (+0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 67,593.31 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวค่อนข้างดีในทิศทางเดียวกับภูมิภาค รับแรงซื้อกลุ่มสื่อสารประเด็นประโยชน์จากควบรวม TRUE-DTAC และมองเป็นหุ้นหลบภัยโควิดหากระบาดอีกระลอกหลังปีใหม่ อีกทั้งเก็งกำไรหุ้น ADVANC อาจมีปันผลพิเศษหลังเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดฯน่าจะบวกต่อได้แต่คงไม่แรงเท่าวันนี้ ให้แนวรับ 1,635 จุด แนวต้าน 1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,641.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.68 จุด (+0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 67,593.31 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,645.71 จุด และระดับต่ำสุด 1,632.90 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 888 หลักทรัพย์ ลดลง 651 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 561 หลักทรัพย์

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีสอดคล้องกับตลาดภูมิภาค โดยกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นแต่ไม่เห็นประเด็นอย่างชัดเจน แต่คาดว่าอาจมาจากประเด็นการควบรวมกิจการสร้างประโยชน์ในภาพรวม หรือแม้จะไม่มีประเด็นควบรวม แต่ตลาดมองว่า ใน 1 เดือนข้างหน้าหลังเทศกาลปีใหม่มีโอกาสที่โควิดสายพันธุ์ใหม่จะรระบาด จึงมองกลุ่มสื่อสารเป็นแหล่งพักเงินลงทุน เพราะเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และไตรมาส 4/64 ธุรกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ หุ้น ADVANC มีแรงเก็งกำไรจากความคาดหวังว่าอาจมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ จากกำไรสะสมสูงถึง 5.3 หมื่นล้านบาทหลังจากมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่มาเป็น GULF ประเมินปันผลพิเศษอาจจะได้ 17-18 บาท/หุ้น โดยเห็นตัวอย่างจากกรณีของ SVI หรือ NOBLE เมื่อเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ใช้เงินกู้เข้ามาซื้อหุ้น ก็มีการจ่ายปันผลตามมา

นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์ด้วย Valuation ที่ดูน่าสนใจ แต่งบไตรมาส 4/64 คาดว่าจะอ่อนแอลง และหากมีการระบาดโควิดโอมิครอน กลุ่มแบงก์ก็มีโอกาสรับผลกระทบอีกรอบใน 1-2 เดือนข้างหน้า ที่สุดจึงเลือกเข้ากลุ่มสื่อสารเพื่อป้องกันความเสี่ยงดีกว่า แต่หากมีการระบาดแล้วราคากลุ่มแบงก์ลงก็เป็นโอกาสเข้าเก็บได้

ในระยะสั้น หากเกิดการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แต่ไม่รุนแรง ตลาดอาจไม่รับผลกระทบมากนัก ส่วนในช่วงปลายปีที่มีเทศกาลคริสต์มาสอาจทำให้วอลุ่มซื้อขายเบาบาง โอกาสที่ตลาดขึ้นแรง-ลงแรงไม่น่าจะได้เห็น ตลาดบ้านเราน่าจะแกว่งทรงตัวอิงไปทางบวก ทำให้หุ้นกลางและเล็กน่าจะกลับมาเล่นเก็งกำไรกันได้ วันพรุ่งนี้คาดว่าตลาฯ น่าจะบวกต่อได้แต่อาจไม่แรงเท่าวันนี้

ให้แนวรับที่ 1,635 จุด แนวต้านที่ 1,650 จุด

นายกิจพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/65 น่าจะรับแรงกดดัน จากการระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน, งบแบงก์ออกมาน่าผิดหวัง และแรงขายกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนด 7 ปีครั้งแรก อย่างไรก็ดี มองว่าดัชนีน่าจะยีงเป็นบวกได้ โดยประเมินดัชนี SET ต้นปีที่ 1,740 จุด และทั้งปี 65 ให้เป้าหมายที่ 1,820 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,128.88 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท

WFX มูลค่าการซื้อขาย 2,730.91 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,238.45 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,998.01 ล้านบาท ปิดที่ 93.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,977.81 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท