ผู้เขียน หัวข้อ: ปธ.MINT ส่งจม.ถึงนายกฯ วอนฟื้น Test&Go  (อ่าน 412 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jenny937

  • *
  • กระทู้: 644
  • Popular Vote : 0
ปธ.MINT ส่งจม.ถึงนายกฯ วอนฟื้น Test&Go
« เมื่อ: มกราคม 15, 2022, 10:24:55 pm »
ปธ.MINT ส่งจม.ถึงนายกฯ วอนฟื้น Test&Go เปิดรับนักท่องเที่ยวควบคู่คุมโควิด

นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปพร้อมกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

จดหมายดังกล่าว ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ต่อ และถึงแม้ว่านี้จะมีอัตราในการแพร่เชื้อที่สูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงน้อยกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นอัตราการติดเชื้อคงจะยังไม่สามารถลดลงได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีจัดการกับสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม การพยายามลดอัตราการแพร่ระบาดสามารถทำได้ผ่านการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้เพิ่มมากขึ้นโดยเร็ว การเว้นระยะห่างทางสังคมและการใส่หน้ากาก

จากความเห็นของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย และองค์การอนามัยโลกต่างเชื่อมั่นว่าในเวลานี้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมไม่ใช่คำตอบของการควบคุมการระบาด แต่จะส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและทำให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

นายวิลเลี่ยม ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับการจำกัดชั่วโมงการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับร้านอาหารที่ได้รับมาตรฐานรับรองความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus เพราะสามารถส่งเสริมให้มีการดื่มเครื่องดื่มอย่างมีความรับผิดชอบและอยู่ในกรอบวิธีการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด ซึ่งสิ่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ

อีกทั้งหลักปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังประเทศไทย ควรได้รับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่าการปิดประเทศอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแพร่เชื้อในประเทศของสายพันธุ์โอมิครอนได้เริ่มขึ้นแล้ว องค์การอนามัยโลกลงความเห็นว่าการปิดพรมแดนถือเป็นการกระทำแบบด่วนตัดสินใจโดยปราศจากเหตุผลและหลักการสนับสนุนอย่างพอเพียง และยังไม่ก่อให้เกิดผลที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

และด้วยเหตุนี้เอง สหราชอาณาจักรจึงได้ประกาศยกเลิกแผนการปิดประเทศอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่การระบาดของโอมิครอนยังดำเนินต่อไป และอีกหลายประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงสหรัฐอเมริกา ก็ได้ทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยเองก็ควรจะปรับเปลี่ยนข้อปฏิบัติให้เหมาะสม และกลับเข้าสู่การเปิดประเทศแบบที่เคยเป็นก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ Thailand Pass ซึ่งเป็นระบบการลงทะเบียนเพื่อขอรับการอนุมัติเข้าประเทศล่วงหน้า รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำประกันและการจองที่พักล่วงหน้ายังก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวก เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ มาตรการเหล่านี้ล้วนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ดังนั้น จึงแนะนำว่าประเทศไทยควรยึดตามหลักปฏิบัติที่ใช้กันในหลายๆ ประเทศ รวมถึงสายการบินต่างๆ เช่น การขอหลักฐานการฉีดวัคซีน และผลตรวจโควิด-19 เป็นต้น ควรเร่งกลับมาใช้นโยบาย Test & Go หรือโครงการ Sandbox และหากพบนักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจเป็นบวก ก็สามารถอนุญาตให้เขาเหล่านั้นกักตัวเองได้ภายในโรงแรม

สำหรับโครงการ Sandbox การเพิ่มจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี เข้าไปอยู่ในโครงการ ถือเป็นการดำเนินการในทิศทางที่ดี จึงขอสนับสนุนให้รัฐบาลขยายเครือข่ายของโครงการให้ครอบคลุมจังหวัดและพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป