ผู้เขียน หัวข้อ: ASW เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ลุยเต็มอัตราศึก! ประกาศบิ๊กดีล JV  (อ่าน 365 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0
ASW เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ลุยเต็มอัตราศึก! ประกาศบิ๊กดีล JV ยักษ์อสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น "ทาคาระ เลเบ็น" พร้อมเข้าเทกฯ คอนโดฯรัชดา-สุทธิสาร " แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน "

" แอสเซทไวส์ " ผงาดปีเสือ เปิดกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ประกาศร่วมทุน "ทาคาระ เลเบ็น" ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 50 ปี เข้าถือหุ้น เตรียมพร้อมลุยพัฒนาคอนโดฯ ย่านบางนา โครงการแรก "แอทโมซ บางนา" มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท พร้อมสบช่องเข้าลงทุนใน "แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน" ในสัดส่วน 100% นำร่องโปรเจคแรก Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ Low Rise ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารและส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว มูลค่า 570 ล้านบาท บิ๊กบอส "กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์" ระบุเพิ่มศักยภาพธุรกิจ มั่นใจผลตอบแทนสุดคุ้ม หนุนรายได้-กำไรโตแกร่ง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ด้วยแนวคิด "ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ" หรือ "We build Happiness" เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับบริษัท Takara Leben (ทาคาระ เลเบ็น) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ มายาวนานกว่า 50 ปี โดยบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทาคาระ เลเบ็น จะถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดฯ "แอทโมซ บางนา" มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการโลว์ไรส์ขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพย่านบางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีเหลือง ประเดิมเป็นโครงการแรก

ทั้งนี้ Takara Leben เป็นบริษัทในเครือ ทาคาระ กรุ๊ป เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมากว่า 500 โครงการ ทั้งยังประกอบธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2515 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อปี พ.ศ. 2547 และจะดำเนินธุรกิจครบ 50 ปีในปีนี้

นายคาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) CEO บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด กล่าวว่า บริษัทมองหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสในการเติบโต โดยแอสเซทไวส์ เป็นบริษัทมหาชนที่มีความมั่นคงและอนาคตไกลในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พิสูจน์ได้จากทั้งคุณภาพของโครงการ และความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตรงกัน คือ ยึดมั่นในการออกแบบความสุขเพื่อการอยู่อาศัย บริษัทจึงมั่นใจและตัดสินใจร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ บมจ. แอสเซทไวส์ได้แจ้งการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ ฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 218 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 570 ล้านบาท ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารประมาณ 400 เมตร และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565 โดยปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วประมาณ 83%

"โครงการนี้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี สอดคล้องกับหลักการพัฒนาโครงการของแอสเซทไวส์ คือ เน้นสร้างความสุขในการอยู่อาศัย ผ่านทั้งทำเลศักยภาพ ตัวโครงการที่ดี การออกแบบห้องพักที่สวยงามลงตัว และการมอบความสุขด้วยส่วนกลาง (Facility) ที่มอบให้อย่างเต็มที่ โครงการมีกำหนดจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งหมายความว่าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาโครงการ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะได้อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) สูงกว่าการพัฒนาโครงการเองจากที่ดินเปล่า " นายกรมเชษฐ์ กล่าว

"ASW เราแสวงหาการลงทุนในทุกรูปแบบ การร่วมมือหรือ Synergy เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ถือเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งกับพันธมิตรในลักษณะ Joint Venture และการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เพราะเป็นการสร้างโอกาส เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับ ASW มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต" นายกรมเชษฐ์กล่าว