ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 273.38 จุด  (อ่าน 363 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • *
  • กระทู้: 511
  • Popular Vote : 0
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 273.38 จุด รับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-หุ้นแบงก์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (1 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,405.24 จุด เพิ่มขึ้น 273.38 จุด หรือ +0.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,546.54 จุด เพิ่มขึ้น 30.99 จุด หรือ +0.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,346.00 จุด เพิ่มขึ้น 106.12 จุด หรือ + 0.75%

ในช่วงแรก ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนลบ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 57.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 จากระดับ 58.8 ในเดือนธ.ค. โดยภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากภาวะคอขวดด้านอุปทานและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

อย่างไรก็ดี ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 3.5% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 23.2%

ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.63% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.29% หุ้นออกซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 4.3% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้น 2.05%

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 6.41% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 2.05 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.94 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.8% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.64% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 1.73% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 1.72% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 3.35% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.21%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าช้อนซื้อ โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 7.02% หุ้นเมตา แพลตส์ฟอร์ม (เฟซบุ๊ก) พุ่งขึ้น 1.83% หุ้น NVIDIA บวก 0.62% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.73% หุ้นแอมะซอน บวก 1.08%

หุ้นนิวยอร์ก ไทม์ส พุ่งขึ้น 3.07% หลังนิวยอร์ก ไทม์ส ประกาศซื้อกิจการ "เวอร์เดิล (Wordle)" ซึ่งเป็นเกมทายคำศัพท์ออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ ๆ

ทั้งนี้ เวอร์เดิล ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยนายจอช วอร์เดิล วิศวกรซอฟต์แวร์ชาวอเมริกัน เมื่อเดือนต.ค.2564 ได้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากจำนวนผู้เล่นเพียง 90 คนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 คนในช่วงกลางเดือนม.ค.ปีนี้ และขณะนี้จำนวนผู้เล่นเกมเวอร์เดิลเพิ่มขึ้นเป็นหลายล้านคนแล้ว หุ้นเทสลา ปรับตัวลง 0.58% หลังเทสลาประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวน 53,822 คัน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่อาจทำให้รถไม่หยุดนิ่งขณะถึงทางแยก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทจำนวน 172 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว ซึ่งเกือบ 80% ในจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%