ผู้เขียน หัวข้อ: เพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก ด้วยนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่  (อ่าน 366 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • *
  • กระทู้: 817
  • Popular Vote : 0
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตในหลากหลายมิติ พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจต่างๆ และหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงก็คืออุตสาหกรรมการเกษตรที่เปิดรับและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ผสมผสานเข้ากับภูมิปัญญาเกษตร เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและส่งมอบผลิตผลที่ปลอดภัยสู่มือผู้บริโภค

เทคโนโลยีการเพาะปลูกมีหลายประเภท เริ่มตั้งแต่ระบบน้ำ ระบบปุ๋ย เครื่องจักรทุ่นแรงขนาดเล็กและใหญ่ โรงเรือนเพาะปลูก รวมถึงระบบเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ที่ช่วยควบคุมการทำงานต่างๆ ในแปลงเพาะปลูก เป็นต้น บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย หนึ่งในผู้พัฒนาวงการเกษตรไทยมายาวนานกว่า 100 ปี ได้สรรหานวัตกรรมเกษตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและได้นำเสนอทางเลือกในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ การใช้โรงเรือนเพาะปลูกและติดตั้งระบบภายในโรงเรือน เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ดียิ่งขึ้น สร้างรายได้และเส้นทางอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกร รวมถึงสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับผู้บริโภค สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเจียไต๋ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมของเจียไต๋อย่างเทคโนโลยีโรงเรือนจะช่วยให้เกษตรกรสามารถดูแลและป้องกันพืชผลจากสภาพแวดล้อม ทั้งยังช่วยป้องกันแมลง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคในพืช นอกจากนี้ ระบบภายในโรงเรือนยังสามารถควบคุมการให้น้ำให้ปุ๋ย รวมถึงช่วยวัดอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างแม่นยำ โดยประเภทของโรงเรือนนั้นจำแนกออกเป็นลักษณะต่างๆ ตามความต้องการของพืชและลักษณะพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งโรงเรือนที่เป็นที่นิยมและเหมาะสมสำหรับสภาพอากาศของไทยจะเป็นโรงเรือนแบบหลังคาโค้ง 2 ชั้น ที่ช่วยระบายความร้อนและความชื้นได้ดี และระบบเพิ่มเติมภายในโรงเรือนที่เหมาะสมคือระบบปรับอากาศแบบอีแวปโพเรชั่น (Evaporation) ระบบพัดลม และระบบพ่นหมอก ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดและระบายความร้อนรวมถึงความชื้น ซึ่งการนำไปใช้งานเกษตรกรสามารถเลือกและประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสมของตน โดยผสมผสานวิธีทำเกษตรแบบเดิมกับการเกษตรแบบใหม่ด้วยการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในแปลง

และหนึ่งในตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ากับการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ "คุณบอม ธวัชชัย ยอดวิชา" อดีตพนักงานออกแบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ที่ผันตัวเองสู่การเป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดจากครอบครัว โดยคุณบอมซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้ตัดสินใจนำเทคโนโลยีโรงเรือนมาประยุกต์ใช้ในแปลงเพาะปลูก โดยเลือกใช้วัสดุคลุมเป็นมุ้งขาวเพื่อช่วยป้องกันแมลง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก นอกจากนี้ ยังได้นำความรู้ด้านไฟฟ้าของตนมาติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์แบบย่อม เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอำนวยความสะดวกบนเถียงนา ซึ่งทั้งโรงเรือนและระบบโซลาร์เซลล์นี้ นอกจากจะช่วยให้คุณบอมทุ่นแรง ทุ่นเวลาแล้ว ยังช่วยให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมคุณภาพการเพาะปลูกให้ได้ผลิตผลที่ดีมีคุณภาพ ต่อยอดเส้นทางอาชีพการเกษตรที่มั่นคง สู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน