¹ Ǣ: บริษัททำระบบไฟฟ้า VS ผู้รับเหมา/ช่าง  (ҹ 342 )

0 Ҫԡ 1 ؤŷ ѧǢ͹

ͿŹ guruonline

  • *
  • з: 29
  • Popular Vote : 0
เชื่อว่า หลายคนยังประสบปัญหาในการหาช่างไฟ ผู้รับเหมา หรือบริษัททำระบบไฟฟ้า เข้ามาตรวจเช็ค ซ่อมแซม ต่อเติมเพิ่มระบบไฟฟ้าในบ้านเพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องคิดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความชำนาญ ผลงาน ราคา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งระหว่างช่างทั่วไปกับบริษัท มีข้อดีข้อเสียให้เปรียบเทียบกันอยู่ไม่น้อย วันนี้ไฟฟ้าโปร รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้ทุกท่านพิจารณาแล้วค่ะ

1. บุคลากร ทีมงาน

ถ้าเป็นบริษัทระบบไฟฟ้าจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีความรู้ตามเกณฑ์หรือมากกว่าเกณฑ์ แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน แผนงานจะผ่านการควบคุม วิเคราะห์ กำหนดงบประมาณโดยวิศวกรมืออาชีพ ในขณะที่ผู้รับเหมา / ช่างไฟทั่วไปจะมีทั้งคนที่ชำนาญและมือใหม่ปะปนกันในทีม ไปจนถึงมีการเปลี่ยนคนที่เข้ามาทำงานในบางวันทำให้ความถูกต้อง ต่อเนื่องและความเรียบร้อยของงานระบบไฟฟ้าจะน้อยกว่า

2. รูปแบบในการทำงาน

หากเป็นในรูปแบบบริษัท การทำงานจะเป็นระบบระเบียบมีขั้นตอนในส่าวนต่าง ๆ มากกว่า แต่จะมีหนังสือสัญญา บอกสเปควัสดุ อุปกรณ์ เอกสารต่าง ๆ  ให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ตลอด ทีมงานหรือเนื้องานมีปัญหาลูกค้าสามารถแจ้งกับบริษัทได้ในทุกกรณี ถ้าหากเป็นผู้รับเหมา / ช่างไฟฟ้าทั่วไป บางที่มีเอกสารการจ้าง-เบิก บางที่ไม่มี ไม่มีเอกสารบอกอุปกรณ์, อะไหล่ ที่จะใช้ ส่วนใหญ่จะตกลงกันด้วยวาจาเสียมากกว่าข้อดีคือ ลดความยุ่งยากออกไปได้เยอะ เริ่มงานได้ไว ไม่ต้องรออนุมัติหลายขั้น

3. ราคาค่าบริการ

ในส่วนนี้คงรู้กันดีว่าราคาของบริษัททำระบบไฟฟ้าจะสูงกว่าผู้รับเหมา / ช่างไฟฟ้าทั่วไปแน่นอน นั่นเป็นเพราะการทำงานในรูปแบบบริษัทมักต้องมีค่าดำเนินการ, ค่าจ้างพนักงานที่เป็นมืออาชีพมาควบคุมดูแลการทำงานไม่ให้เกิดปัญหาในด้านต่าง ๆ ซึ่งถ้าเป็นผู้รับเหมา / ช่างไฟฟ้าทั่วไปจะมีทั้งคนที่ชำนาญและมือใหม่ปะปนในทีมหน้างาน ทำให้มีปัญหาเรื่องมาตรฐาน คุณ าพเนื้องาน การประสานงานได้ หรือ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคนที่เข้ามาทำงานในบางวันด้วย

4. ความใส่ใจในงาน และ การรับประกัน

บริษัทมักจะให้ความสำคัญเรื่องชื่อเสียงของบริษัทมาเป็นอันดับหนึ่งจึงต้องเอาใจใส่ลูกค้า และ เนื้องานมากตั้งแต่เริ่มว่าจ้างจนจบงาน และยังมั่นใจได้ว่าบริษัทจะทำงานระบบไฟฟ้าอย่างถูกต้องและดีที่สุดเพราะส่วนใหญ่จะมีการรับประกันผลงานด้วยซึ่งบริษัทไม่อยากจะให้เกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่ทำให้ต้องเสียชื่อเสียง เวลา และ วัสดุเพื่อการแก้ไขใหม่อีกแน่นอน แต่ในส่วนของผู้รับเหมา / ช่างไฟทั่วไปมักจะคิดราคารับเหมาถูกกว่าทำให้ลูกค้าที่เน้นเรื่องราคาถูกใจ แต่ด้วยความที่ราคาถูกจึงส่งผลต่อคุณ าพงาน เพราะเลือกซื้อวัสดุที่ราคาถูก เพื่อให้ได้กำไรเยอะขึ้น และเมื่อค่าจ้างไม่สูงเรื่องความเอาใจใส่หรือรับประกันผลงานก็ย่อมลดลง หลายเจ้าอาจไม่มีรับประกันผลงาน แถมเมื่องานจบแล้วติดต่อไม่ได้อีกเลยก็มีให้เห็นอยู่

5. ความปลอด ัย เชื่อถือได้ ช่องทางการติดต่อ

ข้อนี้ลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสนใจ แต่จะมานึกขึ้นได้ก็ตอนที่ต้องการติดต่อผู้รับเหมาแล้วไม่สามารถติดต่อได้ เพราะผู้รับเหมา / ช่างไฟทั่วไปมักให้เบอร์ติดต่อแค่เบอร์เดียวและใช้บ้านเป็นสำนักงานจึงไม่ค่อยบอกรายละเอียดที่ตั้ง หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่ว่าจ้างหรือช่างทิ้งงาน ก็จะหาความรับผิดชอบได้ยาก แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับบริษัททำระบบไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจนพร้อมกับมีช่องทางติดต่อมากมาย หลายบริษัทสามารถหาเจอในอินเตอร์เน็ตได้เลย

6.วัสดุ อุปกรณ์ ความพร้อมในการทำงาน

ในการจ้างบริษัททำระบบไฟฟ้าไม่เพียงแค่ อุปกรณ์ อะไหล่ ที่ใช้กับบ้านลูกค้าเป็นของดี ได้มาตรฐาน แต่อุปกรณ์เซฟตี้ เครื่องไม้เครื่องมือในการทำงานระบบไฟฟ้านั้นจะมีพร้อม ครบครัน ส่งผลให้ทีมช่างทำงานได้อย่างแม่นยำและมีคุณ าพ ในส่วนของผู้รับเหมา / ช่างไฟทั่วไป ต้องยอมรับว่ามีการใช้ความรู้ และ เทคนิคต่าง ๆ แทนเครื่องไม้เครื่องมือบางอย่างเพราะอุปกรณ์บางชิ้นที่ราคาสูงมาก ผู้รับเหมา/ช่างไฟทั่วไปที่ไม่ได้มีงานปริมาณมาก ๆ จะรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะซื้อไว้

จากข้อมูลด้านบนความแตกต่างที่ชัดเจนเลยคือ เรื่องของราคา และความน่าเชื่อถือ แน่นอนว่าถ้าอยากได้ทีมงานที่ไว้ใจได้แน่ ๆ ทั้งเรื่องคุณ าพงานและไม่ทิ้งงาน รูปแบบบริษัทน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีแต่ก็มาพร้อมกับค่ายริการที่สูงกว่า มีระบบขั้นตอนการประสานงานที่มากกว่า แต่หากต้องความสะดวก คุยง่าย ต่อรองราคาได้ ผู้รับเหมา / ช่างไฟทั่วไปเป็นตัวเลือกที่ตรงสุดแต่ต้องอย่าลืมตรวจสอบช่องทางติดต่อ คุณ าพงานและทำสัญญาอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันข้อเสียอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต