ผู้เขียน หัวข้อ: TWPC คาดปิด M&A 2-3 ดีลปีนี้,วางเป้า 5 ปียอดขายโต 50% กำไรพุ่ง 2 เท่า  (อ่าน 327 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • *
  • กระทู้: 929
  • Popular Vote : 0
TWPC คาดปิด M&A 2-3 ดีลปีนี้,วางเป้า 5 ปียอดขายโต 50% กำไรพุ่ง 2 เท่า

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างศักยภาพในกลรเติบโตของบริษัท และต่อยอดการพัฒนาสินค้าเกษตรของบริษัทที่เกี่ยวข่องกับแป้งมันสำปะหลัง โดยครอบคลุมใน 4 ด้านที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นวัตกรรมด้านฟาร์มและเทคโนโลยีการเกษตร ธุรกิจด้านไบโอพลาสติก ส่วนผสมอาหาร และเทคโนโลยีการแปรรูปใหม่ๆ ซึ่งสามารถเข้ามาเสริมศักยภาพให้กับการพัฒนาสินค้าของบริษัท โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของบริษัท ที่จะสามารถช่วยให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น โดยวางงบลงทุนรวมในช่วง 2-3 ปีนี้ไว้ที่ 2 พันล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่เล็งเห็นว่าสามารถเข้ามาเสริมศักยภาพให้กับบริษัท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 65 ราว 2-3 ดีล มูลค่าลงทุนรวมในช่วง 100-1,000 ล้านบาท และหากมีความชัดเจนในดีลดังกล่าวคาดว่าจะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่เห็นภาพชัดเจนตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป และจะเสริมการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานของบริษัทมากขึ้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า "การลงทุนของบริษัทจะคำนึงถึงโอกาสในกลรต่อยอดธุรกิจ ที่จะเข้ามาเสริมพวามสามารถในการแร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และจะต้องมี Return กลับมาไม่ต่ำกว่า 15-20% เพื่อทำให้การลงทุนเราเห็นผลต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคตอย่างชัดเจน" นายโฮ กล่าว บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ในช่วง 5 ปีจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 50% จากปีนี้ที่มีรายได้สูงขึ้นมาแตะ 1 หมื่นล้านบาท หรือจะเพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 ปีข้างหน้า เติบโตในระดับตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องทุกปี และจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการสร้างการเติบโตของกำไรที่ตั้งเป้ากำไรเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า จากการที่มีสินค้าที่สร้างมาร์จิ้นสูงเข้ามาเสริมมากขึ้น โดยที่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่ม (HVA) อยู่ที่ 32% และคาดว่าจะเห็นการปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับกลุ่มสินค้าแป้งมันสำปะหลังในสัดส่วนราว 40% ภายใน 5 ปี

นอกจากนี้ ในปี 65 บริษัทจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจไบโอพลาสติกเข้ามาเสริม โดยที่โรงงานไบโอพลาสติก ROSECO เฟสแรก จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/65 และทยอยสร้างรายได้เข้ามา ขณะที่บริษัทเตรียมลงทุนเฟส 2 เพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ เงินลงทุน 70 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้าที่เข้ามามากขึ้น และตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจไบโอพลาสติกจะมีรายได้แตะ 1 พันล้านบาทในช่วง 3-5 ปีนี้

แนวโน้มการส่งออกสินค้าของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะโตต่อเนื่องจากปีก่อน รวมถึงจะมีการขยายการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากจีน และเวียดนามมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะในประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ที่บริษัทมองแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและความต้องการในผลิตภัณฑ์อาหารปีนี้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีปัจจัยเรื่องความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนที่เข้ามากระทบในระยะสั้น แต่ในระยะกลางเชื่อว่าจากศักยภาพของตลาดในโซนตะวันตกที่มีกำลังซื้อที่สูง ยังเป็นตลาดที่มีโอกาสไนการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะเข้ามาเสริมตลาดในเอเชียที่บริษัทการขายในไทย จีน เวียดนาม และประเทศอื่นในอาเซียน ที่เป็นตลาดหลักในเอเชียของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการทยอยออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีตัวเลือกที่หลากหลาย และชูจุดขายด้านนวัตกรรมของสินค้าที่เป็นกลุ่มสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่มออกมามากขึ้น ซึ่งจะวางแผนออกสินค้าใหม่ในแต่ละปีราว 10 รายการ โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่เพิ่มอีก 8-10 รายการ เช่น ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่ปราศจากกลูเตน (gluten free) และโซลูชั่นด้านอาหาร สำหรับความต้องการในผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังปี 65 คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ตามความต้องการเพื่อนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในทิศทางบวกตามความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังของตลาดชั้นนำอย่างจีน ซึ่งปริมาณหัวมันสำปะหลังในฤดูการผลิต ปี 64/65 คาดว่าจะมีปริมาณอยู่ที่ 33 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณน้ำฝนที่ช่วยหนุนต่อการปลูกมันสำปะหลัง