ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะการครองชีพครัวเรือนไทยเดือนก.พ.ปรับดีขึ้นแต่คาดว่าชั่วคราว  (อ่าน 290 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • *
  • กระทู้: 1,209
  • Popular Vote : 0
ภาวะการครองชีพครัวเรือนไทยเดือนก.พ.ปรับดีขึ้นแต่คาดว่าชั่วคราว เนื่องจากการยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน น่าจะส่งผลต่อภาวะการครองชีพครัวเรือนไทยในเดือนต่อไป

ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าปรับดีขึ้นอยู่ที่ 33.9 และ 36.0 จากมาตรการภาครัฐที่ทยอยออกเพื่อมาบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทั้งโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 ที่เลื่อนขึ้นมาเร็วกว่ากำหนดเดิม และการปรับลดภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ ในเดือนก.พ. ที่ผ่านมาระบบ Test&Go ได้เปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง และเป็นช่วงเริ่มโครงการเราเที่ยวกันระยะที่ 4 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในส่วนของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมพบว่าครัวเรือนบางส่วนเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยมีการซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ระดับราคาสินค้าที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนที่ยังมีภาวะเปราะบางและอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว ทั้งนี้ ผลสำรวจดัชนีฯ ในรอบเดือนก.พ. จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 ก.พ.65 ซึ่งยังไม่ได้เกิดผลกระทบจากการยกระดับของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ130 $/barrel ในช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นรายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในปัจจุบันพบว่า ครัวเรือน 33.8% ของครัวเรือนที่สำรวจมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งครัวเรือนส่วนมากต้องการรายได้เพิ่มเฉลี่ย 10-20% เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายปัจจุบัน ขณะที่ครัวเรือน 67.5% ไม่มีเงินออม (ครัวเรือนที่รายได้พอดีกับค่าใช้จ่ายและครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย) ทั้งนี้ ความไม่สอดคล้องของรายได้และค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน
ในระยะข้างหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่อาจอยู่ในระดับสูงเป็นเวลายาว ซึ่งจะมีผลต่อระดับเงินเฟ้อและภาวะการครองชีพของครัวเรือนในระยะถัดไป
KR-ECI ปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการภาครัฐ แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19
ในเดือนก.พ.65 ภาครัฐมีมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของครัวเรือนออกมาต่อเนื่องประกอบกับการเปิดให้ลงทะเบียน Test&Go อีกครั้ง ทำให้เกิดความหวังเกี่ยวกับภาคท่องเที่ยวมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนมุมมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนให้ปรับดีขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อน โดยดัชนี KR-ECI ปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 33.9 และ 36.0 จาก 30.9 และ 33.2 ในเดือนม.ค.65 ดัชนีปรับดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ แม้ว่ารายงานดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนก.พ.จะระบุว่าระดับดัชนีราคาในหมวดอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้านปรับเพิ่มขึ้นที่ 5.75% และ 5.29% YoY แต่ผลสำรวจ KR-ECI บ่งชี้ว่าความกังวลเกี่ยวกับระดับราคาอาหารและเครื่องดื่ม (ของรับประทาน) ลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งคาดว่ามาตรการคนละครึ่งระยะที่ 4 ของภาครัฐช่วยบรรเทาผลกระทบหรือความกังวลจากราคาอาหารที่ปรับขึ้นได้ เนื่องจากพิจารณายอดสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้าของมาตรการคนละครึ่งพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ใช้จ่ายไปกับร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 8 มี.ค. 65 อยู่ที่ 21,774.6 ล้านบาทจากยอดการใช้จ่ายรวม 51,153.1 ล้านบาท บ่งชี้ว่ามาตรการดังกล่าวเข้ามาช่วยแบ่งเบาและบรรเทาราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในส่วนของพฤติกรรมการใช้จ่ายเทียบกับเดือนก่อนพบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่ยังมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ครัวเรือนที่มีค่าใช้จ่ายลดลงกลับมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายไปใช้สินค้าที่มีราคาถูกลงหรือลดค่าใช้จ่ายลงเพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินทองในอนาคตจึงได้เริ่มลดค่าใช้จ่ายในปัจจุบันลง ดังนั้นแม้ดัชนีปรับดีขึ้นจากมาตรการของภาครัฐ แต่ภาพรวมครัวเรือนยังคงมีความกังวลจากสถานการณ์ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นในปัจจุบัน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นความสอดคล้องกันระหว่างรายได้และรายจ่ายของครัวเรือน พบว่ามีครัวเรือนจำนวน 33.8% ที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายรายเดือน และในสัดส่วนนี้ครัวเรือนส่วนมาก (35.2%) ต้องการรายได้เพิ่มอีกประมาณ 10-20% เพื่อให้มีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย (ยังไม่เหลือเก็บออม) ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนความเปราะบางของครัวเรือนกว่า 70% ของการสำรวจว่าไม่มีเงินเก็บออม (ครัวเรือนที่สำรวจมีรายได้ต่อเดือนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่ไม่เกิน 30,000 บาท)

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะเข้ามาเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าครัวเรือนมีแนวโน้มเผชิญกับภาวะราคาสินค้าที่สูงลากยาวจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงไปจนถึงครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่ภาครัฐยังทยอยออกมาตรการมาแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ต่อเนื่อง ล่าสุดมีการกล่าวถึงโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 ซึ่งจะมีการประเมินหลังสิ้นสุดระยะที่ 4 (เม.ย.65) นอกจากนี้สถานการณ์โควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องยังเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง แม้จะไม่ได้กระทบรุนแรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจแต่อาจเป็นตัวซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจให้มีความเปราะบางมากขึ้น

โดยสรุปแล้ว ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในระดับปัจจุบัน (ก.พ.65) และ 3 เดือนข้างหน้าปรับดีขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจในเดือนก.พ. ดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ยกระดับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลให้ระดับราคาพลังงานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีฯ ในเดือนก.พ.นี้เป็นปัจจัยชั่วคราว