ผู้เขียน หัวข้อ: ธปท.ชี้ช่อง SCB ลงทุน Bitkub ผ่านโฮลดิ้งไม่เข้าเกณฑ์เพดาน 3%  (อ่าน 522 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • *
  • กระทู้: 1,059
  • Popular Vote : 0
ธปท.ชี้ช่อง SCB ลงทุน Bitkub ผ่านโฮลดิ้งไม่เข้าเกณฑ์เพดาน 3% แต่อาจกระทบเงินกองทุน

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กรณีของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้าลงทุนใน BITKUB Capital Group จะต้องพิจารณาว่าเกินกว่า 3% ของเงินกองทุนตามหลักเกณฑ์ใหม่ของ ธปท.หรือไม่ แต่หากเกิน 3% ก็สามารถทำได้ผ่านโฮลดิ้ง เอสซีบี เอกซ์ ในส่วนที่เกินจาก 3% แต่อาจมีผลให้เงินกองทุนลดลง ซึ่งถ้าเป็นแนวทางนี้ธนาคารอาจต้องเพิ่มเงินกองทุนด้วยหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติในการขยายการลงทุนที่จะต้องเพิ่มทุน ทั้งนี้ เข้าใจว่าทาง SCB อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าการลงทุนดังกล่าวจะแตกต่างไปจากเดิมที่เคยประกาศไว้หรือไม่

ทั้งนี้ ธปท.จะออกหลักเกณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีหน่วยงานกำกับดูแลให้ใบอนุญาตแล้ว เช่น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเอกซ์เชนจ์, โบรกเกอร์ และดีลเลอร์ เป็นต้น รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประโยชน์ และความเสี่ยงยังไม่ชัดเจน และเข้าทดทอบในแซนด์บ็อกซ์ของ ธปท.ให้สามารถลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ได้ไม่เกิน 3% ของเงินกองทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากเดิมไม่สามารถให้ลงทุนได้ คาดหลักเกณฑ์จะออกและมีผลบังคับใช้ช่วงกลางปี 65

อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์สามารถมีแนวทางจัดการด้านความเสี่ยง สามารถดูแลทั้งเรื่องธรรมาภิบาล ความเสี่ยงระบบงาน และคุ้มครองผู้ใช้บริการได้ จะอนุญาตให้ปลดล็อกเพดานเงินลงทุนที่ 3% และให้กลุ่มธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์ ไม่เชื่อมโยงกับธนาคารพาณิชย์สามารถดำเนินการได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ฝากเงินและระบบการเงิน แต่ ธปท.ยังไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง และธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์ต้องมีโครงสร้างกรรมการไม่ขัดต่อผลประโยชน์ มีเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยง และแยกธุรกิจที่มีความเสี่ยงออกจากธนาคารพาณิชย์

นางรุ่ง กล่าวว่า แนวทางการกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารพาณิชย์ ที่ผ่านมาให้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทางอ้อมได้ แต่ต้องมาหารือกับ ธปท.ก่อน เช่น การขอให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกใบอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) การเป็นโบรกเกอร์หรือเอ็กซ์เชนจ์สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น ซึ่งจะต้องไม่กระทบกับความเสี่ยงของเงินฝากประชาชน โดยยังไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ยุ่งเกี่ยวโดยตรง

นอกจากนี้ ไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือกระตุ้นความสนใจลูกค้าในวงกว้าง เช่น เสนอขายลูกค้าธนาคารผ่านสาขา เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และไม่อนุญาตให้ขอความยินยอมจากลูกค้า รวมทั้ง ต้องจัดให้มีโครงสร้างกรรมการ มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี ต้องพิทักษ์เงินฝากเต็มที่ ไม่ขัดแย้งผลประโยชน์ ต้องมีเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยง และระบบงานไอที ต้องแยกออกจากระบบเกี่ยวข้องกับธนาคารพาณิชย์ชัดเจน เพื่อปกป้องเงินฝาก ซึ่งจะต้องเพียงพอรองรับความเสี่ยงและรองรับรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ