ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ  (อ่าน 16041 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Gap_SRC_prototype

  • *
  • กระทู้: 24
  • Popular Vote : 1
  • แรงม้าน้อยนิด แรงตีนมหาศาล
สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« เมื่อ: เมษายน 03, 2011, 10:29:46 PM »
น้ำมันเครื่องเกรดเซมิ มีส่วนมั้ยคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2011, 10:30:30 PM โดย Gab_Gaab »

ออฟไลน์ pimniyoum

  • SUBARU IMPREZA STI
  • *
  • กระทู้: 213
  • Popular Vote : 5
  • ลูกแมวอ้วนGRB 2500 เดิมๆ
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 03, 2011, 11:02:31 PM »
น้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพน้ำมันเครื่องขาดแล้วก็มีอาหลายสาเหตุเลยครับพวกแหวนสึกจนทำให้น้ำมันเครื่องไหล

ออฟไลน์ HSV

  • *
  • กระทู้: 428
  • Popular Vote : 0
  • K45
    • อีเมล์
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 03, 2011, 11:10:53 PM »
ตามอายุเครื่อง
  ปํ๊มน้ำมันเครื่อง แรงดันไม่ดี
ชาฟแตนดาร์ด ไม่ค่อยทน (ตามอายุเป็นหลักด้วย)
ถ้าเครื่องที่เปิดมาแล้ว ถึงชาฟ  ก็clearance ปรับเบอร์ชาฟไม่ดี
ใส่ของแต่ง เช่น ออยคูลเลอร์เก่าญี่ปุ่น ที่รถเครื่องพัง มี เศษเหล็กเข้าไป
น้ำมันเครื่อง หมดอายุ (ความร้อน ถึงจุดเดือด  เช่นไปวิ่งสนาม แล้วฮีต แล้วไม่เปลี่ยน)
torqe is what makes the car accelerate,horse power maintains that.

ออฟไลน์ name_joker

  • *
  • กระทู้: 684
  • Popular Vote : 24
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 06:32:56 PM »
เครื่องแต่ละตัวก็มีจุดอ่อน เครื่อง EJ จุดอ่อนที่กล่าวถึงกันเป็นอันมากก็คือ ชาร์พ นั่นเอง

ชาร์พ ทำหน้าที่อะไร ? มันทำหน้าที่เป็นเหมือนชุดเชื่อมต่อ ระหว่าง ก้านสูบ กับข้อเหวี่ยง ไม่ให้เนื้อของข้อเหวี่ยงกับก้านสูบสัมผัสกันโดยตรง
แล้ว... ชาร์พมันก็โลหะ ? แล้วมันช่วยยังไง ???

ชารฺ์พเป็นโลหะบางๆ ที่ทำหน้าที่รับน้ำมันเครื่องและสารหล่อลื่นที่จ่ายมาจากข้อเหวี่ยง มาแทรกระหว่างตัวมันเองกับโลหะที่สัมผัส เพื่อหล่อลื่นและลดการสึกหรอครับ

เพราะงั้น ชาร์พเอง ก็ทำงานไม่ได้ หากน้ำมันเครื่องขาด หรือขาดคุณสมบัติในการหล่อลื่นนะครับ

เครื่อง EJ เอง ชาร์พก็ไม่ได้อ่อนแออะไรครับ แค่พอเราใช้น้ำมันเครื่องจนมันเสียไปแล้วเนี่ย มันก็จะเป็นจำเลยที่จะพังก่อนอันดับแรกเท่านั้นเองครับ

แล้วที่ว่า เครื่องมากับหัว วางลงไป ออกวิ่งแล้วละลายกันแทบทุกตัวนั้น ผมว่ามันก็มีหลักการของมันอยู่ครับ
1. เครื่องเหล่านั้นผ่านการใช้งานมาอย่างหนักจากที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า ? ทำให้ชาร์พสึกหรอมากอยู่แล้ว มาโดนกระทำชำเราต่อ ก็ขาดใจในที่สุด (ลองดู youtube นะครับ คนญี่ปุ่นเค้าท้าหนัไม่ใช่เล่นนะครับ เวลาเค้าขับแข่งขันกันหนะ)
2. เครื่องไม่ใช่มานาน วางกองๆเอาไว้ น้ำมันหล่อลื่นทั้งหมดไม่หลงเหลืออยู่ในข้อเหวี่ยงแล้ว แค่เราบิดสตาร์ท ชาร์พก็เป็นรอยแล้วครับ เมื่อมันเป็นรอยลึกแล้ว อีกไม่นานก็ละลายครับ

แล้วถ้าเปลี่ยนมาแล้ว แล้วยังละลายอีก เกิดขึ้นได้ยังไง ???
1. ใช้รอบสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน น้ำมันเดือด จนเหลว ไม่หล่อลื่นแล้ว ชาร์พก็เรียบร้อยครับ
2. น้ำมันเครื่องขาด หรือเป็นฟอง ขาดก็คือขาดครับ แบบ ไม่ครบ รอบสูงๆน้ำมันเครื่องไม่พอหล่อลื่นเครื่อง ก็พังครับ ต่อมาน้ำมันเป็นฟอง คือเอาไปขับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมามากๆ กรณีนี้เกิดเวลาขับในสนาม ที่ต้องเบรค ต้องเร่ง ต้องเลี้ยว แรงๆ บ่อยติดต่อกันมากๆ น้ำมันในอ่างน้ำมันเครื่องจะกระฉอกจะเป็นฟอง เมื่อฝักบัวน้ำมันดูดฟองเข้าไป น้ำมันก็ขาดช่วง ทำให้หล่อลื่นไม่สมบูรณ์ โดนบ่อยๆ ก็ละลายได้ครับ
2. เครื่องประกอบไม่ได้ clearance  มันก็เหมือนเวลาเราขันน๊อตอะไรแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไปหนะครับ ทำให้มันหมุนไม่ได้ หรือหลวมเกินไป โดนแรงกระทำบ่อยๆ มันก็พังครับ
3. ชิ้นส่วนอื่นขาดมาตรฐานหรือเสีย เช่น กรองน้ำมันเครื่องไม่สะอาด (ไม่เปลี่ยนเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง) แผง oil cooler มีสิ่งสกปรกข้างใน น้ำมันก็พาเอาไอสิ่งเหล่านั้นเข้าเครื่อง แล้วก็อุดตัน แล้วก็พังครับ หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมันเครื่องตาย ส่งผผลให้แรงดันตก แล้วก็พังครับ

แล้วจำป้องกันได้ยังไง ก็ต้องดูครับ ว่าเราขับแบบไหน ถ้าเราขับธรรมดา ไม่ได้เค้นเหยียบมิดรอบตลอดทุกเกียร์ วิ่งบูสแช่ยาวๆสุดไมล์ หรือวิ่งสนามตลอดเดือนละสองรอบ รถเดิมๆ เอาอยู่แน่นอนอยู่แล้วครับ รถเค้าทำไว้เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
แต่ถ้าเราทำไอที่ว่าข้างบนบ่อยๆ มีอะไรกันไว้ย่อมดีกว่าครับ เช่น
- ใช้น้ำมันเครื่องเกรดสูงหน่อยๆ เลือกให้ตรงการใช้งาน ใช้รอบสูงบ่อยๆ ร้อนตัดๆ ก็เบอร์ 60 ถ้าวิ่งป๋องแป๋งใช้ประจำวันอย่าใช้เบอร์สูงนำครับ ใช้ 45 - 50 ก็พอ เพราะเหนียวมากกว่ามันจะร้อน กว่าจะพร้อมใช้ เครื่องก็สึกหรอไปเยอะแล้วครับ เอาแบบพอดีๆดีกว่านะครับ
(ตัวเลขข้างหน้า W ก็มีผล มันคืออุณหภูมิต่ำสุดที่ตัวน้ำมันเครื่องเองสามารถหล่อลื่นได้ เช่น 10W50 คือความเหนียว 50 เย็นสุดที่หล่อลื่นได้คือ 10 C ถ้าอยู่ที่หนาวๆหน่อย อาทิหน้าหนาวบนดอยภาคเหนือ หาเลขข้างหน้าเบอร์ 0Wหรือเบอร์5Wก็ดีครับ range มันดีกว่า เวลา start จะได้ไม่สึกหรอมากนัก)
- ชาร์พแต่ง แบบทนมือทนเท้า (แต่จำไว้นะครับ ของแต่งมันดีกว่าคือทนกว่าของเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพังไม่เป็นนะครับ มันแค่ยอมให้เราผิดพลาดได้มากขึ้นเท่านั้นครับ)
- ใส่ oil cooler เวลาวิ่งยาวๆ รอบสูงๆ น้ำมันจะได้ไม่เดือด หล่อลื่นได้ตลอด trip
- ปั๊มน้ำมันเครื่องแต่ง แรงดันมากๆ น้ำมันจะได้จ่ายพอในรอบสูงๆแบบต่อเนื่อง (แบบ 5000รอบ +)
- อ่างน้ำมันแต่งเครื่องแบบมีแผ่นกันกระฉอกและเพิ่มปริมาตร ป้องกันการหล่อลื่นไม่สมบูรณ์
- และอื่นๆอีกมากมาย

แนะนำได้เท่านี้ครับ ขอให้โชคดีครับผม

ออฟไลน์ TezzA

  • SSS FC No. 1
  • *
  • กระทู้: 1,008
  • Popular Vote : 3
  • มือใหม่ หัด4
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 10:42:27 PM »
ชัดเจนมากครับ  ชอบ!!! emo65o emo65o emo65o

ออฟไลน์ ScooBy crew

  • *
  • กระทู้: 1,095
  • Popular Vote : 22
    • อีเมล์
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 11:48:19 PM »
@ k.Name  เยี่ยมครับละเอียดดีครับ
Deestone the heart of your control

ออฟไลน์ Gap_SRC_prototype

  • *
  • กระทู้: 24
  • Popular Vote : 1
  • แรงม้าน้อยนิด แรงตีนมหาศาล
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 05, 2011, 12:31:18 AM »
เครื่องแต่ละตัวก็มีจุดอ่อน เครื่อง EJ จุดอ่อนที่กล่าวถึงกันเป็นอันมากก็คือ ชาร์พ นั่นเอง

ชาร์พ ทำหน้าที่อะไร ? มันทำหน้าที่เป็นเหมือนชุดเชื่อมต่อ ระหว่าง ก้านสูบ กับข้อเหวี่ยง ไม่ให้เนื้อของข้อเหวี่ยงกับก้านสูบสัมผัสกันโดยตรง
แล้ว... ชาร์พมันก็โลหะ ? แล้วมันช่วยยังไง *?

ชารฺ์พเป็นโลหะบางๆ ที่ทำหน้าที่รับน้ำมันเครื่องและสารหล่อลื่นที่จ่ายมาจากข้อเหวี่ยง มาแทรกระหว่างตัวมันเองกับโลหะที่สัมผัส เพื่อหล่อลื่นและลดการสึกหรอครับ

เพราะงั้น ชาร์พเอง ก็ทำงานไม่ได้ หากน้ำมันเครื่องขาด หรือขาดคุณสมบัติในการหล่อลื่นนะครับ

เครื่อง EJ เอง ชาร์พก็ไม่ได้อ่อนแออะไรครับ แค่พอเราใช้น้ำมันเครื่องจนมันเสียไปแล้วเนี่ย มันก็จะเป็นจำเลยที่จะพังก่อนอันดับแรกเท่านั้นเองครับ

แล้วที่ว่า เครื่องมากับหัว วางลงไป ออกวิ่งแล้วละลายกันแทบทุกตัวนั้น ผมว่ามันก็มีหลักการของมันอยู่ครับ
1. เครื่องเหล่านั้นผ่านการใช้งานมาอย่างหนักจากที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า ? ทำให้ชาร์พสึกหรอมากอยู่แล้ว มาโดนกระทำชำเราต่อ ก็ขาดใจในที่สุด (ลองดู youtube นะครับ คนญี่ปุ่นเค้าท้าหนัไม่ใช่เล่นนะครับ เวลาเค้าขับแข่งขันกันหนะ)
2. เครื่องไม่ใช่มานาน วางกองๆเอาไว้ น้ำมันหล่อลื่นทั้งหมดไม่หลงเหลืออยู่ในข้อเหวี่ยงแล้ว แค่เราบิดสตาร์ท ชาร์พก็เป็นรอยแล้วครับ เมื่อมันเป็นรอยลึกแล้ว อีกไม่นานก็ละลายครับ

แล้วถ้าเปลี่ยนมาแล้ว แล้วยังละลายอีก เกิดขึ้นได้ยังไง *?
1. ใช้รอบสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน น้ำมันเดือด จนเหลว ไม่หล่อลื่นแล้ว ชาร์พก็เรียบร้อยครับ
2. น้ำมันเครื่องขาด หรือเป็นฟอง ขาดก็คือขาดครับ แบบ ไม่ครบ รอบสูงๆน้ำมันเครื่องไม่พอหล่อลื่นเครื่อง ก็พังครับ ต่อมาน้ำมันเป็นฟอง คือเอาไปขับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมามากๆ กรณีนี้เกิดเวลาขับในสนาม ที่ต้องเบรค ต้องเร่ง ต้องเลี้ยว แรงๆ บ่อยติดต่อกันมากๆ น้ำมันในอ่างน้ำมันเครื่องจะกระฉอกจะเป็นฟอง เมื่อฝักบัวน้ำมันดูดฟองเข้าไป น้ำมันก็ขาดช่วง ทำให้หล่อลื่นไม่สมบูรณ์ โดนบ่อยๆ ก็ละลายได้ครับ
2. เครื่องประกอบไม่ได้ clearance  มันก็เหมือนเวลาเราขันน๊อตอะไรแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไปหนะครับ ทำให้มันหมุนไม่ได้ หรือหลวมเกินไป โดนแรงกระทำบ่อยๆ มันก็พังครับ
3. ชิ้นส่วนอื่นขาดมาตรฐานหรือเสีย เช่น กรองน้ำมันเครื่องไม่สะอาด (ไม่เปลี่ยนเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง) แผง oil cooler มีสิ่งสกปรกข้างใน น้ำมันก็พาเอาไอสิ่งเหล่านั้นเข้าเครื่อง แล้วก็อุดตัน แล้วก็พังครับ หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมันเครื่องตาย ส่งผผลให้แรงดันตก แล้วก็พังครับ

แล้วจำป้องกันได้ยังไง ก็ต้องดูครับ ว่าเราขับแบบไหน ถ้าเราขับธรรมดา ไม่ได้เค้นเหยียบมิดรอบตลอดทุกเกียร์ วิ่งบูสแช่ยาวๆสุดไมล์ หรือวิ่งสนามตลอดเดือนละสองรอบ รถเดิมๆ เอาอยู่แน่นอนอยู่แล้วครับ รถเค้าทำไว้เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
แต่ถ้าเราทำไอที่ว่าข้างบนบ่อยๆ มีอะไรกันไว้ย่อมดีกว่าครับ เช่น
- ใช้น้ำมันเครื่องเกรดสูงหน่อยๆ เลือกให้ตรงการใช้งาน ใช้รอบสูงบ่อยๆ ร้อนตัดๆ ก็เบอร์ 60 ถ้าวิ่งป๋องแป๋งใช้ประจำวันอย่าใช้เบอร์สูงนำครับ ใช้ 45 - 50 ก็พอ เพราะเหนียวมากกว่ามันจะร้อน กว่าจะพร้อมใช้ เครื่องก็สึกหรอไปเยอะแล้วครับ เอาแบบพอดีๆดีกว่านะครับ
(ตัวเลขข้างหน้า W ก็มีผล มันคืออุณหภูมิต่ำสุดที่ตัวน้ำมันเครื่องเองสามารถหล่อลื่นได้ เช่น 10W50 คือความเหนียว 50 เย็นสุดที่หล่อลื่นได้คือ 10 C ถ้าอยู่ที่หนาวๆหน่อย อาทิหน้าหนาวบนดอยภาคเหนือ หาเลขข้างหน้าเบอร์ 0Wหรือเบอร์5Wก็ดีครับ range มันดีกว่า เวลา start จะได้ไม่สึกหรอมากนัก)
- ชาร์พแต่ง แบบทนมือทนเท้า (แต่จำไว้นะครับ ของแต่งมันดีกว่าคือทนกว่าของเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพังไม่เป็นนะครับ มันแค่ยอมให้เราผิดพลาดได้มากขึ้นเท่านั้นครับ)
- ใส่ oil cooler เวลาวิ่งยาวๆ รอบสูงๆ น้ำมันจะได้ไม่เดือด หล่อลื่นได้ตลอด trip
- ปั๊มน้ำมันเครื่องแต่ง แรงดันมากๆ น้ำมันจะได้จ่ายพอในรอบสูงๆแบบต่อเนื่อง (แบบ 5000รอบ +)
- อ่างน้ำมันแต่งเครื่องแบบมีแผ่นกันกระฉอกและเพิ่มปริมาตร ป้องกันการหล่อลื่นไม่สมบูรณ์
- และอื่นๆอีกมากมาย

แนะนำได้เท่านี้ครับ ขอให้โชคดีครับผม

ขอบคุณมากคับ

ออฟไลน์ l3link_182

  • *
  • กระทู้: 125
  • Popular Vote : 0
  • วิ่งจนล้อหลังแซงล้อหน้า!!!!!
    • อีเมล์
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 05, 2011, 02:25:39 AM »
ขอบคุณK. Nameสำหรับความรู้นะครับ

ออฟไลน์ สาหร่าย05

  • *
  • กระทู้: 3,439
  • Popular Vote : 32
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 05, 2011, 08:16:43 AM »
 emo72o

  เหมือนจะเคยผ่านๆตามาบ้างนะครับ สำหรับคำถามนี้  จำได้ว่านายอัศ (Azzy) เคยบอกไว้ว่าให้ดูสองอย่างด้วยกัน

คือทั้ง Hardware ตามที่คุณเนมบอก รวมไปถึง Software ด้วย

Software ที่ว่า ถ้าจำไม่ผิด นายอัศเค้าหมายถึงการจูนที่ผิดพลาด หรือมีอุปกรณ์อะไรที่บกพร่องในการสั่งงานของ ECU

ก็เป็นอีกสาเหตุหลักๆที่ทำให้ bearing พังเอาง่ายๆเหมือนกัน   emo76o
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 05, 2011, 08:21:44 AM โดย สาหร่าย05 »
บ้าพลัง คลั่งอำนาจ  เชิญใส่กระโปรง แล้วออกไป๊!!!

ออฟไลน์ CHUND

  • *
  • กระทู้: 2,791
  • Popular Vote : 27
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 07:39:06 PM »
เครื่องแต่ละตัวก็มีจุดอ่อน เครื่อง EJ จุดอ่อนที่กล่าวถึงกันเป็นอันมากก็คือ ชาร์พ นั่นเอง

ชาร์พ ทำหน้าที่อะไร ? มันทำหน้าที่เป็นเหมือนชุดเชื่อมต่อ ระหว่าง ก้านสูบ กับข้อเหวี่ยง ไม่ให้เนื้อของข้อเหวี่ยงกับก้านสูบสัมผัสกันโดยตรง
แล้ว... ชาร์พมันก็โลหะ ? แล้วมันช่วยยังไง *?

ชารฺ์พเป็นโลหะบางๆ ที่ทำหน้าที่รับน้ำมันเครื่องและสารหล่อลื่นที่จ่ายมาจากข้อเหวี่ยง มาแทรกระหว่างตัวมันเองกับโลหะที่สัมผัส เพื่อหล่อลื่นและลดการสึกหรอครับ

เพราะงั้น ชาร์พเอง ก็ทำงานไม่ได้ หากน้ำมันเครื่องขาด หรือขาดคุณสมบัติในการหล่อลื่นนะครับ

เครื่อง EJ เอง ชาร์พก็ไม่ได้อ่อนแออะไรครับ แค่พอเราใช้น้ำมันเครื่องจนมันเสียไปแล้วเนี่ย มันก็จะเป็นจำเลยที่จะพังก่อนอันดับแรกเท่านั้นเองครับ

แล้วที่ว่า เครื่องมากับหัว วางลงไป ออกวิ่งแล้วละลายกันแทบทุกตัวนั้น ผมว่ามันก็มีหลักการของมันอยู่ครับ
1. เครื่องเหล่านั้นผ่านการใช้งานมาอย่างหนักจากที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า ? ทำให้ชาร์พสึกหรอมากอยู่แล้ว มาโดนกระทำชำเราต่อ ก็ขาดใจในที่สุด (ลองดู youtube นะครับ คนญี่ปุ่นเค้าท้าหนัไม่ใช่เล่นนะครับ เวลาเค้าขับแข่งขันกันหนะ)
2. เครื่องไม่ใช่มานาน วางกองๆเอาไว้ น้ำมันหล่อลื่นทั้งหมดไม่หลงเหลืออยู่ในข้อเหวี่ยงแล้ว แค่เราบิดสตาร์ท ชาร์พก็เป็นรอยแล้วครับ เมื่อมันเป็นรอยลึกแล้ว อีกไม่นานก็ละลายครับ

แล้วถ้าเปลี่ยนมาแล้ว แล้วยังละลายอีก เกิดขึ้นได้ยังไง *?
1. ใช้รอบสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน น้ำมันเดือด จนเหลว ไม่หล่อลื่นแล้ว ชาร์พก็เรียบร้อยครับ
2. น้ำมันเครื่องขาด หรือเป็นฟอง ขาดก็คือขาดครับ แบบ ไม่ครบ รอบสูงๆน้ำมันเครื่องไม่พอหล่อลื่นเครื่อง ก็พังครับ ต่อมาน้ำมันเป็นฟอง คือเอาไปขับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมามากๆ กรณีนี้เกิดเวลาขับในสนาม ที่ต้องเบรค ต้องเร่ง ต้องเลี้ยว แรงๆ บ่อยติดต่อกันมากๆ น้ำมันในอ่างน้ำมันเครื่องจะกระฉอกจะเป็นฟอง เมื่อฝักบัวน้ำมันดูดฟองเข้าไป น้ำมันก็ขาดช่วง ทำให้หล่อลื่นไม่สมบูรณ์ โดนบ่อยๆ ก็ละลายได้ครับ
2. เครื่องประกอบไม่ได้ clearance  มันก็เหมือนเวลาเราขันน๊อตอะไรแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไปหนะครับ ทำให้มันหมุนไม่ได้ หรือหลวมเกินไป โดนแรงกระทำบ่อยๆ มันก็พังครับ
3. ชิ้นส่วนอื่นขาดมาตรฐานหรือเสีย เช่น กรองน้ำมันเครื่องไม่สะอาด (ไม่เปลี่ยนเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง) แผง oil cooler มีสิ่งสกปรกข้างใน น้ำมันก็พาเอาไอสิ่งเหล่านั้นเข้าเครื่อง แล้วก็อุดตัน แล้วก็พังครับ หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมันเครื่องตาย ส่งผผลให้แรงดันตก แล้วก็พังครับ

แล้วจำป้องกันได้ยังไง ก็ต้องดูครับ ว่าเราขับแบบไหน ถ้าเราขับธรรมดา ไม่ได้เค้นเหยียบมิดรอบตลอดทุกเกียร์ วิ่งบูสแช่ยาวๆสุดไมล์ หรือวิ่งสนามตลอดเดือนละสองรอบ รถเดิมๆ เอาอยู่แน่นอนอยู่แล้วครับ รถเค้าทำไว้เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
แต่ถ้าเราทำไอที่ว่าข้างบนบ่อยๆ มีอะไรกันไว้ย่อมดีกว่าครับ เช่น
- ใช้น้ำมันเครื่องเกรดสูงหน่อยๆ เลือกให้ตรงการใช้งาน ใช้รอบสูงบ่อยๆ ร้อนตัดๆ ก็เบอร์ 60 ถ้าวิ่งป๋องแป๋งใช้ประจำวันอย่าใช้เบอร์สูงนำครับ ใช้ 45 - 50 ก็พอ เพราะเหนียวมากกว่ามันจะร้อน กว่าจะพร้อมใช้ เครื่องก็สึกหรอไปเยอะแล้วครับ เอาแบบพอดีๆดีกว่านะครับ
(ตัวเลขข้างหน้า W ก็มีผล มันคืออุณหภูมิต่ำสุดที่ตัวน้ำมันเครื่องเองสามารถหล่อลื่นได้ เช่น 10W50 คือความเหนียว 50 เย็นสุดที่หล่อลื่นได้คือ 10 C ถ้าอยู่ที่หนาวๆหน่อย อาทิหน้าหนาวบนดอยภาคเหนือ หาเลขข้างหน้าเบอร์ 0Wหรือเบอร์5Wก็ดีครับ range มันดีกว่า เวลา start จะได้ไม่สึกหรอมากนัก)
- ชาร์พแต่ง แบบทนมือทนเท้า (แต่จำไว้นะครับ ของแต่งมันดีกว่าคือทนกว่าของเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพังไม่เป็นนะครับ มันแค่ยอมให้เราผิดพลาดได้มากขึ้นเท่านั้นครับ)
- ใส่ oil cooler เวลาวิ่งยาวๆ รอบสูงๆ น้ำมันจะได้ไม่เดือด หล่อลื่นได้ตลอด trip
- ปั๊มน้ำมันเครื่องแต่ง แรงดันมากๆ น้ำมันจะได้จ่ายพอในรอบสูงๆแบบต่อเนื่อง (แบบ 5000รอบ +)
- อ่างน้ำมันแต่งเครื่องแบบมีแผ่นกันกระฉอกและเพิ่มปริมาตร ป้องกันการหล่อลื่นไม่สมบูรณ์
- และอื่นๆอีกมากมาย

แนะนำได้เท่านี้ครับ ขอให้โชคดีครับผม

เยี่ยมไปเลย 

ออฟไลน์ 066043415

  • *
  • กระทู้: 361
  • Popular Vote : 6
    • อีเมล์
Re: สาเหตุของชาร์ฟละลายมีอะไรมั่งคับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 08:16:38 PM »
ยอดเยี่ยม   
แต่ว่าของผมละลายไป 2 เครื่องแล้วแหละ ก้านสูบคดมั่ง เสื้อแตกมั่ง  สัก 5-6 ปีก่อน  เดี๊ยวนี้แก่ขึ้นเลิกขับแบบนั้นไปแล้ว
 สาเหตุเดียว.............TEENหนัก  ไม่บันยะบันยัง